สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 285 เข้านอน
ตอนที่ 285 เข้านอน
เฉินเฉินไม่ค่อยเข้าใจนัก เหตุใดด้วยวัยของเขาในตอนนี้ถึงไปไม่ได้กัน? มีสิ่งใดอีกหรือไม่ที่ไม่สมควรกระทํา?
เฉินซิ่วไฉอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมายามสังเกตเห็นสีหน้าสับสนของศิษย์ผู้ฉลาดเฉลียว ทว่าเพื่อรักษาภาพพจน์ในฐานะอาจารย์ เขาจึงปกปิดอาการด้วยการกระแอมไอออกมา
“อะแฮ่ม! ศิษย์ข้า ข้าจะบอกความจริงให้เจ้าได้รู้ ในเมืองนี้มีบัณฑิตที่แท้จริงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และผู้มีชื่อเสียงส่วนนับนิ้วได้ ส่วนใหญ่ต่างเป็นผู้มีเงินเหลือเฟือจึงสามารถจัดงานชุมนุมเช่นนี้ได้! เป็นเรื่องที่ดีหากต้องการเรียนรู้ อันว่าหอนางโลมมีสตรีขายเรือนร่างไว้เสพสําราญไม่น้อยเลยทีเดียว”
“ศิษย์เอ๋ย พี่สาวเจ้าคาดหวังกับเจ้าไว้มากและเป้าหมายสําคัญของเจ้าคือการสอบขุนนาง! งานชุมนุมไร้สาระเช่นนี้ แม้อาจมีบ้างที่ภายในงานจะปรากฏบัณฑิตผู้มีพรสวรรค์ในบทกวี เพียงแต่ระดับฝีมือของคนเหล่านี้ไม่สามารถทําให้เจ้าตื่นตาได้ สู้ไม่ไปไม่ดีกว่าหรือ?”
ถ้อยคําบางคําเฉินเฉินอาจไม่เข้าใจความหมาย ทว่าหากมีสตรีขายเรือนร่างอยู่ภายในงาน เขาสามารถจินตนาการได้ว่างานเช่นนี้ไม่น่าใช่งานจริงจังอะไร!
“ศิษย์ทราบแล้วขอรับ! งานชุมนุมนี้ไม่แคล้วจัดขึ้นเพื่อหาความสําราญ กว่าศิษย์จะมีชีวิตดังทุกวันนี้ได้นั้นไม่ง่าย เหตุนี้จึงไม่ควรเสียเวลาและทําอนาคตตนล่าช้า!”
เฉินซิ่วไฉผงกศีรษะอย่างพึงพอใจ “ยอดเยี่ยม เจ้าเข้าใจแล้วย่อมดี! อยู่แต่ในจวนและทบทวนตํารา อีกเพียงไม่กี่เดือนเจ้าก็ต้องสอบถงชิงแล้ว ด้วยความสามารถของเจ้าตอนนี้นี่เป็นเพียงเรื่องง่าย ๆ เท่านั้น เพื่อสิ่งที่ไม่ได้สลักสําคัญอะไรเจ้าไม่ควรทําอนาคตตนล่าช้า!”
เฉินเฉินพยักหน้ารับพร้อมล่าถอยออกมา แม้ศิษย์บางคนจะกระซิบกระซาบการไปงานชุมนุมข้าง ๆ เขา เขาก็จะไม่สนใจมันอีก บัดนี้เขารู้จุดประสงค์หลักของงานชุมนุมแล้ว ผู้ที่มาเชื้อเชิญเขาหลังจากนี้หากไม่ใช่บุตรชายสรุยสุร่ายที่แสวงหาความสุขก็คงเป็นคนบางจําพวกที่ต้องการทําร้ายสตรีเหล่านั้น!
เฉินเฉินยังคงเด็กนัก ผู้ที่มาชักชวนจึงรู้สึกเช่นกันว่าวัยของเขานั้นยังไม่เหมาะสม เช่นนี้จึงไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติมอีก! เปลี่ยนเป็นพูดถึงงานชุมนุมบทกวีเมื่อหลายปีก่อนแทนซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างทีเดียวที่อยากพูดออกไป เพียงแต่เด็กตัวเล็กแค่นี้คงไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร เห็นทีว่าตนคงสีซอให้ควายฟังเสียแล้ว!
หยุนเถียนเถียนฟังความจากปากเฉินเฉินแล้วพลันรู้สึกสํานึกในบุญคุณของเฉินซิวไฉ สามารถสั่งสอนเฉินเฉินได้อย่างถูกต้องและเข้มงวดเช่นนี้ไม่แคล้วใช้เวลาและพลังไปมาก บางทีสำหรับศิษย์คนอื่น ๆ เขาคงต้องการสั่งสอนเช่นกันทว่ากลับไม่มีอํานาจเพียงพอ
“อาจารย์สั่งสอนเช่นนี้ก็เพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าต้องสํานึกบุญคุณให้มาก หลังจากนี้สักสองสามวัน เจ้านําเนื้อสองชิ้นที่ท่าเสร็จใหม่ ๆ จากโรงครัวไปให้อาจารย์เพื่อขอบคุณความกรุณาของเขาเถิด”
หยุนเคอที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งยกยิ้มบางเบา ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องคู่นี้ดีมาก แม้ทั้งสองจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันทว่าก็ดีกว่าพวกที่มีสายเลือดเดียวกันเสียอีก!
ต่างกับเขาที่เติบโตมากับผู้เป็นพี่ชาย ใครเล่าจะรู้ว่าเขาจะถูกแทงข้างหลังเพียงเพื่ออ่านาจเช่นนี้
ครั้นล่วงเข้ายามค่ําคืน หยุนเคอเริ่มอยู่ไม่นิ่งอีกครั้ง!
ในคืนสมรสนั้นเพราะอาการมึนเมาจึงสามารถนอนบนเตียงนอนของหญิงสาวได้สําเร็จ ทว่าบัดนี้จะใช้ข้ออ่างอะไรได้อีก? เขาเกรงว่านางไม่ใช่ผู้ที่จะพูดดี ๆ ด้วยได้สักเท่าไร!
แม้หยนเถียนเถียนจะจําคืนที่ผ่านมาได้กระนั้นนางยังคงรู้สึกปั่นป่วนเล็กน้อย ในสายตาของนางหยุนเคอเป็นบุรุษที่ดีแต่เป็นเพราะคืนก่อนเขาเมามายจึงพลั้งเผลอนอนบนเตียงไป ทว่าวันนี้ เขาไม่ได้ดื่มสุราจึงไม่สมควรมีเหตุผลอะไรให้ขึ้นมานอนบนเตียงอีก!
อย่างไรแล้ว…นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ายามออกจากห้องอาบน้ําสิ่งที่เห็นกลับเป็นหยุนเคอที่นอนอยู่บนเตียงด้วยเสื้อตัวในตัวเดียว!
ด้วยชีวิตช่วงนี้เริ่มดีขึ้นมาก หยุนเสียนเถียนจึงตั้งใจทําเสื้อตัวในจากไหมพรมให้เขาเป็นกรณีพิเศษเพราะใส่ได้สบายตัว ทว่าจุดอ่อนเดียวคือมันบางยิ่ง!
แม้แสงเทียนในห้องจะสลัวมาก หญิงสาวยังสามารถมองเห็นกล้ามเนื้อเป็นลอนของหยุนเคอผ่านเสื้อตัวในจากไหมพรมที่ค่อนข้างบางได้ ตอนที่นางไปฝึกกับเพื่อนโรงเรียนต่ารวจไม่ใช่ว่านางไม่เคยเห็นใครเปลือยท่อนบนเช่นนี้!
กระทั้งหลังจากฝึกจบกล้ามของพวกรุ่นพี่ก็เป็นแบบนั้นซึ่งดีกว่าคนปกติทั่วไปมาก ทว่าก็ไม่มีใครมีกล้ามท้องเป็นลอนสวยเช่นหยุนเคอตอนนี้!
เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มานานหลายปี ร่างกายปราศจากไขมันส่วนเกินราวกับถูกมีดตัดออกไป เมื่อคืนนางนอนในอ้อมกอดของเขาทั้งคืนแน่นอนว่าย่อมสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของร่างกายเขาโดยไม่ตั้งใจ
มองไปยังหยุนเคอที่ไม่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้านั้นแล้วหยุนเถียนเถียนก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงกำและแตะจมูกตนเองด้วยความหวาดผวา อย่างไรนางก็ไม่ยอมให้หน้าเสียโฉม!
พลันตระหนักได้ว่านางเกือบหลุดล้อเล่นอีกแล้ว ร่างบางยึดอกขึ้นอย่างเดือดดาล “หยุนเคอ! เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่ นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเจ้าเสียหน่อย!”
หยุนเคอขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “เราต่างก็แต่งงานแล้วทั้งคู่ ไม่นอนห้องเดียวกันแล้วจะให้นอนที่ใด? หากให้ชาวบ้านมาเห็นไม่แคล้วต้องคิดเรื่องทะเลาะกันออกมา? ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าก็เคยนอนมาแล้วยังต้องใส่ใจคืนสองคืนนี้หรือ?”
หยุนเวียนเถียนหัวเราะออกมาอย่างโกรธเคืองในทันที นางไม่เคยคาดคิดว่าหยุนเคอจริง ๆ แล้วนั้นจะทําตัวไร้ยางอายเช่นนี้
หากไม่พูดถึงคนสองคนจะทําอะไรในห้องนอนแห่งนี้แล้ว คนนอกจะรู้เห็นชัดแจ้งขนาดนั้นได้เยี่ยงไร? ที่น่าชังที่สุดคือค่าพูดสุดท้าย! อะไรคือก็เคยนอนมาแล้ว? ค่าพูดประหนึ่งพวกเขาได้ กระทําสิ่งที่ไม่เหมาะสมสําหรับเด็กลงไป! เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนพวกเขาไม่ได้ทําอะไรทั้งสิ้น ต่างคนต่างสงบเสงี่ยม!
“ช่างเถอะ อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ สวมเสื้อตัวในแล้วยืนคุยกับผู้อื่นทําให้เสียอารมณ์มากทีเดียว!
หยุนเถียนเถียนย่นจมูกอย่างฉุนเฉียว “ก็ได้ใ ห้องนอนนี้ให้เจ้าก็แล้วกัน ข้าจะไปนอนห้องข้าง ๆ เรื่องนี้ก็แล้วไปเถิด!”
ได้อย่างไรกัน? กว่าจะขึ้นมานอนบนเตียงได้ไม่ง่ายเลย เจ้าจะหนีไปนอนห้องข้าง ๆ อีกแล้ว ไม่ใช่เขาลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์หรือ?
ชายหนุ่มกังวลเสียจนต้องใช้วิชาตัวเบากระโดดไปยืนตรงหน้าของหยุนเถียนเถียน ยื่นมือไปคว้าตัวของเด็กน้อยแล้วกลับไปที่เตียงในพริบตา!
ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นประหนึ่งสายฟ้าแลบ ครั้นหยุนเถียนเถียนรู้สึกตัวก็เป็นเวลาเดียวกับที่หยุนเคอดึงตัวนางเข้าไปในอ้อมกอดพร้อมพันตัวนางด้วยผ้าห่ม
“หยุนเคอ! เจ้าคนน่าตาย ปล่อยขาเดี๋ยวนี้!”
หยุนเคอตบตูดของเด็กสาวด้วยอารมณ์ไม่พอใจ “เอาล่ะ! ดึกมากแล้ว ยังไม่นอนดี ๆ อีก เจ้าอยากโวยวายเรื่องอะไรกัน?”
เพราะการถูกตบนี้แน่นอนว่าทําให้หยุนเถียนเถียนระเบิดออกมาด้วยความโกรธ! เจ้าคนน่าตายผู้นี้ เหตุใดจึงไม่รู้สึกละอายบ้าง ที่ตรงนั้นของสตรีใช่ว่าจะสัมผัสได้ตามใจเสียเมื่อไหร่?
หยุนเวียนเถียนมีโทสะมากขึ้นเรื่อย ๆ ยามดิ้นรนก็ไม่อาจเอาชนะความแข็งแกร่งของหยุนเคอได้ ทันใดนั้นนางจึงอ้าปากและกัดลงไปที่หน้าอกของหยุนเคออย่างเดือดดาล!
หยนเคอคล้ายไม่เจ็บปวดหรือเคืองตัวแม้แต่น้อย ทั้งยังปล่อยให้นางคลุ่มคลั่งไปเช่นนั้น! เพียงแต่กล้ามเนื้อแน่น ๆ นั้นมีแต่จะทําให้นางปวดฟัน!
หยุนเกียนเถียนไม่ได้ลดแรงกัดเลยสักเพียงนิด ทว่าหลังกัดลงไปนางสูญเสียแรงไปไม่น้อย!
……………….