สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 306 อาวรณ์
ตอนที่ 306 อาวรณ์
หยนเถียนเถียนยกยิ้มก่อนจะกล่าวออกอย่างมีเลศนัย “ไม่ใช่เคยพูดเหรอว่าเคยทําใครสักคนขาหักในโรงน้ำชา แล้วชายคนนั้นก็เป็นสามีของเด็กสาวนั่น!”
“สตรีผู้นี้ช่างแปลกประหลาด ตบปากรับคําขอแต่งงานกับคุณชายจาง แต่ความจริงกลับตามตื้อนายน้อยหลไม่หยุดหย่อนอีกทั้งยังออกปากว่าเต็มใจเป็นนางบําเรออีกด้วย…แต่อย่างไรฉากการแสดงทั้งหมดนี้คุณชายจางล้วนแต่ได้เห็นแล้ว!”
หยางยู่หรงที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับตื่นตระหนก “โอสวรรค์ แล้วเช่นนี้คุณชายจางคิดยกเลิกงานแต่งหรือไม่?!”
หยุนเถียนเถียนกล่าวตอบ “เป็นเช่นนั้น!คุณชายจางต้องการยกเลิกการแต่งงานทันทีแต่ข้าก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดแม่ของนางจึงสามารถบังคับให้คุณชายจางยอมแต่งงานอีกครั้งได้ข้าได้ยินมาว่ามีคืนหนึ่งพ่อของนางเมามายจึงเป็นเหตุให้คุณชายจางและนางได้อยู่ร่วมห้องกัน!”
“งานแต่งจัดขึ้นอย่างเร่งรีบ ฝ่ายชายไม่เคยแม้แต่ให้สินสอดใด หนึ่งเดือนที่ร่วมหอลงโลงกันมาทั้งคู่ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวกันนางจึงยังเป็นหญิงบริสุทธิ์แต่อย่างไรทั้งสองก็อยู่รวมกันและจางชิวไฉก็มิได้ใจคับแคบเขาปฏิบัติกับนางด้วยดีเสมอมา
หลังจากหายไปนาน นางก็กลับมาอีกครั้งอย่างกะทันหัน ตอนนั้นข้ากับหยุนเคอกําลังตระเตรียมงานแต่ง ซึ่งงานแต่งของข้าจะเริ่มในอีกสองวันถัดไป ข้าไม่รู้ว่านางมีสมองหรือไม่จึงคิดว่าที่นายน้อยหลีไม่แต่งงานกับตนเป็นเพราะข้าเช่นนี้นางจึงใส่ยาลงในน้ำชาและนัดหมายให้หลินหูที่อยู่หมู่บ้านข้าง ๆเข้ามาในห้องนอนข้าเพื่อพรากความบริสุทธิ์”
“แต่ข้ารู้ทันแผนการจึงวางยาในชาของพวกเขานั่นเป็นการดีที่สามารถจับได้คาหนังคาเขาว่านางนอกใจคุณชายจางจึงหลุดพ้นจากเรื่องร้ายนั้นไปได้เขาไม่พูดถึงความผิดของนางเลยแม้แต่น้อยบอกเพียงว่าการแต่งงานของเขาและนางถือว่าเป็นโมฆะอีกทั้งยังนําสินสอดทองหมั้นคืนกลับไปอีกด้วย”
“ต่อมาแม่นางผู้นั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแต่งงานกับหลินหูที่อยู่หมู่บ้านข้าง ๆ ก่อนหน้านี้เจ้าได้รับบทกวีที่เขียนโดยคุณชายผู้นั้นใช่หรือไม่? ขอข้าดูหน่อยคนเช่นหลินหูไม่สามารถเขียนกวีเช่นนี้ได้ข้าคาดว่าผู้อยู่เบื้องหลังต้องเป็นแม่นางผู้นั้นแน่นอน!”
หยางยู่หรงพยักหน้าเล็กน้อย “ผู้หนึ่งเป็นชายบ้ากาม ผู้หนึ่งเป็นหญิงชั่วช่างเหมาะสมกันเสียจริงเจ้าทําดีมาก!”
“เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นคุณชายจางเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริงอีกทั้งยังจัดการกับเรื่องเช่นนี้อย่างใจเย็นและสุขุมมาโดยตลอดข้าคิดว่าคนเช่นนี้เหมาะสมกับเจ้ามากเอาล่ะ! เช่นนั้นค่อยๆพิจารณาแล้วกัน หากเจ้าไม่ชอบใจข้าจะไปบังคับเจ้าได้อย่างไรกันเล่าจริงรึไม่?”
หยางเฉินมิได้อิจฉาจางชิงเฟิงอีกต่อไปแล้ว ซึ่งภายหลังที่ได้พบกับคุณชายจางเขาจึงมีสีหน้าเห็นใจปนสงสาร
เห็นท่าทางของหยางยู่หรงที่ทําสีหน้าครุ่นคิด หยุนเวียนเถียนจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“น่าเสียดายที่ข้าเพิ่งทดสอบเขาไปถึงนั่นจะเป็นความต้องการของเจ้าด้วยก็เถอะเขากลัวเพียงว่าจะไม่สามารถกลับมาคืนดีกันได้ในเร็ววันหากเจ้าอยากแต่งงานด้วยใจจริงจงอย่ากลัวที่จะเผชิญหน้าจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง”
หยางเฉินมองไปยังใบหน้าที่แสนทีมของน้องสาว นางถลึงตาใส่คนอื่นในทุกประโยคที่พูดออกมาแม้จะห่วงใยดูแลผู้อื่นอย่างจริงใจถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งดูจากสีหน้าของนางก็เหมือนจะมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
“ผู้หรง กลับบ้านกันเถิด! ไม่เช่นนั้นท่านพ่อเจ้าจะเป็นห่วง ไปเถิด! ถ้าอยากคุยกับแม่หญิงหยุนหนหน้าค่อยมาใหม่”
หยางยู่หรงถูกพี่ชายของนางลากตัวไปขึ้นรถม้า รถเคลื่อนไปได้ซักพักหยางยู่หรงที่จากไปด้วยสีหน้าที่ไม่เต็มใจหันกลับมาด้านหลังมองลอดผ่านม่านในรถจนร่างของหยุนเถียนเถียนลับตา
“ท่านพี่! เหตุใดถึงพูดว่าข้าไม่เหมือนแม่นางหยุนเล่า?หากข้าเป็นนางข้าจะไม่แต่งงานเร็วเช่นนี้หรอกต้องเป็นโสดให้ชายทั้งโลกลุ่มหลงสิถึงจะถูก!”
หยางเฉินกล่าวด้วยสีหน้าผิดหวัง “น่าเสียดายที่นางแต่งงานเร็วไม่เช่นนั้นข้าเกรงว่าตนเองจะลุ่มหลงนางไปด้วยอีกคนเอาล่ะ!ในเมื่อเจ้ายังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ก็รีบแต่งงานเถิดอย่ารอช้าไม่เช่นนั้นหากเป็นสาวใหญ่แล้วจะไม่มีใครต้องการเจ้า”
“จางชิงเฟิงนั่น ถึงข้าจะไม่ชอบเขาอยู่บ้างแต่ตราบใดที่เจ้าชอบก็ไม่เป็นไร ครั้งหน้าก็ฝากถามแม่นางหยุนหน่อยว่านางมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันหรือไม่ สาวงามเช่นนี้แม้จะมีนิสัยไม่ดีทว่าหากกลับเรือนมาได้เห็นอะไรสวย ๆ งาม ๆก็คงสบายตาสบายใจยิ่งนัก”
หยางฟูหรงมองพี่ชายของตนด้วยสายตาดูถูก “ไม่ใช่ว่านี้จะถือเป็นการทําร้ายแม่นางคนอื่นๆรี? นอกจากจะดูเป็นคนไม่ได้เรื่องแล้ว ทั้งยังตามเกี่ยวหญิงงามไปทั่วแบบนี้ ท่านจะยอมให้แม่หญิงคนอื่นมาดูถูกตัวเองรึ?”
“ข้าจะเกี้ยวหรือไม่แล้วเจ้าจะทําไม? เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่ากิตติศัพท์เหล่านี้ข้าได้มาจากไหน?ไม่ใช่เพราะเจ้าคอยสนับสนุนข้าร์?”
หยางฟูหรงแลบลิ้นใส่ จากนั้นก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก อย่างไรก็ตามชื่อเสียงกิตติศัพท์เหล่านี้ที่ได้มาส่วนหนึ่งก็เพราะตัวของเขาเองด้วย! ถ้าพี่ชายนางไม่ใช้ชื่อเสียงของตนไปคุกคามหญิงอื่นอยู่บ่อย ๆ ไม่เช่นนั้นตอนนี้นางก็คงจะมีพี่สะใภ้เป็นตัวเป็นตนไปแล้ว!
“อันที่จริงข้าว่าเจ้ายังพอมีโอกาสคนที่ดูเย็นชาและน่ากลัวอย่างหยุนเคอนั้น แม้เขาจะดูดีใช้ได้แต่ข้ารู้สึกว่าพี่ชายของข้าก็มีดีไม่แพ้กัน!ท่านพี่! รีบรวบรวมความกล้าแล้วไปขอแม่นางหยุนมาเป็นพี่สะใภ้ข้าเถอะ”
“เจ้าลากเข้ามาเรื่องนี้จนได้คิดว่าเพื่อนของเจ้าไม่รู้?หากนางยังไม่แต่งงานข้าพอจะทําได้แต่ในเมื่อนางแต่งงานแล้วข้าก็ไม่กล้าทําให้ครอบครัวคนอื่นร้าวฉานหรอก”
หยุนเถียนเถียนผู้เก็บตัวอยู่บ้าน ไม่คิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะมีผู้อื่นพูดถึงนางอีกทั้งคนคนนั้นก็เป็นสตรีที่อยากได้เธอไปเป็นพี่สะใภ้
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้คนที่นึกถึงหยุนเถียนเถียนคงไม่ได้มีแค่คนสองคนแน่นอนอาจรวมไปถึงก่อนหน้านี้ที่นางกับจินเฮ่ามีเรื่องเคืองใจกันตอนนี้ก็คงกําลังนึกถึงหยุนเสียนเถียนอยู่เช่นกัน
โดยเฉพาะหลังจากที่จินเฮ่าโดนปฏิเสธจากตระกูลหยางทําให้เขาเกลียดหยุนเกียนเถียนมากขึ้น!คิดว่าหากไม่ใช่เพราะหยุนเวียนเถียนเอ่ยอะไรพวกนั้นต่อหน้าจางชิงเฟิงตนคงไม่ถูกผู้อื่นดูแคลนซ้ําแล้วซ้ําเล่า
เมื่อมาคิดดู หนอนหนังสืออย่างจางชิงเฟิงต้องหลงใหลในรูปลักษณ์อันงดงามของหยุนเถียนเถียนอย่างแน่นอนเพราะเหตุนั้น แม้สิ่งที่หยุนเสียนเถียนพูดจะไม่ได้มีสาระอะไรแต่จางชิงเฟิงก็ให้ความสําคัญกับมันมาก
ช่วงนี้จินเฮ่ามาด้อม ๆ มอง ๆ แถวบ้านตระกูลหยุนได้หลายวันแล้ว แต่ยังไม่สบโอกาสที่จะลงมือก่อนหน้านี้เขายังตระหนักถึงเรื่องการแต่งงานกับตระกูลหยางจึงไม่กล้าลงมือแต่บัดนี้การหมั่นหมายกับตระกูลหยางได้ถูกยกเลิกแล้วซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทําผิดพลาดแต่กลับไม่ยอมแก้ไข