หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 458 คำนับกลับด้วยสุรา (2)
ตอนที่ 458 คำนับกลับด้วยสุรา (2)
ซูอวี้เหิงได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ดวงหน้าเขินอายขึ้นมาทันที แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “รองแม่ทัพหัวเราะอะไรหรือ”
หัวเราะอะไรหรือ มีเรื่องให้หัวเราะเยอะแยะเลย! หัวเราะที่สุดท้ายตนเองได้สตรีที่ถวิลหาแม้ในยามฝันมาเป็นภรรยา หัวเราะที่ตนเองรีบเดินทางทั้งวันทั้งคืน สุดท้ายก็มาทันพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน หัวเราะที่ตนเองโง่เง่าดักดาน คำพูดเพียงประโยคเดียวของฮูหยินถึงกับทำให้ตนมีความคิดชั่วร้าย กลับไม่ยอมกลับจากเมืองจิ่นเสียที…
คำเปรยเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในใจของเขา ตอนนี้เวลานี้ เขาแค่อยากยื่นมือตนเองออกไปกอดเจ้าสาวของเขาไว้ พร้อมทั้งจุมพิตลงบนหน้าผากของนาง “สุดท้ายก็สู่ขอเจ้าเข้าจวนได้เสียที ข้าดีใจยิ่ง นี่เป็นเวลาที่มีความสุขที่สุดของข้าในชีวิตนี้ แน่นอนว่าต้องหัวเราะอยู่แล้วสิ”
“อื้ม…” ซูอวี้เหิงที่มีอายุถึงปานนี้ ก็เพิ่งถูกบุรุษโอบกอดเป็นครั้งแรก จึงรู้สึกตื่นเต้นในใจเล็กน้อย เลยจงใจถามว่า “กลิ่นอะไรกัน”
“อ้อ” รองแม่ทัพถังทำหน้าแดงทันที จึงรีบปล่อยเจ้าสาวออก “ข้าไปคำนับสุรากับแขกเหรื่อก่อน เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ” กล่าวจบก็ลุกขึ้นออกจากเรือนหอทันที
ซูอวี้เหิงนิ่งงันไปสักพัก จู่ๆ ก็เรียกสติกลับมาได้ จึงอดยิ้มจนหน้าแดงไม่ได้
รองแม่ทัพถังกลับไม่รีบไปคำนับสุรา แต่สั่งให้คนเตรียมน้ำ เขาแอบไปอาบน้ำในเรือนอาบน้ำก่อน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านในที่สะอาดแล้ว ค่อยสวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงทับ จากนั้นออกไปที่จัดงานเลี้ยงตรงสวนหน้า
เมื่อครู่กลัวว่าเวลามงคลจะผ่านพ้นไป เหล่าสาวใช้ทันแค่ล้างมือล้างหน้าให้เขา เขาเร่งรีบในการเดินทางมาหลายวัน เนื้อตัวมีกลิ่นเหม็นไปนานแล้ว รองแม่ทัพถังผู้น่าสงสารที่รักความสะอาดมาโดยตลอด ต่อให้ในค่ายทหารรักษาความสะอาดมากเพียงใด แต่ตอนออกรบก็ไม่ค่อยได้อาบน้ำ โดยส่วนมากเขาจะไม่เคยไม่อาบน้ำมากกว่าสองวัน ทว่ากลับต้องมาอับอายกลางเรือนหอ
เฮ้อ! จะโทษใครได้!
ขณะที่รองแม่ทัพถังเดินไปสวนหน้าก็ตบกระบาลตนเองไปด้วย นี่เรียกว่าฉลาดมาทั้งชีวิต ก็ยังมีช่วงเวลาที่โง่เขลาใช่ไหม!
งานเลี้ยงสายน้ำไหลจะจัดติดต่อกันสามวัน งานเลี้ยงมงคลในจวนล้วนต้อนรับแต่แขกที่เป็นญาติมิตร เหตุเพราะเหยาเยี่ยนอวี่นึกว่าถังเซียวอี้กลับมาไม่ทันงาน ดังนั้นจึงแบ่งจัดงานเลี้ยงเป็นสองระดับ ผู้คนมาร่วมงานจึงมากกว่าทีแรกไปสามในสิบ
ก่อนหน้านี้ เนื่องด้วยราชกิจจากราชสำนัก จึงลังเลว่าควรส่งเทียบเชิญให้ทุกคนดีหรือไม่ พอนึกถึงเกียรติยศของนาง เว่ยจาง หรือจวนติ้งโหว หรือดูจากอนาคตที่ไร้ขีดจำกัดของถังเซียวอี้ ผู้ที่ได้รับเทียบเชิญต่างก็มาร่วมงานกัน
ดังนั้น จวนแม่ทัพฝู่กั๋วในวันนี้ นอกจากเรือนเยี่ยนอานที่เป็นเรือนของเหยาฮูหยินแล้ว เรือนทุกที่ล้วนจัดโต๊ะเฉลิมฉลองไว้ ต่อให้เป็นเช่นนี้ ที่นั่งก็ยังไม่พอ เหยาเยี่ยนอวี่เลยต้องจัดโต๊ะในเรือนที่อยู่หลังสวนบุษบากะทันหัน เพื่อให้เหล่าสตรีไปร่วมเฉลิมฉลองด้วยกัน
ถังเซียวอี้เข้าไปคำนับสุรา เขาควรไปคำนับโต๊ะที่จิ้งไห่โหวนั่งก่อน
เซียวหลินรอคอยให้เจ้าบ่าวมาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ทว่าหลังจากดื่มสุราไปสักพัก เจ้าบ่าวถึงจะมาเยือน พอคำนวณเวลาแล้ว จิ้งไห่โหวหยอกล้อด้วยรอยยิ้ม “รองแม่ทัพถัง เจ้าคงไม่ใช่ว่าจัดการธุระสำคัญเสร็จ ถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องมาคำนับสุรากับพวกเราใช่ไหม”
ถังเซียวอี้ยกยิ้ม พร้อมประสานมือคารวะ “ท่านโหวหยอกเย้าเก่งนัก ข้าน้อยรีบกลับจากเมืองจิ่น ตลอดการเดินทางสี่วันสามคืนเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก เพิ่งจะมาถึงก็กลัวว่าจะไม่ทันเวลามงคลในการกราบไหว้ฟ้าดิน ดังนั้นไม่ทันได้อาบน้ำดีๆ เมื่อครู่เหตุเพราะไปอาบน้ำ ถึงได้ทำให้เวลาล่วงเลยมาเช่นนี้ ท่านโหวอย่าได้ถือโทษเลย”
เซียวหลินเห็นเขาพูดอย่างจริงจังยิ่งนัก จึงไม่อยากจะหยอกล้อต่อ ด้วยเหตุนี้จึงพูดว่า “วันสู่ขอภรรยาของตน ตัวเองยังกะเวลาเดินทางไม่ถูกอีกหรือ เหตุใดถึงไม่กลับมาเร็วกว่านี้ ข้าคิดว่าแม่ทัพเว่ยคงไม่ใจร้ายถึงขั้นที่ไม่อนุญาตให้เจ้าบ่าวกลับมาสู่ขอภรรยาหรือเปล่า”
ถังเซียวอี้ยิ้มอย่างลำบากใจ เขาคงไม่อาจบอกว่าเหตุเพราะไม่รู้เจ้าสาวของตนคือใคร ฉะนั้นเลยจงใจไม่กลับมาหรือเปล่า ยิ่งพูดไม่ได้ว่า เหตุเพราะได้ยินแม่ทัพเว่ยบอกว่าเจ้าสาวคือซูอวี้เหิง ถึงได้รีบกลับมาหรือเปล่า
เรื่องที่น่าอับอายเช่นนี้ รองแม่ทัพถังคงไม่อยากเอ่ยถึงชั่วชีวิต! ฉะนั้นแค่ชูจอกสุราเบี่ยงประเด็น “ท่านโหว ข้าน้อยขอคำนับท่านด้วยสุรา ขอบคุณท่านโหวที่ดำเนินพิธีสมรสให้ข้า”
เซียวหลินทำได้เพียงชูจอกสุราชนกับถังเซียวอี้ พร้อมพูดยิ้มๆ “ยินดีด้วยกับรองแม่ทัพถัง”
“ขอบคุณท่านโหวอย่างยิ่ง” ถังเซียวอี้ยิ้มในใจ แล้วชนกับเซียวหลินไปสามจอก
เหตุเพราะถังเซียวอี้ชื่นชมยินดี ฉะนั้นจึงดื่มหนักไปหน่อย
เฮ่อซี จ้าวต้าเฟิง เก๋อไห่ที่อยู่ด้านข้างก็ดื่มสุราแทนเขาไปไม่น้อยแล้ว ทว่าเขาก็ต้องดื่มเองอยู่แล้ว
ดังนั้น รอให้กลับถึงเรือนหอ เหตุเพราะเขาเดินทางติดต่อกันสี่วันสามคืน จึงทำให้เหน็ดเหนื่อยเกินไป อีกทั้งรู้สึกดีใจจนดื่มหนักเกินไป หลังจากถูกคนพยุงเข้าไปในเรือนหอแล้ว ก็แค่ส่งยิ้มให้เจ้าสาวตนเอง จากนั้นก็หลับไปบนเตียงทันที
ซูอวี้เหิงมองใบหน้าหล่อเหลานั้นกำลังหลับใหล พอมองขนตาดกดำและถุงใต้ตาที่ดำคล้ำของเขา จึงอดถอนหายใจไม่ได้ เดินหน้าไปถอดรองเท้าหุ้มส้นของเขา จากนั้นผลักร่างใหญ่ไปนอนด้านใน แล้วเลิกผ้าห่มสีแดงขึ้นให้เขา
“คุณหนูเจ้าคะ” จั๋วอวี้และสีอวี้ยกน้ำแกงสร่างเมาเข้ามา พอเห็นเช่นนี้จึงรีบวางลงแล้วช่วยซูอวี้เหิงจัดเครื่องนุ่งห่ม พร้อมทั้งเปรยด้วยคิ้วขมวด “รองแม่ทัพหลับเช่นนี้ไปแล้วหรือ ยังไม่ทันได้ดื่มน้ำแกงสร่างเมาเลยเจ้าค่ะ”
“เจ้าดูเขาเดินทางกลับมาจนกลายเป็นสภาพเช่นนั้นสิ แล้วยังถูกคนอื่นมอมสุรา จะมีกะจิตกะใจได้อย่างไร” ซูอวี้เหิงพูดยิ้มๆ อย่างเสียงเบา “พอเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเจ้าก็กลับไปพักผ่อนเถอะ”
“คุณหนู…” จั๋วอวี้ยังอยากจะพูดอะไรต่อ
ซูอวี้เหิงถลึงตามองนาง “พวกเจ้าจดจำคำพูดประโยคหนึ่งไว้ คนโบราณสั่งสอนว่าสามีคือต้นภรรยาตาม ตั้งแต่วันนี้พวกเราก็คือคนของจวนแม่ทัพ เอาเถอะ ออกไปได้แล้ว”
จั๋วอวี้และสีอวี้โค้งคำนับ แล้วถอยออกไปด้วยเสียงเบา ซูอวี้เหิงหันไปข้างเตียง แล้วถอดเครื่องยศสตรีออกทีละชิ้น จากนั้นสวมชุดเจ้าสาวสีแดงขึ้นเตียง
เหล่าสหายที่หลบอยู่มุมผนังกำลังรอฟังเสียงเคลื่อนไหวด้านใน ทว่ากลับไม่ได้ยินอะไรเลย ทำได้เพียงแย้มยิ้มแล้วแยกย้ายกัน
เหยาเยี่ยนอวี่ที่อยู่ในเรือนเยี่ยนอานได้ยินข่าวคราวที่เหล่าสาวใช้เล่ากัน จึงอดยิ้มพลางส่ายหน้าไม่ได้ จากนั้นเดินเข้าไปในเรือนพร้อมกับทุบไหล่ให้ตนเอง แล้วพร่ำบ่นว่า “วันนี้ช่างเหน็ดเหนื่อยจริงๆ”
ชุ่ยเวยยกน้ำอุ่นล้างหน้าเข้ามา พร้อมพูดยิ้มๆ “ฮูหยินต้องคอยกังวลใจไปเสียทุกเรื่อง งานเลี้ยงหลายสิบโต๊ะ แขกเหรื่อเป็นร้อยๆ คน จะไม่เหนื่อยได้อย่างไร”
ชุ่ยผิงยกยิ้ม “รองแม่ทัพถังกลับมาแล้ว แม่ทัพของพวกเราก็น่าใกล้กลับมาแล้วกระมัง”
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ “รองแม่ทัพถังกลับมาสู่ขอสะใภ้ เขาจะรีบกลับมาทำไม ไม่ได้ให้เขาสู่ขออนุภรรยาเสียหน่อย”
“ดูฮูหยินพูดเข้าสิ แม่ทัพจากไปใกล้จะหนึ่งเดือนแล้ว ก็ควรกลับมาแล้ว” ชุ่ยผิงพูดไปพลางช่วยเหยาเยี่ยนอวี่ถอดเสื้อผ้าแขวนไว้บนราว ขณะเดียวกันก็พูดว่า “เดือนนี้ฮูหยินมัวแต่ยุ่งกับงานสมรสของรองแม่ทัพถัง ท่านแม่ทัพกลับมาคงต้องขอบคุณฮูหยินดีๆ เสียแล้ว”
“เป็นเช่นนั้น ฮูหยินของพวกเรายังไม่เคยกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องตัวเองมากเช่นนี้มาก่อน เดิมทียังคิดว่าแม่ทัพไม่มีพี่น้อง งานเรือนคงไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเกินไป วันนี้พอดูๆ แล้ว เรื่องของสหายของท่านแม่ทัพก็ทำให้กลุ้มใจไม่เบา”
ควรกลับมาได้แล้ว! เหยาเยี่ยนอวี่ลอบถอนหายใจ เขาจากไปนานเช่นนี้ ก็รู้สึกคิดถึงเขาไม่น้อย และไม่รู้ว่าราชกิจราบรื่นดีหรือไม่ ถังเซียวอี้กลับมาก่อน จะส่งผลกระทบต่อการจัดการราชกิจหรือไม่…