หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 40 ผมช่วยเธอได้
บทที่40 ผมช่วยเธอได้
ลู่เสี้ยงหยางเพิ่งเดินเข้ามา สายตาของทุกคนก็มองไปที่เขาทันที
จ้าวหรูเย็นตกตะลึง ลู่เสี้ยงหยางตามเธอมาที่คลินิกได้ยังไง?
ผู้ชายคนที่ถือปืนนั้นจ้องไปที่ ลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ไอ้เด็กน้อย ไม่อยากตายก็รีบหนีไปไกลๆ ”
ถ้าตอนนี้ไม่ได้กังวลกับอาการบาดเจ็บของคุณผู้หญิงล่ะก็ คนอารมณ์ร้อนอย่างเขา ก็คงจัดการกับ ลู่เสี้ยงหยางไปตั้งนานแล้ว
อะไรกัน? กล้าใช้น้ำเสียงอย่างนี้มาพูดกับพวกเขา?
แต่ว่า ลู่เสี้ยงหยางก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ดวงตาก็มองไปที่ร่างของผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บนั้น แค่กวาดสายตามองไปแค่นิดเดียว ก็วิเคราะห์อาการบาดเจ็บของผู้หญิงคนนั้นได้เกือบหมด
ศีรษะของผู้หญิงได้รับการกระแทก ถึงแม้จะมีเลือดไหลออกมาจากบาดแผล แต่ก็ไม่ถึงแก่ชีวิต บาดแผลที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตอยู่ที่ขา แท่งเหล็กทะลุเข้าไปที่กล้ามเนื้อขา ทำให้ขามีเลือดออกมาก ทำให้เธอเสียเลือดอย่างมาก ตอนนี้หมดสติแล้วถึงขั้นอันตรายมาก
การหมดสติในระยะสั้นไม่ทำให้เสียหายอะไร แต่ว่าการหมดสติเป็นเวลานานจะทำให้สมองและอวัยวะต่างๆในร่างกายได้รับความเสียหายกลับมาไม่ได้ สุดท้ายถึงจะช่วยมาได้ก็จะเป็นคนที่ไม่มีประโยชน์ และมีผลที่ร้ายแรงกว่านี้แน่นอน การหมดสติในระยะยาวนี้ยังทำให้เสียชีวิตได้อีกด้วย
สภาพการณ์บาดเจ็บที่สาหัสแบบนี้ ในคลินิกเล็กๆแบบนี้ไม่มีทางที่จะช่วยได้แน่นอน แม้ว่าจะถึงโรงพยาบาลก็ใช่ว่าจะสามารถช่วยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ที่โชคดีก็คือ ผู้หญิงคนนี้ได้เจอกับลู่เสี้ยงหยาง ลู่เสี้ยงหยางมีความลับอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ ตอนที่เขา7ขวบนั้น เขาก็ได้ติดตามผู้เฒ่าคนหนึ่งเพื่อเรียนรู้ทักษะการแพทย์ แค่แป๊บเดียวก็สิบปีแล้ว เมื่อเขาอายุ17ปี ผู้เฒ่าได้ถ่ายทอดทักษะทางการแพทย์ที่น่าทึ่งของเขาให้ ลู่เสี้ยงหยางจนหมด
หลังจากนั้นผู้เฒ่าคนนั้นก็หายไปอย่างไม่มีหลักฐานยืนยัน ลู่เสี้ยงหยางจะตามหายังไง ก็หาไม่เจอ สำหรับ ลู่เสี้ยงหยางแล้วนั้น การมีอยู่ของผู้เฒ่านั้นคือปริศนา เผยแพร่ทักษะการแพทย์ที่ยอดเยื่ยมและลึกซึ้งของเขานั้น ยิ่งทำให้คนไม่เข้าใจเข้าไปอีก
เมื่อตัวเองพูดออกไปแล้ว แต่ ลู่เสี้ยงหยางยังคงนิ่งอิ้งไปอยู่ ผู้ชายที่ถือปืนนั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างทนไม่ได้ ตะโกนเสียงดัง : “ไอ้เด็กน้อย ไม่ได้ยิ่งพ่อคุณพูดอยู่หรือไง? ”
ลู่เสี้ยงหยางมองข้ามความไม่มีมารยาทของเขาไป พูดนิ่งๆว่า : “ผมช่วยเธอได้ คุณแน่ใจว่าจะให้ผมไป? ”
อะไรนะ ? !
เขาพูดคำนี้ออกมา ผู้ชายสิบกว่าคนถึงขั้นตกตะลึง และคนที่เป็นหมออย่าง จ้าวต้าไห่และซูจื้อเฉิงใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้คนเจ็บกำลังตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ไอ้คนนี้มันพูดบ้าระห่ำอะไรออกมา เขาสามารถช่วยได้?
จ้าวหรูเย็นมองลู่เสี้ยงหยางนิ่งๆ เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ได้ล้อเล่นปะ? ทันใดนั้นเธอก็คิดถึงเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมา ว่าสมองของลู่เสี้ยงหยางคงไม่ได้มีปัญหาหรือเป็นผู้ป่วยโรคจิตหลอกมั้ง แต่ก่อนยังพยายามฆ่าตัวตายอยู่เลย ตอนนี้กลับพูดโอหังว่าช่วยคนเจ็บได้
จ้าวต้าไห่เดินมาข้างๆ จ้าวหรูเย็น ถามเสียงเบาว่า : “ลูก ไอ้เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นใครอา? ลูกรู้จักเขาหรือเปล่า? ”
“ไม่รู้จัก ” จ้าวหรูเย็นส่ายหัว เธอกับ ลู่เสี้ยงหยางเคยพูดกันแค่ไม่กี่ประโยค ก็นับไม่ได้ว่ารู้จัก
จ้าวต้าไห่เบิ่งตากว้าง กำลังจะไปขับไล่ ลู่เสี้ยงหยางให้ออกไป ตอนนี้คลินิกก็ยุ่งวุ่นวายอยู่แล้ว จะให้เจ้าหนุ่มแปลกหน้าคนนี้มาก่อกวนอีกไม่ได้
แต่ว่าเขายังไม่มีโอกาสที่จะเปิดปาก ผู้ชายคนที่ถือปืนนั้นก็ถาม ลู่เสี้ยงหยางว่า “คุณพูดจริงเหรอ คุณมีวิธีที่จะช่วยคุณผู้หญิงของพวกเรา? ”
“แน่นอน ” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าพูดอย่างมั่นใจ
ซูจื้อเฉิงยิ้มเยาะ :“พูดสามหาว โอหังจริงๆเลยนะ ผมอยากจะขอถามคุณหน่อย คุณเป็นหมอเหรอ? พูดจามั่นใจอะไรขนาดนั้น? ”
ซูจื้อเฉิง เขาจบมาจากมหาวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์ชื่อดัง แถมยังเคยไปเรียนที่ต่างประเทศด้วย ก็นับว่าเป็นหมอที่เก่งมากคนหนึ่ง หลังจากกลับประเทศ โรงพยาบาลดังมากมายแย่งตัวเขาไปทำงานด้วย แต่ว่าเขาปฏิเสธไปจนหมดแล้ว เพื่อที่จะจีบจ้าวหรูเย็น เขายอมที่จะอยู่คลินิกกิ๊กก๊อกแบบนี้
วันนี้ ในคลินิกที่ไม่มีอุปกรณ์พร้อมแบบนี้ เขาก็ไม่มีความมั่นใจแม้แต่นิดเดียวที่จะช่วยผู้หญิงคนนี้ได้
แต่ว่าตอนนี้ กลับมีชายหนุ่มข้างถนนวิ่งออกมา พูดว่าเขาสามารถที่จะช่วยผู้หญิงคนนี้ได้
นี้ไม่ใช่จะมาดูถูกทำให้ทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของเขาเสียหน้าหลอกเหรอ?
ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ตอบคำถามปัญญาอ่อนของซูจื้อเฉิง แต่พูดกับผู้ชายที่ถือปืนด้วยน้ำเสียงนิ่งว่า : “ยังอยากจะเสียเวลาอีกนานไหม? ผมเตือนคุณด้วยความหวังดีก่อน ว่าขาครึ่งหนึ่งของคุณผู้หญิงใหญ่ของพวกคุณเหยียบเข้าไปในประตูผีแล้ว ถ้ายังรออีกไม่กี่นาที ถึงแม้ว่าผมอยากจะช่วยก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ”
คำพูดนี้ของเขาออกมา ทำให้ผู้ชายสิบกว่าคนพวกนั้นนิ่งเงียบ สีหน้าไม่ดีมากๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณผู้หญิงใหญ่ พวกเขาพวกนี้ก็ต้องตายตามไปด้วยแน่ๆ
ไม่มีการลังเลใดๆ ผู้ชายที่ถือปืนพูดกับ ลู่เสี้ยงหยางว่า : “ได้ งั้นตอนนี้คุณรีบช่วยคุณผู้หญิงใหญ่ของพวกเราก่อน แต่ว่าคำพูดที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ ว่าถ้าคุณช่วยคุณผู้หญิงใหญ่ของพวกเราไม่ได้ วันนี้คุณก็อย่ามีชีวิตเดินออกไปจากคลินิกเลย ”
สถานการณ์คับขัน ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้พูดไร้สาระกับเขาต่อ แต่เดินเข้าไปข้างผู้หญิงที่บาดเจ็บ อุ้มเธอ แล้ววางเธอลงบนเตียงคนไข้
ฉากนี้ทำให้ จ้าวต้าไห่กับจ้าวหรูเย็นล้วนตกใจ ลู่เสี้ยงหยางกลับจะช่วยผู้หญิงคนนี้จริงๆด้วย
ถ้าเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว ถ้าผู้หญิงคนนี้ตายที่คลินิกพวกเขา คลินิกของพวกเขาต้องรับผิดชอบนะ
จ้าวต้าไห่ รีบร้อนจนกระทืบเท้า อยากจะเข้าไปห้าม แต่ว่าเมื่อเห็นพวกชายเหี้ยมโหดพวกนั้น เขาก็รู้สึกกลัว
ซูจื้อเฉิง ยิ้มเยาะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น ลู่เสี้ยงหยางไอ้คนโง่ก็มีแต่จะทำให้ผู้หญิงคนนี้ตายเท่านั้นแหละ ต้องติดคุก และคลินิกก็จะต้องมาชดใช้เงินอย่างมากมายมหาศาลอีก
ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังแปลกใจอยู่นั้น ลู่เสี้ยงหยางก็ได้ใช้กรรไกรตัดถุงน่องบนขาของผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ถุงน่องพวกนี้ห่อหุ้มขาของผู้หญิง ทำให้เลือดไม่หมุนเวียน และยิ่งในสภาพอาการบาดเจ็บแบบนี้ เพราะฉะนั้นต้องตัดออกเป็นอันดับแรก
ในช่วงเวลานั้น ขาเรียวยาวก็เข้าไปในสายตาของทุกคน ขาสวยที่สมบูรณ์แบบ ผิวสีขาววาวดุจหิมะ เหมือนกับหยกที่แกะสลัก
สายตาของผู้ชายสิบกว่าคนเปล่งประกายขึ้นมา แต่ก่อนถึงแม้พวกเขาจะเป็นบอดี้การ์ดของคุณผู้หญิงคนนี้ แต่ว่าก็ไม่เคย
ซูจื้อเฉิงถึงขั้นกลืนน้ำลาย ไม่พูดไม่ได้ว่า ขานี้สวยมากจริงๆ
จ้าวต้าไห่ก็ทำท่าวางมาดขึ้นมาทันที มองดูอีกสองสามครั้ง
“ต่อไป ผมจะทำการรักษาผู้บาดเจ็บ ผมไม่อยากให้ใครรบกวน พวกคุณทุกคนออกไปรอด้านนอก ” และในตอนที่ทุกคนยังมองไม่พออยู่นั้น ลู่เสี้ยงหยางเปิดปากพูดอย่างนิ่งๆ
“นี้……” จ้าวต้าไห่กับจ้าวหรูเย็นมองหน้ากัน รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะว่าพวกเขาไม่รู้ทักษะทางการแพทย์ของลู่เสี้ยงหยาง แน่นอนว่าไม่วางใจที่จะไปรอด้านนอก
แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ จะให้พวกเขาเป็นคนตัดสินใจได้ยังไง ผู้ชายที่ถือปืนคนนั้นผายมือให้กับพวกเขา แล้วพูดเสียงต่ำว่า : “ไปเถอะ เชิญไปด้านนอก ”
จ้าวต้าไห่กับจ้าวหรูเย็น ก็จำเป็นต้องเดินออกไปจากคลินิก
ซูจื้อเฉิงเคลื่อนสายตาออกไป แต่ในสมองยังคงนึกถึงขาสวยๆของผู้หญิงคนนั้นไม่ลืม อยากจะอยู่ดูให้เต็มตา เพราะฉะนั้นเขาเลยหาข้ออ้าง “ผมอยู่ที่นี่เถอะ ช่วยเขาทำการรักษาด้วย คิดซะว่าเป็นผู้ช่วยของเขา ”
ลู่เสี้ยงหยาง ไม่ได้พูดอะไร และก็ไม่ได้ปฏิเสธ สำหรับพวกผู้ชายสิบกว่าคนแล้วนั้นนี้ก็คือการยอมโดยปริยาย
ในตอนนั้น หลังจากที่พวกเขาให้ ซูจื้อเฉิงอยู่ในคลินิกต่อนั้น ก็ค่อยๆเดินออกไปแล้วปิดประตูคลินิกให้อย่างเรียบร้อย
แต่ต่อมา ในตอนที่อยากจะทำการรักษาผู้หญิงคนนี้ขั้นต่อไปนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็รู้สึกอึกอักนิดหนึ่ง บาดแผลบนขาของผู้หญิงคนนี้อยู่ด้านบนเกินไป อยากจะทำขั้นต่อไป ก็จำเป็นต้องสัมผัสกับกางเกงที่แนบกายของเธอ