หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 493 สืบหาไส้ศึกชาวเกาหลี เหิงอ๋องลงไม้ลงมือ (4)
ตอนที่ 493 สืบหาไส้ศึกชาวเกาหลี เหิงอ๋องลงไม้ลงมือ (4)
“เอ๊ะ?” สตรีที่อยู่ในอ้อมกอดยังขยิบตาอย่างไร้เดียงสา พลางถามด้วยสีหน้าที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ท่านแม่ทัพไม่ใช่ว่ากำลังโกรธข้าอยู่หรือ คนที่โกรธไม่ใช่ว่าควรทำสงครามเย็นอยู่หรือ เหตุใดยังมาที่เตียงนอน…อื้ม…”
เหยาฮูหยินยังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกแม่ทัพเว่ยจุมพิตอย่างดุเดือดทันที
เดิมทีแม่ทัพเว่ยที่โมโหเป็นฟืนเป็นไฟแล้วยังไม่ได้ดีขึ้น ทว่าอารมณ์โมโหกลับเปลี่ยนเป็นอารมณ์คลั่งรักทันที สตรีที่อยู่ในอ้อมกอดกลับไม่ยอมเงียบปาก ยังคงหยอกเย้าเขาเช่นนี้ ซ้ำยังบิดตัวดิ้นไปดิ้นมาราวกับปลาที่กำลังโดนจับ
นางรู้เส้นลมปราณทั้งหมดบนร่างกายมนุษย์ แค่นางต้องการหยุดการกระทำที่เหี้ยมเกรียมของเขา ก็หยุดได้ทันที ทว่าทั้งสองเหมือนกำลังทำศึกสงครามกัน กลิ้งจากหัวเตียงไปท้ายเตียง ทำให้เตียงผ้าปูสีแดงไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
“พอเถอะ! มีอะไรก็คุยกันดีๆ!” ตอนนี้ผมเผ้าเหยาเยี่ยนอวี่รุงรังไปหมด เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ นางดึงผ้าห่มผืนบางมาพลางพิงอยู่ตรงมุมเตียงนอน พร้อมทั้งหายใจหอบและคุยกับสุนัขป่าผู้หิวโหยด้วยเหตุผล “อย่าใช้กำลังอีก! วีรบุรุษตกลงกันด้วยวาจา ไม่ใช่ด้วยกำลัง!”
หลังจากต่อล้อต่อเถียงกันไปสักพัก ความเร่าร้อนภายในใจของแม่ทัพเว่ยก็แผ่วลง ไม่ได้เหี้ยมเกรียมเหมือนตอนแรก เพียงแต่ยังมีความคิดที่จะพัวพันกับนางต่อ “เจ้ามาหาข้าดีๆ ไม่แน่ข้าอาจพิจารณาอภัยให้เจ้า”
เหยาฮูหยินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “เป็นไปได้อย่างไร! ข้าขยับไปหา เจ้าคงกลืนกินข้าอย่างสิ้นซากแน่นอน!”
“มาหาข้าดีๆ ” แม่ทัพเว่ยพูดด้วยความอดทน
“อืมๆ!” เหยาฮูหยินส่ายหัว
“ถ้าครั้งนี้ถูกข้าจับได้ เจ้าต้องเจอดีแน่” แม่ทัพเว่ยตักเตือนด้วยความหวังดี
“อ้อ?” เหยาฮูหยินยิ้มอย่างซุกซน พลางถามด้วยน้ำเสียงที่แกล้งทำเป็นตกตะลึง “หรือว่าเจ้าทำข้าถึงตาย”
“…” แม่ทัพเว่ยโยนหมอนในมือทิ้งบนพื้น แล้วลุกขึ้นคร่อมร่างนาง
ถ้าข้ายังอดทนได้อีก เกรงว่าคงไม่ใช่บุรุษแล้ว!
หลักๆ แล้ว วันนี้ถังเซียวอี้แค่ไปส่งศพคู่สามีภรรยาติ้งโหวที่ล่วงลับไป เกิดเป็นหลานเขยของอิ่งติ้งโหว เขาก็ถือว่าเป็นตัวเอกในงานครั้งนี้อยู่แล้ว ทว่าหลังจากเขาสะสางงานที่ต้องรับผิดชอบเสร็จ ก็เผ่นหนีไปอย่างเงียบๆ ทันที เหตุเพราะสำหรับรองแม่ทัพถังแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือจัดการราชกิจวุ่นๆ ทั้งหมดก่อนที่จะกลับจากงานส่งศพ จากนั้นพาฮูหยินไปท่องเที่ยวในสถานที่เขาสวยน้ำใสที่ไม่มีใครอื่นใดอยู่ จะได้ใช้ชีวิตคู่สามีภรรยาที่เพิ่งได้แต่งงานกันใหม่ดีๆ เสียที
เขาเพิ่งสู่ขอภรรยามาได้ไม่กี่วัน ภรรยาก็ต้องกลับไปไว้อาลัยที่จวนต้นตระกูลแล้ว! สวรรค์ไม่ยุติธรรมต่อเขาเกินไปหรือเปล่า!
ขณะที่กำลังพร่ำบ่นอย่างไม่พอใจ รองแม่ทัพถังที่เพิ่งอาบน้ำแต่งกายเสร็จกำลังมุ่งหน้าไปยังเรือนเยี่ยนอาน
เหตุเพราะเหยาฮูหยินเป็นคนใจกว้าง อีกทั้งยังแตกต่างจากฮูหยินทั่วไป…เหยาฮูหยินเป็นตั้งหมอหลวงระดับสาม ต้องคอยไปสะสางราชกิจที่สำนักแพทย์ทุกวัน จึงแตกต่างจากฮูหยินเก๊ามิ่งทั่วไป ดังนั้น ถังเซียวอี้เข้าออกเรือนเยี่ยนอานเป็นประจำ กลับไม่มีข้อห้ามไม่ให้เข้าเรือนสตรีเหมือนจวนอื่นๆ
เพียงแต่ว่าวันนี้กลับไม่เหมือนที่ผ่านไป เขาเข้าประตูใหญ่ของเรือนก็ถูกเซียงหรูขวางทางไว้ “รองแม่ทัพ ท่านมาแล้วหรือ”
“อืม” ถังเซียวอี้ไม่ได้คิดมากอะไร พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน
“เอ่อ รองแม่ทัพถังมีเรื่องอะไรเร่งด่วนหรือ” เซียงหรูรีบเดินหน้าไปขวางทางเดินของรองแม่ทัพถังไว้
“จุ๊! ข้ามีเรื่องอะไรยังต้องรายงานกับสาวใช้อย่างเจ้าอีกหรือ ช่างไม่มีมารยาทนัก” รองแม่ทัพถังแค่นเสียงไม่พอใจ หลบไปทางอื่นพลางเดินไปด้านหน้าต่อ
“รองแม่ทัพถัง!” เซียงหรูรีบเดินหน้าไปขวางทางรองแม่ทัพถังไว้ “แม่ทัพของพวกบ่าวอยู่ในเรือนเจ้าค่ะ”
“ข้ารู้แล้ว!” ถังเซียวอี้เลิกคิ้วที่เรียงสวยขึ้น ช่างมากความจริงๆ! แม่ทัพไม่อยู่แล้วข้าจะยังมานี่ได้อีกหรือ!
“แต่ว่า…รองแม่ทัพ…” เซียงหรูกำลังรีบหาข้ออ้างเพื่อขวางเขาไว้ ทว่าเขากลับเป็นวรยุทธ์ จึงก้าวกระโดดอ้อมไปด้านหลังของเซียงหรูทันที จากนั้นก็ใช้วิชาตัวเบาเขย่งเท้าบินไปอยู่หน้าประตูเรือนหลักทันที
“อ๊าย!” เซียงหรูสะดุ้งตกใจทันที แล้วรีบวิ่งไปขวางประตูอย่างสุดความสามารถ “รองแม่ทัพ ท่าน…เข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ”
ถังเซียวอี้ขมวดคิ้ว ตอนที่เขากำลังตาลอย ก็ได้ยินเสียงครางเบาๆ ที่ดังจากในเรือน เสียงที่ส่งมาหวานละมุน อ่อนโยนและเสียวซ่านเกินไปแล้ว รองแม่ทัพถังเหมือนถูกฟ้าผ่าจนนิ่งงันอยู่กับที่
“รอง…แม่ทัพ?” เซียงหรูสีหน้าเขินอาย ยกมือโบกตรงหน้ารองแม่ทัพถัง
“เอ่อ…” บุรุษรูปงามผิวพรรณผ่องใสดั่งหยกนี้ได้สติกลับมาเสียที ใบหน้าแดงระเรื่อดั่งอาทิตย์อัสดงทันที
เซียงหรูจึงเตือนด้วยความหวังดี “ท่านไปดื่มน้ำชาที่เรือนข้างก่อนเถอะ”
“ไม่…ไม่ต้องแล้ว” ถังเซียวอี้หันหลังด้วยความตื่นเต้น แล้วใช้วิชาตัวเบาบินเหยียบหลังคากระเบื้องสีนิลทีละแผ่นของเรือนเยี่ยนอาน จวบจนไปหยุดลงบนต้นเหอฮวนตรงสวนบุษบาหลังจวนแม่ทัพ
นี่เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นเหอฮวนผลิดอกไปนานแล้ว ดอกไม้ที่เบ่งบานราวกับขนนกกำลังพลิ้วไหวมาโดนแก้มของเขา ทำให้รู้สึกคันยุบยิบ
“ไม่รักษาน้ำใจกันเลย!” รองแม่ทัพถังพิงอยู่บนกิ่งไม้ ยกมือเด็ดดอกเหอฮวนที่โดนแก้มตัวเองจนคันยุบยิบ แล้วใช้มือบี้พร้อมพร่ำบ่น “รังแกคนอื่นเกินไปแล้วหรือเปล่า เหอะ! รอให้ฮูหยินของข้ากลับมาก่อนเถอะ ข้าจะพานางหายตัวไปครึ่งค่อนเดือนเลย คอยดู…ไม่ได้ ต้องหนึ่งเดือนเลย”
รองแม่ทัพถังตากลมเย็นบนต้นไม้ไปกว่าครึ่งชั่วยาม แม่ทัพเว่ยถึงจะออกมา ค่ำคืนนี้มืดมิดไปแล้ว ดวงจันทร์สว่างไสวแขวนอยู่บนฟากฟ้า หมู่ดาวส่องแสงระยิบระยับกลางท้องฟ้าสีครามเข้ม
“แหม แม่ทัพ เสร็จธุระแล้วหรือ” ถังเซียวอี้คาบกิ่งไม้เหอฮวนไว้ พลางยิ้มอย่างหยอกล้อ
แม่ทัพเว่ยแค่นเเสียงไม่พอใจ พลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วันหลังหากยังกระโดดวิ่งเล่นไปเรื่อย ระวังจะโดนหักขาล่ะ”
“มีสิทธิ์อะไรเล่า! ท่านเลือกเวลาไม่เหมาะเอง!” ถังเซียวอี้คายกิ่งไม้ในปากออก พลางกระโดดลุกขึ้น แล้วยืนอยู่บนกิ่งไม้ที่ยังสั่นไหวไปมา น้ำเสียงฟังดูไม่ได้รับความเป็นธรรม “อีกอย่างพวกเราตกลงกันไว้ว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็จะออกไปหรือไร ท่านเองที่เปลี่ยนกะทันหัน กลับไม่บอกข้าแม้แต่คำเดียว”
“ไอ้สารเลวเกือบจะขวางความสุขของข้าแล้ว ยังกล้าโต้เถียงอีก” เว่ยจางถลึงตามองด้วยความเยือกเย็น เซียงหรูพยายามขัดขวางเขาไว้ ถึงแม้เขามัวแต่ยุ่งกับเรื่องบนเตียงในเรือน ทว่าก็ได้ยินอย่างชัดเจน โชคดีที่เขาทำให้ฮูหยินร้องครางออกมาได้ทันเวลา มิเช่นนั้นเจ้าหมอนี่คงจะฝ่าประตูเข้ามาในเรือนแล้ว
ถังเซียวอี้ยังอยากพูดอะไรต่อ กลับถูกเว่ยจางขัดขวางไว้ “ไปเถอะ”
สายลมยามค่ำคืนพัดโชย เงาดำทั้งสองหายไปกับสายลมทันที
มีบ้านสวนของเหิงจวิ้นอ๋อง โรงงานกระจกแห่งใหม่ถเปิดทำการในไม่ช้า
เหิงจวิ้นอ๋องไม่เพียงแต่ให้ที่ดินและที่พัก แล้วยังได้บ่าวที่มีความสามารถมาสองคน อีกอย่างก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขากลับยกสัญญาการซื้อขายทาสให้เหยาเยี่ยนอวี่ด้วย พ่อบ้านเอกในจวนเหิงอ๋องเป็นคนส่งคนและสัญญามาให้เหยาเยี่ยนอวี่ด้วยตัวเอง ทั้งยังพูดด้วยความเคารพนับถือ “ท่านอ๋องทรงตรัสว่า ครอบครัวของบ่าวสองคนนี้เป็นของฮูหยินแล้ว วันข้างหน้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับจวนอ๋องได้ หากพวกเขาไม่เชื่อฟัง ฮูหยินจะเฆี่ยนหรือจะขาย ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านอ๋องอีกขอรับ”