สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 391 พระราชวังอวหยาง
นิยาย สามีข้า…คือพรานป่า ตอนที่ 391 พระราชวังอวหยาง
ไม่! หยุนเถียนเถียนรีบปฏิเสธความคิดก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว! “เจ้าเมืองหลงต้องสามารถควบคุมคนในตระกูลหยิงได้แน่ ๆ เพราะแม้แต่ไฝสีแดงบนไหล่ของบุตรสาวข้าหลวงหญิงก็ยังรู้ได้ชัดเจน!”
นางจึงตระหนักได้ว่าอํานาจและความสามารถของเจ้าเมืองหลงนั้นกล่าวได้ว่าต้องไม่ธรรมดา แม้วันนี้นางจะเปิดเผยความจริงทั้งหมดเพื่อปกป้องหยิงซื่อเอ่อ แต่อีกไม่นานนางต้องตายลงไม่ ด้วยวิธีใดก็วิธีหนึ่งของเจ้าเมืองหลงอยู่ดี!
หยุนเคอไม่รู้ด้วยซ้ําว่าจะช่วยอะไรได้ แต่เขารู้เพียงว่าหยุนเถียนเถียนต้องการคนรับฟัง! และมีเพียงหยุนเคอเท่านั้นที่สามารถได้ยินคําเหล่านี้จากปากเธอ!
เมื่อถึงช่วงบ่ายมู่หรงหยุนเคอกลับถึงเรือน เขาได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างวันทันที!
หญิงสาวผู้มีความคิดละเอียดรอบคอบอย่างหยุนเถียนเถียน ไม่มีทางปล่อยเรื่องราวที่มีเงื่อนงําเช่นนี้ไปง่าย ๆ แน่นอน!
เขาก้าวเท้าไปหาหยุนเวียนเถียนที่กําลังตกอยู่ในภวังค์ พร้อมยื่นมือออกไปจับร่างเด็กหญิงตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน!
“เจ้ากําลังคิดอะไรอยู่? ทําไมถึงต้องเหม่อลอยถึงเพียงนั้น? ”
หยุนเถียนเถียนผ่อนคลายร่างกายพลางเอนศีรษะพิงเอวของมู่หรงหยุนเคอ
“ท่านพี่ว่าเจ้าเมืองหลงต้องการทําสิ่งใดกันแน่? เขาต้องการหยุดเฉินเฉินไม่ให้เข้าร่วมการ สอบฤดูใบไม้ร่วงด้วยการวางยา แต่ไม่ถึงขั้นพรากชีวิต! ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหากทําลงไปจะทําให้ข้าเห็นช่องโหว่มากมาย แต่เขากลับยังเลือกที่จะทําเรื่องเลวร้ายเช่นนี้อีก!”
“บางทีข้าก็ไม่รู้ว่าชายผู้นี้ต้องการเป็นมิตรหรือศัตรูกับข้ากันแน่! ถ้าหากเป็นศัตรูก็ไม่ได้ถึงขั้นทําร้ายข้า แต่ถ้าจะเป็นมิตรก็กลายเป็นมิตรที่คอยขัดขวางข้าทุกทาง!”
มู่หรงหยุนเคอพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผลหรือทํามันด้วยความรู้สึกขมขึ้น! แต่ในเมื่อเขากล้าสร้างฉากงุ่มง่ามนี้ขึ้นมานั้นราวกับกําลังดูถูกว่าเราเป็นคนโง่! อย่างไรซะข้าต้องได้คําอธิบายจากเขา! ”
“น่าเสียดายที่ชายเฒ่าคนนี้เอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในกระดองเต่าของตนเอง ข้าเลยทําอะไรไม่ได้สักที!”
หยุนเกียนเถียนสงสัยเล็กน้อยจึงเอ่ยถามขึ้น “แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เคยทําร้ายพวกเราแม้แต่น้อย เหตุใดเจ้าถึงเกลียดเขาขนาดนี้?”
มู่หรงหยุนเคอขบกรามแน่นพลางกล่าว “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าแก่นี่ ข้ากับเจ้าคง…”
หยุนเวียนเถียนหัวเราะแหบแห้ง “หรือนี่คืออุปสรรคที่เจ้าต้องเจอ! ตั้งแต่ที่ข้าชอบเจ้า แล้วเจ้าก็ชอบข้า เราทั้งคู่ต่างอยู่ร่วมเรื่อนกันอย่างมีความสุขเสมอมา ทั้งที่ทั่วเมืองหลวงยังมีจิตสังหารอยู่ทุกหนทุกแห่ง เกรงว่าข้าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะอยู่ในเมืองหลวงได้! อย่างน้อยข้าก็ต้องมีความมั่นใจพอที่จะยืนเคียงข้างเจ้าด้วย!”
ริมฝีปากของหยุนเคอขยับเล็กน้อย เขาอยากจะโต้แย้ง แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร! ปัญหาตนเอง ยังแก้ไม่พ้นมือ แน่นอนว่าไม่อาจให้คําสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะกับหยุนเถียนเถียนได้!
ทันใดนั้นสาวน้อยก็นึกขึ้นได้ว่านางเพิ่งกล่าวความรู้สึกของตนเองไป นางจึงรีบเบือนหน้าหนีทันที!
“หยุนเคอ ท่านว่าข้าหลวงหยิ่งทําตัวเกินหน้าเกินตาไปหรือไม่? แค่เพราะต้องการประจบประแจงท่าน! ทั้งที่ท่านเคยฆ่าหนึ่งในบุตรสาวของเขาแท้ ๆ ทว่ายังไม่ติดใจเอาความอันใด! แล้วตอนนี้ตัวเขาเองต่างรู้ดีว่าหยิงซื่อเอ่อถูกใส่ร้าย แต่ก็ไม่ลังเลที่จะฆ่านาง! ช่างเป็นคนไร้หัวใจยิ่งนัก..”
หยนเคอเองก็นึกถึงชายผู้นี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาสังหารหยิงอิงเอ๋อจนสิ้นใจตาย ทว่าข้าหลวงหยิงกับไม่ถือสาเพื่อประจบประแจงตน เช่นเดียวกับครั้งนี้ เขาจึงกล่าวได้ว่ามันเป็นเรื่องปกติ!
เพียงแต่คราวนี้หยุนเถียนเถียนยังไม่ทันแสดงท่าทีอันใด ข้าหลวงหยิงกลับไปจัดการผู้คนอย่างหมดจด ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย!
เป็นไปได้ไหมว่าคนที่เป็นพ่อแท้ ๆ จะลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้? นั่นคือลูกสาวแท้ ๆ ของเขาเชียวนะ!
“ถึงเจ้าไม่กล่าว ข้าเองก็รู้สึกเช่นกันว่าข้าหลวงผู้นี้ช่างแปลกปะหลาด! เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเกิดปัญหาระหว่างข้าหลวงหยิงกับเจ้าเมืองหลง ทําให้เขายอมให้บุตรสาวตนเองเป็นแพะรับบาป!”
หยุนเถียนเถียนแทบไม่อยากเชื่อ เพราะเจ้าเมืองหลงเป็นแค่แขกในยุทธภพตนหนึ่ง แล้วจะสามารถยื่นมือไปหาขุนนางระดับสูงในพระราชวังได้อย่างไร? แม้ว่าเขาจะมาจากพระราชวังอวี่หยางก็ตาม แต่บัดนี้ก็ถือว่าเขาออกจากพระราชวังนั่นมานานแล้ว…
มู่หรงหยุนเคอพูดอย่างใจเย็น “ไม่ต้องรีบร้อน หากข้ารู้ว่าข้าหลวงหยิงเป็นคนของเจ้าเมืองหลงล่ะก็…ฮ่ม!”
เขาแค่นเสียงเย็นชาพร้อมแพร่รัศมีจิตสังหาร! หยุนเถียนเถียนเห็นเช่นนั้นก็อดเศร้าใจไม่ได้!
เรื่องราวทั้งหมดจบสิ้นถึงเพียงนี้ หยุนเถียนเถียนทิ้งเรื่องคาใจไว้เบื้องหลัง จากนั้นนางก็เริ่มเป็นห่วงเฉินเฉินขึ้นมาทันที!
หยุนเคอเห็นดังนั้นจึงทําได้เพียงยิ้มอย่างผิดหวังและหันกลับไปทํางานตนเองต่อไป!
ณ พระราชวังอวหยางที่ไกลโพ้นจากเมืองหลวงถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศแห่งความเศร้าโศก!
ไม่ใช่เหตุผลอื่นใด นอกจากอาการป่วยของจักรพรรดิแห่งอวหยางที่หนักขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
มู่หรงป๋อเห็นดังนั้นจึงรู้สึกผิดเล็กน้อย เขาเสียใจว่าทําไมต้องเป็นตนที่บอกท่านถึงข่าวการตายของหยุนจึงเอ่อ ทําให้จักรพรรดิแห่งอวหยางเสียใจจนล้มป่วยลงอีกครั้ง!
แต่เขาตกลงกับหยุนเกียนเถียนแล้วว่าสามารถบอกจักรพรรดิให้ทราบเรื่องราวของนางได้ แต่สุดท้ายนางกลับปฏิเสธที่จะกลับมากับเขา ดังนั้นเขาจึงต้องเฝ้าดูจักรพรรดิแห่งอวหยางล้มป่วย เช่นนี้!
ในที่สุดมู่หรงป๊ออดกลั้นไว้ไม่ไหวจึงไล่คนรับใช้ออกไปจนหมด เพื่อเตรียมสารภาพกับจักรพรรดิแห่งอวหยาง
“เสด็จพ่อ หยุนจิงเอ๋อตายแล้วจริง ๆ อีกทั้งยังตายไปหลายปีแล้วด้วย! แต่ถึงกระนั้นคนตายก็ตายไปแล้ว เสด็จพ่อจะหันมองคนเป็นที่ยังอยู่บ้างไม่ได้รี?”
จักรพรรดิแห่งอวหยางถอนหายใจยาว “ครั้งที่เกิดเรื่องร้าย ข้ากับเสด็จแม่ของเจ้ายังคบกันต่อมาอีกหลายปี! แต่เพียงบัดนี้ในใจข้ายังปล่อยจิงเอ๋อไปไม่ได้ บัดนี้พอทราบว่านางตายเร็วถึงเพียง นี้แล้วข้าอยากตายตามนางไปเสียจริง!”
ดวงตามู่หรงป๋อทอประกายวูบหนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างจนปัญญา “เสด็จพ่อ แม้หยุนจิงเอ่อจะตายไปแล้ว แต่หยุนเถียนเถียนก็ยังอยู่ นั่นเป็นลูกของท่านเช่นกัน ถึงแม้บัดนี้นางจะยังไม่ยอมกลับมา แต่ท่านก็ต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงเพื่อปกป้องนางในช่วงเวลาสําคัญ!”
ดวงตาไร้วิญญาณของจักรพรรดิแห่งอวหยางพลันเปล่งประกายแสงออกมา ทว่าเพียงพริบตาเดียวก็สลายหายไปอีกครั้ง!
มู่หรงปื่อรู้สึกแปลก ๆ ตามหลักแล้วเมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนมีชีวิตก็ควรจะต้องมีความสุขจนล้นหัวใจ แต่เหตุใดเสด็จพ่อของเขาถึงผิดปกตินัก?
“เสด็จพ่อ…เกิดอะไรขึ้นกับท่าน? ”
รอยยิ้มของจักรพรรดิแห่งอวหยางดูขมขึ้นเล็กน้อย ทว่าเขาก็ส่ายหัวพร้อมกล่าว “ข้ามีความสุขมาก! เด็กคนนั้นหน้าตาเหมือนจึงเอ๋อหรือไม่? เหตุใดนางถึงไม่ตามเจ้ามายังวังอวหยางเล่า?”
มู่หรงป้อถอนหายใจยาว “ตอนนี้หยุนเถียนเถียนยังต้องอยู่ที่เมืองหลวง นางยังมีเรื่องที่ยังจัดการไม่เสร็จ! ในปีนั้นหยุนจึงเอ๋อถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับคนอื่น สุดท้ายนางคลอดลูกแล้ว ตรอมใจจนตาย!”
“ชีวิตตอนเด็กของหยุนเกียนเถียนนั้นยากล่ามากนัก จนกระทั่งตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาบ้าง! เสด็จพ่อ เมื่อร่างกายของท่านดีแล้วอาจได้พบหยุนเถียนเถียนก็ได้ นางช่างเหมือนแม่ของนางไม่มีผิด! ถ้าท่านเห็นนาง ท่านต้องมีความสุขมากแน่!”