หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 438 ฉลองเทศกาลตรุษจีน (3)
ตอนที่ 438 ฉลองเทศกาลตรุษจีน (3)
เฮ่อซีชูจอกสุราพร้อมพูดยิ้มๆ “เหล่าสหายติดตามท่านแม่ทัพสร้างวีรกรรม นี่ถือเป็นความปรารถนาชั่วชีวิตนี้ของพวกเราแล้ว ท่านแม่ทัพปฏิบัติตัวดีกับพวกเราดุจดั่งพี่น้องในสายเลือด ได้ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน ก็ถือว่าลาภอันประเสริฐของพวกเรา ต่อให้พวกเราจะทุกข์ยากลำบากเพียงใดก็คุ้มค่า ขอบคุณท่านแม่ทัพจริงๆ”
“ขอบคุณแม่ทัพ” ถังเซียวอี้และอีกสามคนต่างคำนับด้วยจอกสุรา
พวกเขาคำนับเสร็จก็ดื่มจนหมดจอก เว่ยจางเป็นคนที่ไม่ช่างพูดแต่แรก อีกทั้งผู้ที่นั่งอยู่ที่นี่ล้วนเป็นสหายคนสนิท ฉะนั้นเขาเลยยิ่งไม่มากความ จึงคำนับด้วยสุราไปสามจอกทันที
“รีบกินเถอะ ประเดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด” เหยาเยี่ยนอวี่พูดไปก็ใช้ตะเกียบคีบอาหารให้หร่วนฮูหยิน จากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยเสียงเบา “พวกเขาดื่มของพวกเขาไป ส่วนเจ้าที่เพิ่งจะออกเดือน ร่างกายยังอ่อนแอ กินอาหารตอนร้อนๆ เถอะ”
“ขอบคุณฮูหยินเจ้าค่ะ” หร่วนฮูหยินพลันพูด
เฮ่อซีชูจอกสุราพร้อมพูดยิ้มๆ “เรื่องของจี๋เอ๋อร์ โชคดีที่มีแม่ทัพและฮูหยินคอยดูแล ข้าจึงอยากคำนับพวกท่านด้วยสุราจอกนี้”
“เจ้าและข้าเป็นสหายกัน เหตุใดต้องพูดจาเกรงใจเช่นนี้ด้วยเล่า” เว่ยจางชูจอกชนกับของเฮ่อซี “วันนี้ข้าควรแสดงความยินดีกับเจ้าถึงจะถูก ยินดีด้วยที่ได้บุตรชาย”
หร่วนฮูหยินก็ชูสุราคำนับเหยาเยี่ยนอวี่ “ฮูหยินมีบุญคุณต่อพวกเราสองแม่ลูก ชีวิตนี้ไม่มีทางลืมเป็นอันขาด วันนี้ข้าขอถือโอกาสนี้ คำนับฮูหยินเสียจอกเถอะ”
เหยาเยี่ยนอวี่พูดยิ้มๆ “เจ้าเกรงใจเกินไปแล้ว โอกาสดีงามในวันนี้ พวกเรานั่งร่วมโต๊ะอาหารกันได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ควรพูดจาเกรงใจใส่กันสิ”
เฮ่อซีและหร่วนฮูหยินพลันตอบกลับ “ฮูหยินกล่าวถูก”
ถังเซียวอี้ก็ยกยิ้ม “นั่นแหละ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน”
ทุกคนต่างหัวเราะและยกสุราขึ้น บทสนทนากันก่อนที่จะรับประทานอาหาร ล้วนมีแต่เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข
ผ่านไปไม่นาน ก็มีหม้อน้ำแกงที่ยังเดือดปุดๆ ส่งกลิ่นหอมเนื้อไปทั่วเรือนเข้ามาตั้งบนโต๊ะ เหล่าบุรุษคุยเป็นคุ้งเป็นแคว เล่นเป่ายิ้งฉุบแล้วลงโทษด้วยสุรา ในเรือนข้าง ทารกก็ตื่นขึ้นร้องไห้หาน้ำนม แม่นมจึงกล่อมเสียงเบา
เหยาเยี่ยนอวี่นั่งข้างเว่ยจางมองใบหน้าสดใสของทุกคน พร้อมฟังเสียงโห่ร้องอันครึกครื้น ทันใดนั้นกลับรู้สึกเงอะงะ เหมือนจะหลงลืมว่าตนเองมาจากไหน
“ฮูหยินขอรับ” เก๋อไห่ที่คำนับสุรากับเหล่าสหายแล้วก็ยกจอกลุกขึ้น
ทุกคนนิ่งงัน ต่างก็หันไปมองเขา เว่ยจางเชิดคางแล้วพูดยิ้มๆ “มีอะไรก็นั่งพูดเถอะ”
“ไม่ วันนี้ข้ามีเรื่องจะขอร้องฮูหยิน ดังนั้นข้าเลยต้องยืนพูด” เก๋อไห่หัวเราะในลำคอ ใบหน้าดุร้ายกลับดูค่อนข้างใสซื่อ
เหยาเยี่ยนอวี่พูดยิ้มๆ “เจ้ามีเรื่องอะไร ต้องรอพูดวันนี้เลยหรือ”
ถังเซียวอี้ที่นั่งข้างเฮ่อซีก็ตะลังงันไป แล้วหันไปมองเก๋อไห่ เพียงแต่ว่าเก๋อไห่ไม่ได้มองสายตาของถังเซียวอี้แม้แต่พริบตาเดียว และได้พูดประโยคหนึ่งออกมาแล้ว “ข้ารู้สึกว่าชุ่ยเวยที่คอยรับใช้ฮูหยินเป็นแม่นางที่ดี ข้ายินยอมสู่ขอนางเป็นภรรยา ทำตามคำขอของฮูหยินขอรับ”
เหยาเยี่ยนอวี่นิ่งงันไปทันที แล้วหันไปมองชุ่ยเวย
ชุ่ยเวยสีหน้าเปลี่ยนไป เอาเหยือกสุราในมือยัดใส่มือของไม่ตงที่อยู่ด้านหลัง แล้ววิ่งจากไปอย่างว่องไว
นี่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดกันแน่ เหตุใดชุ่ยเวยถึงไม่บอกตนเอง เหยาเยี่ยนอวี่ค่อนข้างฉงนสงสัยในใจ
หากเป็นเรื่องอื่น นางจะตัดสินอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลใจเป็นอันขาด ทว่านี่เป็นความสุขทั้งชีวิตของชุ่ยเวย นางกลับตอบตกลงอย่างเรื่อยเปื่อยไม่ได้
ในสายตาของคนอื่น ชุ่ยเวยเป็นสาวใช้ของเหยาเยี่ยนอวี่ ขอเพียงนางพูดประโยคเดียว ให้นางออกเรือนกับใคร ก็ต้องออกเรือนกับคนนั้น
ทว่าในสายตาของเหยาเยี่ยนอวี่ ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้หรือสหายสนิทก็ตาม เรื่องงานมงคลสมรสล้วนต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต้องรักซึ่งกันและกัน ต่อให้ตนเองเป็นนายหญิง ก็จับนางไปเป็นภรรยาให้ใครก็ได้ไม่ได้อยู่แล้ว
และตอนที่เหยาเยี่ยนอวี่กำลังตะลึงงัน เว่ยจางก็หัวเราะออกมา “นี่เป็นเรื่องดี! เจ้าหมอนี่มีใจให้ชุ่ยเวยตั้งแต่เมื่อใดกันแน่”
เก๋อไห่หัวเราะในลำคอ แล้วพูดว่า “มีใจให้ตั้งนานแล้ว แค่ไม่กล้าพูดออกมาเท่านั้น กลัวว่าฮูหยินจะไม่ยอมมอบนางให้ข้า”
“โง่เง่า! ต่อให้ฮูหยินจะไม่ยินยอม ก็ไม่มีทางเก็บนางไว้ข้างกายตลอดชีวิตหรือเปล่า” ขณะที่พูด เว่ยจางกุมมือเหยาเยี่ยนอวี่ไว้ พร้อมพูดยิ้มๆ “ข้าพูดถูกหรือไม่”
สุดท้ายเหยาเยี่ยนอวี่ก็ได้สติกลับมา แล้วยิ้มอย่างฝืนทน “ใช่ ท่านแม่ทัพกล่าวไม่ผิด”
เว่ยจางชูจอกเหล้าไปให้เฮ่อซีและคนอื่นๆ “มา พวกเราชนจอกนี้กันเถอะ แสดงความยินดีกับเจ้าสี่เถอะ”
“ยินดีด้วยๆ!” ทุกคนต้องรู้สึกดีใจเป็นเรื่องธรรมดา จึงรีบชูจอกสุราแสดงความยินดีกับเก๋อไห่ มีเพียงถังเซียวอี้ที่แอบมองเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยความกังวลใจ ภายในใจกำลังคิดว่า อย่างไรฮูหยินก็ดูเหมือนไม่ค่อยยินยอมหรือเปล่า
ภายในใจของเหยาเยี่ยนอวี่กำลังดึงดัน แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรออกมาต่อหน้าทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น คำพูดของเว่ยจางก็ออกจากปากแล้ว หากนางปฏิเสธกลับกลางคัน นั่นก็เท่ากับว่านางกำลังตบหน้าเว่ยจางอยู่ อย่าว่าแต่สตรีที่ทำตามหลักสามเชื่อฟังสี่จรรยาในสมัยโบราณเลย ต่อให้อยู่ในยุคปัจจุบันก็หักหน้าสามีของตนเองเช่นนี้ไม่ได้
ทว่า ดูจากสีหน้าเมื่อครู่นี้ของชุ่ยเวย ไม่เหมือนแม่นางที่กำลังเขินอายเลย หรือว่านางจะไม่ยินยอมในการแต่งงานครั้งนี้ แล้วจะไปบังคับใจคนอื่นได้อย่างไร ดังนั้นเหยาเยี่ยนอวี่แค่ตอบกลับอย่างผิวเผิน แล้วตบมือของหร่วนฮูหยินเบาๆ จากนั้นขอตัวกับทุกคน แล้วลุกขึ้นเดินไปด้านหลัง
ชุ่ยเวยที่วิ่งออกมาจากด้านในเมื่อครู่นี้ก็ถูกฉังเหมาลากตัวไปที่อื่น
ฉังเหมาและชุ่ยเวยมีใจให้กันตั้งแต่ไปเมืองเฟิ่งเมื่อปีที่แล้ว เพียงแต่ว่าทั้งสองมัวแต่ยุ่งกับงานตนเอง จึงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องของตนเอง เดิมทีฉังเหมาคิดว่าหลังจากเสร็จงานมงคลสมรสของถังเซียวอี้จะไปขอความเมตตาจากฮูหยิน ทว่ากลับนึกไม่ถึงว่าเก๋อไห่จะโผล่มากลางคันเช่นนี้
“เจ้าบอกมาให้ชัดเจน! คำพูดที่เจ้าบอกข้าในก่อนหน้านี้ เจ้าโกหกข้าใช่หรือไม่!”
“มีใจให้ท่านแม่ทัพก็บอกแต่แรกสิ! มาหลอกให้ข้าดีใจ สนุกมากไหม!”
“ข้ารู้ว่าชาตินี้ข้าเป็นได้แค่บ่าว! ใต้เท้าชุ่ยเวยคงไม่มีใจให้ข้าอยู่แล้ว!”
“โอ๊ยๆ…” ฉังเหมาตะคอกเสียงดังเสร็จ ก็หันไปชกเสาระเบียงแรงๆ แม้กระทั่งอยากเอาหัวชนกับเสา จะได้ทำให้เรื่องนี้จบๆ ไป
ชุ่ยเวยร้องไห้จนตาแดงตั้งนานแล้ว เวลานี้พอได้ยินคำพูดอันโมโหของฉังเหมา นางจึงสะบัดมือออกอย่างเต็มแรง แล้วทิ้งท้ายคำพูดว่า “เจ้าจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่เจ้า! แล้วแต่เจ้าเลย!” จากนั้นก็วิ่งหนีไป
“นี่! เจ้า…” ฉังเหมาถลึงตามองชุ่ยเวยที่เดินจากไป เครียดจนกัดฟันกรอด กลับพูดอะไรไม่ออก
แล้วยังจะพูดอะไรได้อีก คนอื่นเป็นแม่ทัพ! ขุนนางฝ่ายบู๊ขั้นห้า! ได้แต่งงานกับแม่ทัพขั้นห้าคนหนึ่งย่อมดีกว่าแต่งงานกับตนเองที่เป็นเพียงพ่อบ้านไปหลายเท่า! นี่เป็นเหตุผลที่รู้กันถ้วนหน้าอยู่แล้ว!
ดังนั้น ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
อันที่ดีเป็นเช่นนี้ก็ดี นางเป็นหมอหญิงอยู่แล้ว หลังจากผ่านตรุษจีนไป หากสำนักแพทย์จะรับสมัครผู้ช่วยหมอหญิงอีก คิดว่านางก็คงได้เลื่อนขั้นสูงกว่านี้ แม่นางที่ดีเช่นนี้ไม่ควรแต่งงานกับตนที่เป็นบ่าวต่ำต้อยหรอก ชาตินี้อย่างไรตนก็เป็นได้แค่บ่าวเท่านั้น
ตอนที่เหยาเยี่ยนอวี่ออกมาตามหาชุ่ยเวย นางกำลังร้องไห้หลบอยู่ในเรือนเก็บของ ดูจากสภาพแล้ว เหยาเยี่ยนอวี่จึงอดถอนหายใจไม่ได้ รู้ว่านางต้องไม่อยากสมรสกับเก๋อไห่
“ฮูหยิน?” ชุ่ยเวยได้ยินเสียงถอนหายใจ จึงรีบเงยหน้าขึ้น พอเห็นคนที่มาคือเหยาเยี่ยนอวี่ก็สะดุ้งตกใจทันที จากนั้นรีบเช็ดน้ำตาพลางผุดลุกขึ้นทันที
เหยาเยี่ยนอวี่เดินเข้าไปใกล้และนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง พลางมองดวงตาของชุ่ยเวยที่ร้องไห้จนบวมแดง จึงเอ่ยถาม “เจ้ายินดีแต่งงานกับรองแม่ทัพเก๋อหรือไม่”