สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 354 ความหึงหวง
ตอนที่ 354 ความหึงหวง
คําพูดของหยุนเถียนเถียนกระทบข้าหลวงหยิงเข้าเต็มเปา แม้ว่านางจะไม่ได้ชี้หน้าด่าว่าเขาไม่สั่งสอนลูกสาวให้ดีพอก็ตาม
สถานะของหยุนเถียนเถียนเป็นเพียงสาวชาวนาธรรมดาทว่ามีรัฐทายาทคอยหนุนหลังอยู่ ดังนั้นข้าหลวงหยิงจึงไม่กล้าต่อปากต่อคํากับนาง
หยิงอิงเอ๋อหน้าซีด แม้จะเผลอทําเรื่องน่าละอายต่อหน้ารัฐทายาทไปแล้ว ทว่านางก็ยังคงต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนไว้
“แม่นางหยุน… อย่างน้อยข้าก็ยังอยู่ในบ้านของตัวเองอยู่ดี ทว่าเจ้าเองก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้แต่งงานแล้วเหตุใดจึงออกนอกบ้านมากับผู้ชายอื่นเช่นนี้?”
ประโยคนี้แสดงว่านางต้องการประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์กับหยุนเสียนเถียนอย่างเห็นได้ชัด มู่หรงหยุนเคอได้ยินดังนั้นก็อยากจะก้าวเข้าไปต่อว่านางให้หลาบจา ทว่าหยุนเถียนเถียนก็กล่าวขึ้นทันใด
“ข้าออกบ้านมากับพี่ชายของข้าเอง เช่นนี้แล้วข้าเป็นสตรีที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือ? ที่สําคัญคือข้าเป็นสาวชาวนา เมื่อเทียบกับลูกสาวขุนนางอย่างเจ้าแล้วข้าก็ไม่จําเป็นต้องเคร่งจารีตมากถึงเพียงนั้น!”
มู่หรงหยุนเคอฉุนขึ้นมาทันที สาวน้อยคนนี้ช่างเหลือเกินจริง ๆ… ไม่เป็นไร แม้นางจะบอกว่ามากับพี่ชายทว่าข้าก็ยังไม่แน่ใจว่านางหมายถึงข้าหรือมู่หรงป๋อกันแน่”
“ช่างมันเถิด คิดเสียว่านางหมายถึงมู่หรงป๋อแล้วกัน! หากความจริงไม่ได้หมายถึงเขาล่ะจะทําอย่างไรดี?
“แม่นางหยิง เนื่องจากพ่อของเจ้าก็คอยรับแขกอยู่ที่นี่แล้ว เจ้าก็ควรจะกลับเข้าห้องของตัวเองไปเสียเพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเจ้าเอง”
มู่หรงป้อกล่าวขึ้นด้วยความรู้สึกร้อนใจเมื่อได้เห็นการปะทะคารมกันของสตรีทั้งสอง หากข้าปล่อยให้พวกนางต่อปากต่อคํากันต่อไป หยุนเถียนเถียนก็อาจจะใช้ถ้อยคําที่รุนแรงกว่านี้ไม่ใช่หรือ?
หยุนเถียนเถียนกล่าวเป็นเลศนัย “แม่นางหยิง ข้ารู้สึกว่าข้าสนทนาถูกคอกับเจ้าตั้งแต่แรกพบ ทว่าน่าเสียดายนักที่เจ้าจะต้องไปแล้ว เช่นนี้ข้าก็คงจะอ้างว้างนัก… ข้าควรทําอย่างไรจึงจะได้พบเจ้าอีก?”
หยิงอิงเอ๋อหน้าตึงขึ้นมาทันที “ใครจะไปอยากพบกับเจ้าอีก?”
เป็นเพราะรัฐทายาทเอ่ยปากให้นางไปจากที่นี่ หยิงอิงเอ๋อไม่อาจขัดได้จึงจําต้องออกไป นางส่งรอยยิ้มหวานให้รัฐทายาทก่อนจะโค้งคํานับอย่างอ่อนช้อยแล้วเดินจากไป
หยุนเสียนเถียนกุมท้องหัวเราะโดยไม่สนใจว่าข้าหลวงหยิงยังคงยืนอยู่ด้วย
“สตรีผู้นี้ช่างน่าสนใจนัก มู่หรงป๋อ ท่านโชคดีเสียจริงนะ…ฮ่าฮ่าฮ่า! ดูเหมือนว่าแม่นางหยิงกําลังสนใจในตัวท่าน”
ข้าหลวงหยิงเองก็ไม่อยากกล่าวถึงเรื่องนี้ ทว่าหากสามารถส่งตัวลูกสาวเข้าไปอยู่ในพระราชวังอวหยางได้ก็จะดีมากสําหรับตัวเขาเอง โชคลาภและการเลื่อนตําแหน่งในอนาคตจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แม้ประโยคชี้นําที่หยุนเกียนเถียนกล่าวออกมาจะดูไม่จริงจังนักทว่าในใจของนางคิดเช่นนั้นจริง
ความจริงหยุนเถียนเถียนก็ไม่ได้อยากใจร้ายกับสตรีผู้นั้นถึงเพียงนี้ ทว่าก่อนที่จะทําความรู้จักกันท่าทีของหยิงอิงเอ๋อที่มีต่อหยุนเคอทําให้นางอารมณ์เสียนัก แม้จะรู้ว่าสตรีผู้นี้หวังจะสานสัมพันธ์กับหยุนเคอและท้ายที่สุดนางก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นมู่หรงป๋อแทนเมื่อทราบถึงสถานะที่แท้จริง
ทว่ามันไม่ได้เป็นความรู้สึกที่ดีนักเมื่อรู้ว่าคนของตัวเองกําลังตกเป็นเป้าหมายของผู้อื่น
มู่หรงหยุนเคอที่เป็นตัวต้นเหตุยังคงไม่รู้ว่าเหตุใดหยุนเถียนเถียนจึงอาฆาตพยาบาทหยิงอิงเอ๋อนัก ทว่ามู่หรงป๋อที่ยืนอยู่ด้านข้างสังเกตเห็นความหึงหวงของนางได้อย่างชัดเจน
หากไม่ใช่เพราะหยิงอิงเอ๋อมุ่งเป้าไปที่มู่หรงหยุนเคอเพราะยังไม่ทราบสถานะที่แท้จริงของเขา นางคงไม่คิดว่าหยิงอิงเอ๋อจงใจสานสัมพันธ์กับหยุนเคอและคงไม่หาเรื่องต่อปากต่อคําเช่นนี้แน่!
เมื่อเห็นว่าหยุนเสียนเถียนกําลังจะสร้างปัญหาให้กับตัวเอง มู่หรงป๋อก็อดไม่ได้ที่จะว่ากล่าวตักเตือนนาง
“เถียนเถียน เจ้าต้องระวังคําพูดให้มากกว่านี้! ชื่อเสียงของสตรีสําคัญมาก… บัดนี้ไม่มีบุคคลภายนอกอยู่ด้วยก็ถือว่าไม่เป็นอะไรนัก ทว่าหากอยู่ข้างนอกเจ้าจะแสดงกิริยาโง่เขลาเช่นนี้ไม่ได้!”
“อีกอย่างคือเจ้าคงไม่รู้ว่าพ่อของข้าเข้มงวดกับข้านัก หากท่านรู้ว่าข้าออกมาปฏิบัติภารกิจ แล้วพาสตรีกลับไปด้วยข้าย่อมจะถูกลงโทษอย่างหนัก ข้าจึงไม่อาจสานสัมพันธ์กับสตรีใดได้ตามใจตน แม่นางหยิงเป็นสตรีผู้อ่อนโยนและมีเสน่ห์จึงคู่ควรกับผู้ชายที่ดีกว่าข้า…ดังนั้นเกรงว่าข้าจะไม่ได้โชคดีดังที่เจ้าบอกหรอก”
การปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ทําให้ข้าหลวงหยิงถึงกับหน้าสั่น ทว่าเขาก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยขัดรัฐทายาท
“ท่านรัฐทายาทโปรดอย่ากังวล ข้าจะคอยดูแลลูกสาวให้ดีและจะไม่ปล่อยให้นางมารบกวนท่านอีก”
มู่หรงป๋อพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ท่านขุนนางต้องจําไว้ว่ารัฐทายาทผู้นี้ไม่ขัดข้องที่จะมาพักผ่อนที่นี่ ทว่าข้ามีภารกิจบางอย่างต้องจัดการ แม้ข้าจะไม่อาจบอกท่านได้ทว่ามันก็เป็นเรื่องสําคัญนัก สิ่งที่ท่านต้องใส่ใจทําให้ดีที่สุดคือการให้ความร่วมมือแก่ข้าและจะเป็นการดีที่สุดหากท่านคอยคุมคนของท่านไม่ให้ก่อเรื่องอีก วันนี้ข้าจะทําเป็นหลับตาลงข้างหนึ่งเสมือนว่าเรื่องวุ่นวายวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้น ซึ่งข้าก็หวังว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต”
ข้าหลวงหยิงพยักหน้ารับก่อนจะกัดฟันพูดว่า “รัฐทายาทโปรดวางใจ ท่านจะได้พักผ่อนที่บ้านของข้าอย่างสะดวกสบายที่สุด!”
ทุกคนเดินมาถึงห้องที่จัดไว้ให้หยุนเสียนเถียน ขุนนางหยินต้องการแสดงให้รัฐทายาทเห็นถึงความใส่ใจ เขาจึงเป็นผู้ที่พาทุกคนไปส่งยังห้องรับรองส่วนตัวที่เขาจัดเตรียมไว้ให้
“แม่นางหยุนดูเถิด เจ้าพอใจที่จะอยู่ห้องนี้หรือไม่?”
แม้ลูกสาวของเขาจะมองไม่ออกทว่าข้าหลวงหยินทราบดีว่าสตรีตรงหน้าของเขาไม่ได้เป็นเพียงสาวชาวนาแน่นอน สังเกตได้ไม่ยากเลยเพียงแค่เห็นว่านางสามารถเรียกชื่อของรัฐทายา ทว่ามู่หรงป๋อโดยที่รัฐทายาทไม่ว่ากล่าว เท่านี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าสถานะที่แท้จริงของสตรีผู้นี้ต้องไม่ธรรมดา
ระมัดระวังไว้ก่อนย่อมดีกว่าเสมอ
หยุนเวียนเถียนพิจารณาห้องนั้นแล้วก็รู้สึกว่าหากนํามาเทียบกับบ้านเก่าที่นางเคยอาศัยอยู่ ที่นั่นก็ไม่ต่างจากคอกหมาเลยเพราะแม้แต่ห้องส่วนตัวก็ยังไม่มี
ม่านหลายชั้นหรูหราที่ประดับอยู่ในห้องนี้ชวนให้คิดว่าหญิงสาวเจ้าของห้องจะรู้สึกร้อนอบอ้าวบ้างไหม? แม้นางจะไม่ค่อยชอบการตกแต่งห้องแบบอลังการเช่นนี้ทว่าก็ยังดีที่เจ้าบ้านได้จัดเตรียมไว้ให้นางได้อาศัย… ที่สําคัญคือการได้มาอยู่ห้องนี้สามารถทําให้หยิงอิงเอ่อรู้สึกไม่พอใจได้
“พอใจสิ ข้าพึงพอใจห้องนี้นัก!”
คําตอบเช่นนั้นทําให้มู่หรงหยุนเคอผู้รู้จักนางเป็นอย่างดีเกิดความสงสัยขึ้น สตรีผู้นี้ชอบอยู่ในห้องที่สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงบอกว่าพอใจที่จะอาศัยอยู่ในห้องเช่นนี้ได้? หรือว่านางจะเปลี่ยนรสนิยมเสียแล้ว?”
ในเมื่อนางตอบว่าพึงพอใจไปแล้วมู่หรงหยุนเคอจึงไม่ได้กล่าวอะไรมาก
“ท่านข้าหลวง จู่ๆ น้องสาวของข้าก็ได้เข้ามาในที่หรูหราเช่นนี้เป็นครั้งแรก ข้าจึงเกิดความกังวลขึ้นเล็กน้อย อย่างไรเสียพวกเราก็เป็นพี่น้องกัน ท่านไม่ต้องกังวลหรอกหากพวกข้าขออาศัยอยู่ที่เรือนเล็กข้างบ้านของท่าน พวกเราเป็นชาวชนบทจึงไม่มีกฎเกณฑ์เคร่งครัดมากมาย”
หยุนเถียนเถียนลุกขึ้นยืนทันทีโดยไม่รู้ว่าจะตอบเช่นไร นางเพียงแค่คิดจะแกล้งหยิงอิงเอ๋อเล่นเท่านั้นจึงไม่คาดคิดว่าหยุนเคอจะนําคําพูดของนางมากล่าวต่อรองเช่นนี้ อีกทั้งคําพูดนั้นของเขาก็ทําให้นางรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก
อย่างไรก็ตามหยุนเกียนเถียนก็ไม่อาจหักล้างคําพูดของตนได้ นางจึงทําได้เพียงลูบศีรษะของตนอย่างอึดอัดใจ
มุมปากของมู่หรงป้อกระตุก ลูกพี่ลูกน้องผู้นี้ของข้าต่างไปจากเมื่อก่อนนัก… เมื่อก่อนเขาเป็นคนเย็นชาทว่าเดี๋ยวนี้กลับเย็นชามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก สิ่งที่แตกต่างที่สุดคือเขากล้าพูดจาไร้ยางอายต่อหน้าสาวน้อยผู้นี้ได้อย่างไร!”
แม้ว่าข้าหลวงหยิ่งจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าเป็นคําขอของแขกเขาจึงต้องปฏิบัติตาม
“คุณชายหยุนไม่ต้องกังวล เพียงแต่ว่าบ้านหลังนั้นเล็กเกินไปข้าจึงเกรงว่าท่านอาจจะไม่สามารถอาศัยอยู่ที่นั่นได้”
หยุนเคอกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง “ข้าเป็นพรานป่า… แม้แต่ถ้าในภูเขาข้าก็อาศัยอยู่ได้นับประสาอะไรกับบ้านหลังเล็กเช่นนี้”