สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 313 เพื่อนเก่า
ตอนที่ 313 เพื่อนเก่า
“จริง ๆ แล้วงานเลี้ยงชมบุปผามีจุดประสงค์ชัดเจน เป็นงานที่ลูกสาวที่ยังไม่ได้หมั้นหมายของตระกูลขุนนางทุกคนต้องเข้าร่วม เดิมที่แม่นางหยุนจึงเอ๋อก็เฉลียวฉลาด นิสัยใจคอก็น่าคบหา หน้าตาก็สะสวยนางจึงสวมผ้าคลุมหน้าตลอดช่วงที่อยู่ในงานเลี้ยงจะได้ไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจของใคร”
“มีใครในเมืองหลวงไม่อยากแต่งเข้าตระกูลดี ๆ บ้างเล่า? ก็เลยมีสตรีไม่กี่คนที่สวมผ้าคลุมหน้าในงานเลี้ยงเพื่ออําพรางใบหน้าของตนองค์ชายอวหยางเองก็เคยเสียมารยาทจะเข้ามาเปิดผ้าคลุมของหยุนจึงเอ่อเพราะคิดว่าคนที่สวมผ้าคลุมหน้าต้องเป็นพวกหน้าตาน่าเกลียด”
“หากแต่องค์ชายอีกคนได้พยายามห้ามลุงของตัวเองเอาไว้ น่าเสียดายที่ด้วยอายุน้อยกว่าสุดท้ายจึงไม่อาจห้ามปรามได้เพราะต้องเคารพอาวุโส ใบหน้าของหยุนจึงเอ่อถูกเปิดเผยใน ตอนนั้น ครั้นไม่มีสิ่งใดบดบังใบหน้าของนางอีกองค์ชายที่เคยกระทําการเสียมารยาทก็ตกหลุมรักเธอในทันที!”
“แต่มิใช่มีเพียงองค์ชายอวหยางที่หลงรักนาง หลานชายของเขาเองก็ถูกตาต้องใจนางแต่แรกพบเห็นเช่นกัน เพียงแต่ไม่อาจเอาชนะองค์ชายที่มีอาวุโสสูงกว่าได้เท่านั้น องค์ชายอวหยางยังไร้ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษ เขาเริ่มตามตอแยนาง แม้ข้าจะเป็นข้ารับใช้ใกล้ชิดขององค์ชายแต่ก็ยืนยันเรื่องนี้ได้
ว่าจบหลงเยว่ก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยต่อด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “นอกจากหยุนจึงเอ่อแล้วในตระกูลยังมีหยุนเพียนเพียนที่เป็นหญิงงามไม่แพ้กัน ถึงใบหน้าของนางจะงดงามแต่ก็มิได้ใจกว้างและมีเมตตาสมกับหน้าตาแต่อย่างใด นางเอาแต่วนเวียนรอบตัวองค์ชาย และใฝ่ฝันว่าจะได้ เป็นองค์หญิงในสักวันหนึ่ง”
“เราไม่มีเวลามาสะสางเรื่องความสัมพันธ์พวกนี้ เพราะองค์จักรพรรดิมาด่วนสวรรคตจากไปองค์ชายจึงขึ้นครองบัลลังค์ ในที่สุดองค์ไทเฮาก็ทรงทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างหลานชายและลูกชายของนางเป็นธรรมดาที่นางจะไม่อาจเกลียดชังพวกเขาได้ลงจึงระบายความขุ่นเคืองใจทั้งหมดลงกับหยุนจึงเอ่อ บอกว่านางมิได้ปฏิบัติตามครรลองของสตรีและคบหาบุรุษถึงสองคนพร้อมกัน ทั้งคู่ยังเป็นลุงหลานกันอีก”
“เดิมทีไทเฮาหมายจะลงโทษนางให้ถึงตาย แต่องค์จักรพรรดิที่เพิ่งขึ้นครองราชย์ได้ห้ามเอาไว้ เขาหวังให้หยุนจิงเอ๋อได้ขึ้นเป็นองค์หญิง แม้นางคิดลังเลแต่ก็มีใจเสน่หาให้กับเขาอย่างแท้จริง หากแต่ยังไม่ทันที่นางจะให้คําตอบก็พลันมีบางอย่างเกิดขึ้นกระทันหัน”
“ข้าเองก็ไม่ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นมากนัก รู้เพียงว่าองค์จักรพรรดิกับหยุนจึงเอ๋อได้แอบพบเจอกันลับ ๆ มาตลอดครั้นถึงเวลาที่เขาจะแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาองค์ชายอวหยางกลับไม่ยอมแพ้ อีกฝ่ายกับหยุนเพียนเพียนซึ่งต้องการอภิเษกกับองค์จักรพรรดิจึงร่วมมือกันเพื่อวางยาหยุนจึงเอ๋อ”
“แต่หยุนเพียนเพียนกลับไปปรากฏตัวที่ห้องขององค์ชายระหว่างที่เกิดเรื่องขึ้นสถานการณ์บีบให้นางต้องแต่งงานกับองค์ชายอวหยาง แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นได้เพียงพระสนมด้วยองค์ชายอวหยางมีพระมเหสีอยู่ก่อน อีกทั้งนางยังไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แล้ว”
หยุนเถียนเถียนเอ่ยปากพูดขึ้นมาบ้าง “ทั้งสองคนต่างเป็นพวกหน้าไม่อายและไม่เคยคิดยอม แพ้ จะต้องเกิดเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นหลังจากนั้นแน่ๆ ใช่หรือไม่
หลงเยวส่งยิ้มอ่อนให้ “แม่นางหยุนเฉลียวฉลาดเป็นพิเศษ ซ้ำยังมองจิตใจมนุษย์ได้ทะลุปรุโปร่ง ล้ําเลิศกว่ามารดาของเจ้ามากนัก”
“ตอนแรกหยุนเพียนเพียนแสร้งเป็นขอโทษและบอกให้หยุนจึงเอ่อดื่มชาผ่อนคลาย คืนนั้นเองที่องค์ชายอวหยางทําตามเป้าหมายสําเร็จและได้ตัวหยุนจึงเอ่อมา ส่วนข้าก็ถูกองค์ชายขังเอาไว้ที่คุกด้านหลังเพราะออกตัวห้ามปรามเอาไว้เมื่อองค์จักรพรรดิสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติและ มาถึงวังอวหยางทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว!”
“หยนจึงเอ่อไม่ต้องการให้องค์จักรพรรดิเห็นนางในสภาพน่าขายหน้าจึงแอบหนีออกไปทางประตูหลัง หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นนางอีก องค์จักรพรรดิปิดทางเข้าออกวังอวหยางไว้และช่วยข้าออกมาจากคุกเดิมที่ข้าไม่คิดจะทรยศองค์ชายแม้แต่น้อย แต่องค์จักรพรรดิบอกว่าเขากับ แม่นางจึงเอ๋อได้ตกลงเป็นคู่ชีวิตกันลับ ๆ แล้ว ถึงได้รู้ว่าองค์ชายของข้าต่าช้าเพียงใด!”
“องค์จักรพรรดิต้องการลงโทษองค์ชายอวหยางแต่ไทเฮากลับเอ่ยห้ามไว้ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกชายบังเกิดเกล้าของนาง นางข่มขู่จะฆ่าตัวตายจึงไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยเรื่องนี้ไปจนถึงขั้นต้องปล่อยให้หยุนเพียนเพียนออกจากวังอวหยางด้วยทําได้เพียงไว้ชีวิตนางและปล่อยให้นางใช้ชีวิตบนโลกใบนี้เพื่อชดใช้กับความผิดของตน”
หลงเยว่หัวเราะกับตัวเองหลังกล่าวจบ “ข้าเองก็ผิดด้วยไม่ใช่หรือ? คอยติดตามองค์ชายจึงรู้ทุกอย่างที่เขาออกคําสั่งหลังจากรู้ว่าเขาทําเรื่องเลวร้ายลงไป ข้าเองก็พยายามโน้มน้าวแต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการถูกจับขังในคุก! ข้าก็เป็นเพียงข้ออ้างให้เขาปัดความผิดให้พ้นตัวเท่านั้น และองค์จักรพรรดิก็ถือโอกาสนี้ปล่อยข้าไป”
หยุนเสียนเถียนยิ้มอย่างมีนัย “เพราะท่านไม่รู้ว่าหยุนจึงเอ๋อใช้ชีวิตคู่กับองค์จักรพรรดิลับ ๆ และโดนองค์ชายอวหยางวางยาเมื่อใดท่านจึงไม่แน่ใจว่าพ่อของข้าเป็นใครใช่หรือไม่?”
หลงเยว่คิดไม่ตกก่อนหัวเราะลั่น “เจ้าน่าจะเป็นลูกสาวของจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน เพราะหยุนจึงเอ่อมีใจให้กับเขามาตั้งแต่แรก หากแม่เจ้าท้องลูกขององค์ชายอวหยางเจ้าคงไม่มีวันได้เกิดมาบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน”
“แต่… เรื่องนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน ไม่ว่าข้าจะเป็นลูกของใคร การที่คนเป็นแม่ปกป้องลูกของตนก็ไม่ใช่เรื่องผิดมิใช่หรือ? จากที่ท่านเล่ามาแม่นางหยุนจึงเอ๋อก็เป็นคนดี แม้นางจะฉลาดและไม่คุ้นเคยกับมนุษยธรรม คิดเพียงว่ายิ่งมีความสามารถมากเท่าไรก็ยิ่งสร้างประโยชน์ได้เท่านั้นก็ตาม
หลงเยวหัวเราะกับตัวเองพลางเงยหน้ามองท้องฟ้า “เอาละ! ข้าบอกความจริงเรื่องนี้กับเจ้าไปหมดแล้ว ข้ารู้เพียงเท่านี้ ส่วนเจ้าเป็นลูกของใคร เรื่องนี้อีกไม่นานเจ้าคงหาคําตอบได้เอง ข้าเองก็อยากจะรู้เช่นกันถึงข้าจะไม่ได้มีชื่อเสียงในเมืองเล็ก ๆ นี้มากนักแต่ก็มีพรรคพวกมากมายเชียวละ”
“ถึงเจ้าพวกนั้นจะเป็นอันธพาลแต่ก็ต่างมีใจภักดีกันครั้งนี้ข้าจากบ้านโดยไม่ได้พาพวกเขามาด้วย เช่นนั้นเรื่องนี้ฝากให้เจ้าจัดการคงจะเหมาะกว่า จะได้ถือโอกาสปล่อยให้เจ้ามีทักษะในการป้องกันตัวบ้างด้วย”
หยุนเถียนเถียนพลันเผยรอยยิ้มสบาย ๆ “ท่านลุงหลง ข้ากลับคิดว่าความจริงมีมากกว่านั้นท่านยังคงปิดบังบางเรื่องกับข้าอยู่อย่างเรื่องของตัวตนของหลงเยว่ตัวท่านเองอย่างไรเล่า!”
หลงเยว่หุบยิ้มกว้างของตน สายตาฉายแวววบไหวก่อนเอ่ยถามขึ้นอย่างประหลาดใจ “ข้าจะไปปิดบังเรื่องอะไรกับเจ้าได้อีก? เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนอย่างไรกัน?”
“แล้วเรื่องที่จริง ๆ แล้วท่านเป็นคนในโลกสีเทา ชั่วดีนั้นยากจะแยกแยะออกจากกันได้แน่ชัดเดิมที่ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้กัน? ท่านมีใจต้องการปกป้องหยุนจึงเอ่อจากผู้เป็นนายที่เป็นปรปักษ์กับท่านบ้างหรือไม่? ท่านไม่ได้พูดเองหรอกหรือว่าตนยังมีคุณธรรมในใจอยู่?”