สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 399 แผนอันไกลโพ้น
ตอนที่ 399 แผนอันไกลโพ้น
แน่นอนว่ายายเฒ่าหลัวไม่เชื่อ “ต่อหน้าข้ายังกล้าโกหกอีก? เจ้าสามารถคิดวิธีที่ดีได้จริง? หรือต้องการที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อเกียจคร้าน!”
“อีกอย่าง ด้วยฐานะเช่นพวกเราจะปีนป่ายขึ้นไปหาผู้ที่ดีพร้อมเช่นนั้นคงเป็นไปได้ยาก ข้าคิดว่าเจ้าคงฝันหวานเกินไปแล้ว!”
ขณะที่นางพูด หญิงชราคว้าตัวของลูกสะใภ้เอาไว้ด้วย!
กู่ชิวเจ็บจนน้ําตาคลอเบ้า “ท่านแม่ ข้าจะกล้าหลอกท่านได้อย่างไร! ข้ากําลังพูดถึงลูกชายของหลินชวนฮวา ท่านยังจําได้หรือไม่ว่าข้าเคยเป็นเพื่อนกับหลินชวนฮวามาก่อน!”
ยายเฒ่าหลัวขมวดคิ้วแน่น “เหตุใดจู่ ๆ เจ้าถึงพูดถึงผู้หญิงไร้ยางอายผู้นั้นเล่า? เจ้าอยากจะทําตัวเยี่ยงนางเช่นนั้น? แต่อย่างน้อยนางก็มีความสามารถให้กําเนิดลูกชายให้กับเฉินผิงอัน!”
กู่ชิวรีบโบกมืออย่างสุดชีวิต “ท่านแม่ ข้ามได้คิดเช่นนั้น ข้าแค่จําได้ว่าตอนที่ข้าเป็นเพื่อนกับนาง ข้าเคยพูดถึงเรื่องที่อยากให้ลูก ๆ ของเราสร้างครอบครัวร่วมกัน”
ยายเฒ่าหลัวพูดอย่างไม่อยากเชื่อ “มันแค่การล้อเล่น เจ้ายังคิดว่าทางนั้นจะคิดจริงจังรึ? ยิ่งไปกว่านั้นหลินชวน
ฮวาผู้นี้จะบังคับเจ้าเด็กนั่นได้หรือ?”
กู่ชิวรีบโต้กลับอย่างร้อนรน “เหตุใดถึงจะทําไม่ได้? นั่นคือแม่แท้ ๆ ของเขา! ในโลกนี้มีพ่อแม่มากมายที่สามารถบังคับเรื่องการแต่งงานของลูกตนเองได้ เมื่อทุกอย่างถูกกําหนดไว้แล้วจะ ปฏิเสธอย่างง่ายดายได้อย่างไร!”
“อีกอย่าง ตอนนี้เจ้าเด็กนั่นเป็นนักปราชญ์ และนักปราชญ์ต้องให้ความสําคัญกับเรื่องชื่อเสียงมากที่สุดมิใช่หรือ? ในเมื่อต้องให้ความสําคัญกับมัน เรื่องแต่งงานเช่นนี้ เขาจะไม่ยอมรับได้อย่างไร! นี่ไม่ใช่การอกตัญญหรอกหรือ?”
ยายเฒ่าหลัวพูดด้วยความสงสัยว่า “ตอนนี้ผู้มีอํานาจตัดสินใจคือหยุนเถียนเถียน ผู้หญิงคนนั้น ไม่ธรรมดาเลย! ยิ่งไปกว่านั้นเอ้อหยาของเราหน้าตาเป็นอย่างไร? หน้าตาไม่ดีแถมยังผิวดําเหมือนลิง เจ้าคิดว่าเขาจะชอบนางหรือ? นอกจากนี้ นางยังมีแม่ที่ไม่ได้ความอีก!”
กู่ชิวถอนหายใจยาวขณะเช็ดน้ําพลางกล่าวว่า “แม่อย่างข้าไม่มีความสามารถ หากขาสามารถให้กําเนิดลูกชายได้ ข้าคงไม่ต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้! แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เรื่องการหมั้นหมายได้ถูกกําหนดไว้แล้ว ต่อให้ไม่ยอมรับ เขาก็ต้องแต่งงาน!”
“อย่างมากก็แค่ปล่อยให้เขารับอนุภรรยาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น! ข้าคิดว่าเอ้อหยาแค่กินอาหารไม่เพียงพอ ทําให้ผอมเกินไป! หากสามารถเลี้ยงดูอย่างดีภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี จะต้องกลายเป็นเด็กสาวที่สง่างามได้อย่างแน่นอน! เมื่อเวลานั้นมาถึง…”
หญิงชราหลัวรู้สึกกังวลมากนางจึงหันหน้ามาพูด “ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แล้วว่าจะทําอย่างไร เช่นนั้น ควรหาเงินมาแต่งตัวให้ลูกสาวของเจ้าให้ดี ถ้าปีนป่ายขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้ เจ้าย่อมมีความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!”
“แต่ในเมื่อเจ้าตัดสินใจที่จะดูแลนางให้ดี เช่นนั้นจงขังนางไว้ในห้องและอบผิวของนางให้ขาวขึ้น! แม้นางจะไม่มีความรู้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ทําตัวเหมือนแม่สามีเช่นเจ้า”
กู่ชิวพยักหน้าขณะรู้สึกโกรธจัด จากนั้นจึงเตรียมเข้าไปในห้อง!
แต่ผู้ใดจะรู้ว่าหญิงชราจะตะโกนขึ้นมา “ผู้ใดบอกให้เจ้าบอกนางตอนนี้? ยังมีเวลาที่จะบอก
หลังจากปิดไฟในเวลากลางคืน? รีบไปทําอาหารให้ข้ากันเร็วเข้า หรือเจ้าอยากให้แม่เฒ่าผู้นี้ทําอาหารให้เจ้ากิน!”
จากนั้นลูกสะใภ้เดินปาดน้ําตาเข้าไปในครัวอย่างจนปัญญา นางเคยชินกับนิสัยเจ้าเล่ห์ของยายเฒ่าหลัว! ดังนั้นจึงแกล้งทําเป็นไม่รู้ไม่เห็น!
กู่ชิวทํางานบ้านเสร็จอย่างยากล่าบาก ก่อนจะล้างหน้าล้างตาแล้วนอนลงบนเตียง แม้จะง่วงนอนจนตาแทบปิดแต่พอนึกถึงเรื่องที่ยังค้างคาใจ นางยังอุตส่าห์ดึงบุตรสาวตัวเองมาอธิบายอย่างละเอียด!
“เอ้อหยา! เจ้าจําพี่เฉินของเจ้าได้หรือไม่? ตอนนี้เขาหน้าตาดีมิหนําซ้ํายังแต่งตัวภูมิฐานอีกด้วย หากเจ้าแต่งงานกับเขาก็เท่ากับเป็นภรรยาของนักปราชญ์ แล้วต่อไปจะมีวาสนาที่ไม่มีที่สิ้นสุดไม่เหมือนกับแม่ที่ชาตินี้มีเพียง…”
พูดจบก่ชิวเตรียมจะเกลี้ยกล่อมอีก ขณะเอ้อหยามองด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันหลังให้มารดาทันที!
“เอ้อหยา ข้าบอกเจ้าแล้วว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี! แม่กับเจ้าจะได้มีชีวิตที่สดใสโดยไม่ต้องรอในชาติหน้า แต่จะสําเร็จหรือไม่ครั้งนี้มันขึ้นอยู่กับเจ้า!”
เอ้อหยายังคงไม่พูดไม่จา เนื่องจากหลายปีมานี้นางเคยชินกับการจุกจิกจูจีของมารดาแล้ว อย่างไรเสียเรื่องที่พูดออกมาย่อมไม่มีความหมายอันใด!
“ตอนที่น้าชวนฮวาคุยกับแม่ นางเคยบอกว่าจะหมั้นหมายเจ้ากับลูกชายของนาง! เมื่อก่อนเจ้าเด็กนั่นทั้งผอมทั้งแห้ง ข้าไม่ชอบและไม่คิดจะให้เจ้าไปทนทุกข์ทรมานอยู่ที่บ้านของพวกเขา!”
“แต่วันนี้ข้าได้เห็นเจ้าเด็กนั่นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงหน้าตาที่หล่อเหลา แม้แต่บุคลิกของเขายังไม่เหมือนกับคนทํางานในทุ่งเช่นพวกเรา! มิหนําซ้ํายังเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่อายุยังน้อยด้วย! เจ้าต้องคว้าโอกาสอันดีเอาไว้เพื่อชีวิตของเจ้าใน ตอนนี้”
ทันใดนั้นเอ้อหยาพลันแสดงอาการประหลาดใจและหันหน้ามาถาม “คุณชายชุดขาวที่ท่านเห็นในลานบ้านวันนี้น่ะหรือ?”
กู่ชิวเคยชินกับความเฉยเมยของบุตรสาวเมื่อนางพูดพล่ามเช่นนี้! ทว่าจู่ ๆ อีกฝ่ายกลับมีปฏิกิริยาตอบสนอง ทําให้นางถึงกับตะลึงงัน!
“ข้าถามว่า ท่านกําลังพูดถึงคุณชายชุดขาวผู้นั้นใช่หรือไม่? ผู้ที่อายุยังน้อย!”
กู่ชิวพยักหน้าอย่างงงงัน “ใช่ เขาเอง เจ้าเห็นเขาเช่นกันรึ?”
“แล้วเหตุใดก่อนหน้านี้ท่านถึงไม่พูด! หากในอนาคตข้าสามารถไต่เต้าขึ้นไปเป็นภรรยาของคุณชายท่านนี้ได้ ท่านย่าคงไม่ทํากับข้าเช่นนี้ใช่หรือไม่?”
กู่ชิวรีบดึงสติของบุตรสาวที่หุนหันพลันแล่นกลับมา “เอ้อหยา เจ้าจะรู้อันใด! เรื่องนี้ต้องให้ย่าของเจ้าวางแผนแทนเจ้า ดังนั้นเจ้าห้ามล่วงเกินนางก่อนเด็ดขาด!”
“แล้วเจ้าคิดว่าด้วยรูปร่างหน้าตาของตนเองจะทําให้นายน้อยคนนั้นชอบเจ้าได้หรือไม่? จากนี้ แสดงให้ข้าเห็นสิว่าเจ้าจะอยู่ในบ้านและดูแลผิวของตนเองให้ขาวเนียน! แม่จะไปซื้อผงขัดผิวให้ลูกเอง!เจ้าจะได้งดงามขึ้น!”
เอ้อหยาพยักหน้าอย่างจริงจัง “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านวางใจเถิด ข้าจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้! รอจนขากลายเป็นภรรยาของนายน้อยแล้ว ท่านย่าคงรังแกข้าอีกไม่ได้”
“กู่ชิวมองบุตรสาวที่ตั้งใจแน่วแน่แล้วเอ่ยถามอย่างไม่สบายใจว่า”ถึงเวลานั้นเจ้าอย่าลืมแม่คนนี้เด็ดขาด แม่อยู่ที่นี่มามากพอแล้ว จึงคิดเพียงว่าเมื่อใดถึงจะหลุดพ้นจากความทุกข์ยากได้”
“หากเจ้ากลายเป็นภรรยาของนายน้อยจริง ๆ กิจการของแม่นางหยุนในตอนนี้ย่อมกลายเป็นของเจ้า! เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะต้องมารับแม่ไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เข้าใจหรือไม่?”
เอ้อหยาหัวเราะอย่างเย็นชาขณะในใจคิดว่า ท่านเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ยากลําบากด้วยตัวท่านเองมิใช่หรือ? ผู้ใดก็ตามที่มีความแข็งแกร่งมากพอคงไม่โดนหญิงชราคนนั้นรังแกจนเป็นเช่นนี้!
ทว่าปากกลับพูดอย่างนอบน้อม “วางใจเถิด ข้าจะไม่ลืมท่านแม่! เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะพาท่านออกไปและเราจะมีชีวิตที่ดีด้วยกัน!”
กู่ชิวกลัวว่าบุตรสาวคนเล็กจะทําลายทุกอย่างด้วยความหุนหันพลันแล่นจึงกําชับนางต่อไป “เจ้าอย่ารีบแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป จงดูแลตัวเองให้ดีก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”