สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 338 สายเกินกว่าจะเสียใจ
ตอนที่ 338 สายเกินกว่าจะเสียใจ
เฉินเหยียนไม่ได้แสดงท่าทีเยาะเย้ย ทว่าในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกดูถูกเหยียดหยาม
“ท่านลุง! ข้าดูเหมือนคนที่จะโกหกท่านหรือ? ข้าได้ยินมาไม่ผิดแน่… เฉินเฉินสอบได้อันดับสามส่วนอันดับสองเป็นของจางชิงเฟิง นี่คือเรื่องจริงแท้แน่นอน! จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการถึงหน้าบ้านด้วยในภายหลัง”
“ท่านลุง… ท่านควรรับเงินนี่ไปนะ เฉินเฉินจะไม่กลับมาที่นี่เมื่อเขาได้เข้าเป็นศิษย์ในสํานักเขาจะอาศัยอยู่ในฟูเฉิงเพื่อเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นต่อไป… ข้าว่าเขาอาจได้เป็นบัณฑิตระดับจูวเหรินภายในหนึ่งปีแน่!”
ริมฝีปากของเฉินผิงอันสั้นเทาขณะที่น้ําตาของเขาเอ่อล้น
“เหตุใดที่ผ่านมาข้าจึงโง่เขลาราวกับถูกผีบังตาเช่นนี้? ข้าไม่ให้ลูกชายแท้ ๆ ของข้าได้มีโอกาสในการฝึกฝนเล่าเรียนทั้งที่แท้จริงแล้วเขาเป็นเด็กที่เก่งกาจล้ําเลิศนัก ทว่ากลับไปทุ่มเทให้คนนอกผู้โฉดชั่วอย่างเฉินเฉิงเยี่ย
“ส่วนหลินชวนฮวาก็เป็นสตรีร้อยเล่ห์มารยาผู้ร้ายกาจนัก เหตุใดข้าจึงไปหลงใหลในตัวนางได้ถึงเพียงนั้น?”
ยิ่งนึกถึงเรื่องที่ผ่านมามากเท่าใดเฉินผิงอันก็ยิ่งรู้สึกผิดมากเท่านั้น บัดนี้มันสายเกินกว่าจะเสียใจแล้ว เขาโกรธตนเองจนถึงกับยกมือขึ้นตบหน้าของตนอย่างรุนแรง เฉินเหยียนยังคงถือเงินไว้ในมือทว่าตอนนี้เขาหมดอารมณ์ที่จะเยาะเย้ยชายชราผู้นี้แล้ว
เมื่อเห็นว่าเฉินผิงอันไม่ยอมหยิบเงินไปเสียที เขาจึงถอนหายใจยาวก่อนจะยัดเงินใส่มือของชายชรา
“หากไม่ใช่เพราะแม่นางหยุน ลูกชายของท่านคงถูกหลินชวนฮวาทรมานจนตายไปแล้ว! หากท่านสํานึกในบุญคุณนี้ก็จงอย่าก่อปัญหาใดให้แม่นางหยุนอีกเลย”
เฉินเหยียนเดินจากไปโดยไม่รู้ตัวว่ามีใครบางคนลอบฟังการสนทนาของเขาอยู่ด้านหลังคน คนนั้นคือเฉินซ่ง…อดีตหัวหน้าหมู่บ้านผู้หมกมุ่นอยู่กับการร่ําสุรานั่นเอง
เฉินซึ่งมีความใฝ่ฝันตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย นั่นคือเขาต้องการเป็นบัณฑิตที่จะไต่เต้าไปเป็นขุนนางผ่านการสอบจอหงวนทว่าความฝันของเขาไม่อาจเป็นจริงได้ดังนั้นเขาจึงฝากความหวังไว้กับลกชายของเขา
อย่างไรก็ตามเฉินเต่ออันก็ไม่ใช่คนที่มีใจใฝ่เรียนรู้นัก หลังจากเฝ้าอ่านทบทวนตําราอยู่ไม่กี่ปีเขาก็ตัดสินใจยอมแพ้ส่วนลูกอีกคนกลับใฝ่รู้ใฝ่เรียนและเก่งกาจนักทว่านางเป็นลูกสาว
ตอนแรกเขาต้องการให้ลูกสาวแต่งงานเข้าไปเป็นสะใภ้ครอบครัวบัณฑิต… ได้ลูกเขยเป็นบัณฑิตก็นับว่าช่วยเติมเต็มความฝันเดิมของเขาได้บ้าง จางซึ่งเพิ่งคือคนที่เขาต้องการได้เป็นเขยมากที่สุดทว่าลูกสาวของเขากลับทําชีวิตตนเองพังจนทําให้ความหวังที่จะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับบัณฑิตล้มลงอย่างไม่เป็นท่า
หากเขาไม่ได้ยินข่าวเรื่องผลการสอบของจางชิงเฟิงหัวใจของเขาคงไม่ปวดร้าวถึงเพียงนี้ เพราะคิดว่าอย่างน้อยว่าที่ลูกเขยที่เขาสูญเสียไปแล้วนั้นก็คงไม่ได้มีชีวิตดีนัก
ทว่าวันนี้เขาบังเอิญมาได้ยินคําพูดของเฉินเหยียนว่าจางชิงเฟิงสอบจอหงวนได้เป็นอันดับที่สอง เทพเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าบัดนี้อารมณ์ของเขาเป็นเช่นไร
ด้วยความที่เฉินซึ่งเคยศึกษาเล่าเรียนมาสองสามปีดังนั้นเขาจึงมองออกว่าเด็กที่มีพรสวรรค์ อย่างเฉินเฉินต้องมีอนาคตที่ดีแน่นอน…แม้จะยังอายุน้อยทว่ากลับสอบได้ถึงอันดับสาม ส่วนจางชิงเฟิงผู้เป็นอดีตลูกเขยของเขาสอบได้อันดับสอง
“ชายผู้นั้นควรเป็นบุตรเขยของข้าเสียจริง… เขาเป็นผู้มีความสามารถตั้งแต่อายุยังน้อยสอบ ครั้งนี้จึงได้อันดับยอดเยี่ยมนักบางทีปีหน้าเขาอาจได้เป็นบัณฑิตขั้นจงเหรินก็ได้
“หากว่าในอนาคตเขาจะสอบจิ้นซื่อไม่ผ่าน ทว่าเขาก็ยังเข้าเป็นขุนนางได้ตราบใดที่เป็นบัณฑิตผู้มีความสามารถเช่นนี้…ลูกเขยผู้นี้จะเป็นที่เชิดหน้าชูตาของตระกูลข้านัก
ช่างน่าเสียดายที่มันสายไปเสียแล้ว… คนไร้ค่าอย่างหลินหูยังคงนอนอยู่บนเตียง ซึ่งดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บของเขาคงไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ แม้ว่าจะสามารถรักษาจนหายทว่า คนเช่นเขาหรือจะมีความสามารถเทียบเทียมบัณฑิตอย่างจางชิงเฟิง?
ยิ่งคิดเฉินซึ่งก็ยิ่งบันดาลโทสะหลังจากกระดกสุราเข้าไปสองสามอีกเขาก็เดินไปเปิดประตูบ้าน
ภรรยาของเฉินซ่งขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นสามีกําลังโมโหทว่านางก็ไม่ได้เอ่ยคําใด
อารมณ์ของเฉินซึ่งกําลังพลุ่งพล่านจนไม่รู้จะระบายเช่นไรดี เขาจึงวิ่งไปโยนกาน้ําชาและถ้วยบนโต๊ะลงกับพื้น ก่อนจะทุบจนแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ สุดท้ายเขาก็คว่าโต๊ะจนข้าวของกระจัดกระจาย
ภรรยาของเฉินซ่งเบิกตากว้าง “เจ้าสติวิปลาสไปแล้วหรืออย่างไร? แม้ว่าเจ้าจะดื่มสุราทุกวันข้าก็ไม่เคยว่ากล่าวทว่าวันนี้เจ้ามาทําลายข้าวของในบ้าน เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วหรือ?”
เฉินซ่งฉวยโอกาสนี้ตะคอกกลับไปทันที “ลูกสาวตัวดีของเจ้าเป็นเช่นนี้ก็เพราะมีแม่คอยให้ท้ายอยู่เสมอ! แทนที่จะได้แต่งงานกับบัณฑิตดี ๆ ทว่ากลับไปแต่งงานกับขยะ! ตอนเจ้าคลอดน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากนางให้ตายไปเสียจะได้ไม่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อมาจนทําให้พ่อแม่อับอายขายหน้าถึงเพียงนี้!”
ภรรยาของเฉินซ่งพูดอีกอัก “เขาก็เป็นเพียงหนอนหนังสือสกุลจางในสายตาข้าเท่านั้น! เป็นคนที่เอาแต่ขลุกอยู่กับตําราจนไม่ประสีปะสากับความรักเลย เช่นนี้เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์จริง?”
เฉินซ่งโกรธมากจนระเบิดอารมณ์ด้วยการเตะเก้าอี้ด้านข้างจนพลิกคว่าลงกับพื้น
“ข้าแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์เช่นนั้นหรือ? หากข้าไม่ได้ยินหลานชายของเฉินไปบอกว่าจางชิงเฟิงสอบจอหงวนผ่านข้าจะเป็นเช่นนี้หรือไม่? ไม่เพียงแต่จะสอบผ่านเท่านั้นทว่าเขายังสอบได้เป็นอันดับสองของอ่าเภอเช่นนี้ระดับจวเหรินก็อยู่ไม่ไกลเขาแล้ว”
“นางทําเรื่องไร้ยางอายถึงเพียงนั้น อีกทั้งยังถูกชายปฏิเสธจนคิดว่านางไม่อาจจะออกเรือนได้อีกแล้ว ทว่าในที่สุดเราก็ได้พบกับครอบครัวสกุลจางแล้วทําให้นางยอมแต่งงานกับตระกูลบัณฑิตจนได้ นางเกือบจะมีชีวิตสุขสบายแล้วทว่าก็ยังคิดทําเรื่องโสมมน่าละอายเช่นนั้นอีก”
“นอกจากจะทําให้ชีวิตของตัวเองดิ่งลงเหวแล้วยังทําให้ครอบครัวต้องอับอายไปด้วย…คิดดูสิ หากนางไม่ทําเรื่องชั่วช้าเช่นนั้นป่านนี้นางคงได้เป็นภรรยาของว่าที่ขุนนางไปแล้ว!”
ภรรยาของเฉินซ่งหมดค่จะโต้เถียงสามีทันที นางทรุดตัวลงนั่งบนธรณีประตูพร้อมถอนหายใจ “ข้าจะกล่าวโทษผู้ใดได้? ในเมื่อข้าก็รู้เห็นแผนการในตอนนั้นด้วย ทว่าใครจะจินตนาการได้ว่าหยุนเถียนเถียนช่างโหดเหี้ยมอํามหิตถึงเพียงนั้น”
“ท่านพี่…เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นความผิดของหยุนเถียนเถียน หากไม่ใช่เพราะนางลูกสาวของเราจะถูกหลินหูล่อลวงเช่นนั้นได้อย่างไร? พวกเราต้องหาทางแก้แค้นนางให้ถึงที่สุด!”
เฉยซึ่งได้ยินเช่นนั้นก็โมโหยิ่งกว่าเดิมเขาปาขวดสุราในมือลงพื้นเต็มแรง
“ความคิดของเจ้าช่างวิกลจริต! ลําพังตัวข้าเองจะมีปัญญาทําเช่นนั้นได้อย่างไร? ตอนนี้เด็กสาวผู้นั้นได้รับการสนับสนุนจากนายอําเภอ แม้กระทั่งนายน้อยหลี่ผู้มีอํานาจก็ยังคอยคุ้มกันนางอยู่ตลอด ส่วนหยุนเคอก็มีตัวตนลึกลับซับซ้อนน่าหวั่นเกรง…สําคัญที่สุดคือบัดนี้น้องชายของนางก็ได้เป็นบัณฑิตแล้วเช่นกัน เจ้าบอกข้ามาสิว่าข้าจะเอาอะไรไปสู้กับนางได้!”
ขณะที่ความเงียบเข้าปกคลุมเฉินเต่ออันก็ก้าวออกมาจากห้อง “ท่านพ่อ! ท่านแม่! หากน้องสาวข้าไม่ได้วางแผนมาตั้งแต่แรกแล้วผู้ใดจะลากหลินหูมานอนบนเตียงได้เล่า? ตอนทําชั่วกลับไม่รู้สึกว่าตนกระทําสิ่งผิดทว่าเมื่อถูกเอาคืนบ้างกลับมองว่าตนถูกคนชั่วกระทํา…ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลยใช่หรือไม่?”
“ตอนนี้ท่านรู้สึกเช่นไรเล่า? ลองดูสภาพของนางตอนนี้สิ นางรู้ตัวว่าแท้งทว่าไม่ได้ส่งจดหมายให้เราไปรับนาง ทว่านางเดินกลับบ้านมาด้วยเท้าเปล่าเช่นนั้น บัดนี้นางไม่มีบุตรทว่าก็ยังพยายามจะมีอีกครั้ง หากนางมีเหตุผลบ้างก็น่าจะรู้ว่าตนสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่จําเป็นต้องมีบุตร… หากนางแก่ชราลงข้าจะคอยเลี้ยงดูนางเอง”
“หากหลินห์พบสตรีที่สามารถให้กําเนิดลูกแก่เขาได้จริง แล้วเลี้ยงดูเด็กคนนั้นในฐานะลูกของเฉินไฉ่อนางก็จะมีที่พึ่งในอนาคต เข้าใจหรือไม่ว่าเหตุใดพวกท่านจึงควรหยุดการวางแผนทุกอย่าง? เพราะมันไม่มีประโยชน์ใดเลยแล้วยังอาจทําให้เดือดร้อนหนักกว่าเดิมอีกด้วย!”
เฉินซึ่งยิ้มอย่างขมขึ้น “ความจริงพ่อก็ไม่ได้ต้องการจะวางแผนแก้แค้นหรอก เพราะเรื่องมันผ่านมาแล้วจึงไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้…พ่อแค่หวังว่าน้องสาวของเจ้าจะฉลาดขึ้นบ้างเท่านั้น”