สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 250 ทางเลือกทั้งสอง
ตอนที่ 250 ทางเลือกทั้งสอง
หยุนเถียนเถียนมองอาหารตรงหน้าอย่างพะอืดพะอม เนื่องจากในอดีตชาตินางทํางานเป็นตํารวจมาหลายปี จึงชื่นชอบอาหารประเภทเนื้อ เพราะนางเป็นผู้หญิงที่ต้องทํางานกับผู้ชาย ดังนั้นจึงต้องคุมน้ําหนักและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
นอกจากนี้การฝึกเช่นเดียวกับผู้ชายนั้นทําให้ร่างกายดึงพลังงานส่วนเกินมาใช้ตลอดเวลา
“นายหญิงหยุน ได้โปรดช่วยนายน้อยด้วยขอรับ!”
“เสี่ยวซื่อรู้ว่าที่ผ่านมาทําไม่ดีกับท่านมาตลอด ข้าคิดน้อยเกินไป… ขออภัยด้วยขอรับ !”
“ข้ารู้ว่านายหญิงหยุนเป็นคนจิตใจงาม ท่านคงไม่ปล่อยให้นายน้อยถูกนายหญิงหลีจับผิดเช่นนี้ ใช่หรือไม่ขอรับ?”
หยุนเถียนเถียนกัมมองเสี่ยวชื่อที่กอดขาของนางแน่นพร้อมครุ่นคิด เขาพูดเรื่องอะไร? หรือว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับหลี่ซือฮวา?
ขณะเดียวกันหยุนเคอก็ได้แผ่รังสีความโกรธเคืองออกมา เขายังไม่เคยแตะต้องตัวคนรักเช่นนี้ แล้วเจ้านี้เป็นผู้ใดถึงกล้ามากอดขานาง!
“นายหญิงหยุนขอรับ ตอนนี้นายน้อยเอาแต่สุราและขังตนเองอยู่ในห้องตํารา ซึ่งข้าไม่รู้ว่านายน้อยพบเจอเหตุการณ์อะไรขณะที่ออกไปทําธุระด้านนอก หากนายหญิงหลี่รู้เรื่องนี้นางจะต้องอ้างสิทธิความเป็นแม่และสั่งขังนายน้อยโดยใช้ข้ออ้างเรื่องต้องการควบคุมประพฤติ จากนั้นธุรกิจทั้งหมดของตระกูลหลี่ก็จะตกอยู่ในกํามือนาง แน่นอนขอรับ”
“นายหญิงหยุนเป็นสตรีที่มีสติปัญญาเฉียบแหลม ดังนั้นข้าเชื่อว่าท่านสามารถหาทางช่วยนายน้อยให้พ้นจากเงื้อมมือนายหญิง และข้าก็เชื่อว่า ท่านจะสามารถเรียกสติของนายน้อยกลับคืนมาได้ขอรับ!”
หยุนเถียนเถียนเผยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกล่าว “เจ้ารู้ได้เช่นไรว่าข้าสามารถเปลี่ยนความคิดนายน้อยของเจ้าได้? เจ้าไม่รู้หรือว่าชื่อเสียงของสตรีนั้นสําคัญเพียงใด? หากหยุนเคอเข้าใจผิดในสิ่งที่เจ้าพูดและคิดว่าข้ากับหลี่ซื่อฮวาลอบมีความสัมพันธ์กัน เจ้าจะรับผิดชอบชีวิตข้าได้หรือไม่?”
เสี่ยวซื่อผงะไปชั่วครู่ เพราะเขาคิดเพียงอยากช่วยนายน้อยจากเงื้อมมือของนายหญิงหลี่จนลืมคิดถึงเรื่องที่นายหญิงหยุนกล่าว
“หากนายน้อยของเจ้าเป็นอะไรไป เจ้าก็ไม่ควรมาหาข้า หยุนเคอ… ท่านลองตามเขาไปดูนายน้อยหลี่สักหน่อยเถิด เพราะอย่างไรเสียข้ากับท่านก็เปรียบเสมือนคนเดียวกันอยู่แล้ว!”
หยุนเคอพยักหน้าพร้อมเผยสีหน้าเรียบเฉยก่อนกล่าว “นําทางไปสิ!”
น้ําเสียงของหยุนเคอเย็นเยียบจนทําให้เสี่ยวซื่อละคนอื่นขนลุกชั้นด้วยความหวาดกลัว แต่ถึงกระนั้นคนผู้นี้ก็เต็มใจที่จะช่วยนายน้อยของเขา
แม้เสี่ยวซื่อจะรู้สึกเสียใจนายหญิงหยุนปฏิเสธที่จะช่วยนายน้อย แต่เขาก็ยังนําทางหยุนเคอไปยังห้องตําราอยู่ดี
หยุนเคอเดินเข้าไปในห้องตําราและพบว่านายน้อยหลี่กําลังนั่งดื่มสุราอยู่ตรงโต๊ะกลางห้อง หลายคนที่พบเห็นภาพเช่นนี้อาจเรื่องธรรมดา แต่ เมื่อสังเกตสีหน้าของเขาอย่างละเอียดแล้วกลับไม่ใช่เช่นนั้นเลย
ดวงตาเหล่านั้นไม่สามารถปิดบังความเจ็บปวดของนายน้อยหลี่ได้เลย…
“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าไปเจอเรื่องอะไรมาอย่างนั้นหรือ? เหตุใดเสี่ยวซื่อถึงวิตกเช่นนี้!”
เสียงของหยุนเคอจึงทําให้หลี่ซื่อฮวาที่ตื่นจา ภวังค์อันเจ็บปวด เพราะเขาไม่ทันสังเกตว่ามีผู้มาเยือน
“หยุนเคอ… เจ้าคือใครกันแน่? ดูจากรูปลักษณ์ และผิวพรรณแล้วข้าคิดว่าเจ้าไม่ใช่นายพรานป่าธรรมดาแน่นอน! เหตุใดเจ้าถึงสมัครใจอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ และยอมแต่งงานกับสาวชาวนาเล่า?”
หยุนเคอยกยิ้มมุมปากพลางเอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน “นายน้อยหลี่คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าในใจเจ้าคิดอย่างไร? คิดว่าข้าโง่อย่างนั้นหรือ? ข้าและหยุนเถียนเถียนมีสัญญาจึงจําเป็นต้องแต่งงานกัน ตอนนี้เจ้าอย่าเพิ่งคิดเรื่องของข้าเลยเจ้าควรเอาเวลานี้คิดหาทางจัดการเรื่องยุ่งเหยิงในชีวิตดีกว่า!”
รอยยิ้มขมขื่นพลันปรากฏบนใบหน้าของหลี่ซือฮวา “อืม ข้ารู้น่า! เพียงเท่านี้ข้าก็แก้ปัญหาของตนเองไม่ได้แล้ว และอีกอย่างข้าไม่อยากลากผู้บริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเจ้าทั้งสองคนเหมาะสมกันมาก!”
“หญิงผู้นั้นเป็นคนฉลาด แม้จะชื่นชมนาง แต่ข้าคิดกับนางเพียงเพื่อนเท่านั้น! เพราะข้าไม่ อยากแต่งงานกับผู้หญิงที่ฉลาดกว่าข้าฮ่า ๆ!”
เมื่อเห็นเจ้าของบ้านกําลังดื่มสุรา หยุนเคอจึงนั่งลงร่วมโต๊ะกับหลี่ซือฮวาเพราะต้องการรักษามารยาทในฐานะแขก
“อืม เจ้ามีเรื่องหนักใจอะไรก็พูดมาเถิด แม้นางจะไม่มาที่นี่ แต่ข้าจะพยายามช่วยเจ้าแก้ปัญหาอย่างสุดความสามารถ
หลี่ซือฮวาส่ายศีรษะพร้อมกล่าวด้วยอย่างจริงจัง “เจ้าช่วยข้าไม่ได้หรอก เพราะเรื่องที่พ่อบ้าน และนายหญิงของตระกูลลอบคบชู้นั้นน่าอับอาย เกินไป และตอนนี้ท่านพ่อก็มาชีวิตลงทิ้งให้ข้าต้องจัดการเรื่องเสื่อมเสียเหล่านี้ตามลําพัง!”
“แต่หากข้าไม่เปิดโปงเรื่องนี้ หญิงชั่วผู้นั้นก็จะมีชีวิตที่สุขสบาย! ข้าละอายใจต่อท่านพ่อเหลื เกินที่ไม่สามารถล้างแค้นให้ได้… พี่ชายหยุนคิดว่าข้าควรทําอย่างไรดี?”
หยุนเคอกล่าวตอบเสียงแผ่ว “เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าแล้วว่าเจ้าจะเลือกเปิดโปงเรื่องใด แต่หากเจ้าเลือกเรื่องชู้สาว หยุนเถียนเถียนจะดูถูกเจ้าตลอดไปแน่นอน!”
หลี่ซือฮวาเบิกตากว้างพร้อมกล่าว “ถึงกระนั้น ข้าก็ไม่สนว่านางจะดูถูกหรือเคารพ เพราะอย่างไรเสียข้าก็ไม่สามารถลงเอยกับนางอยู่แล้ว และ ตอนนี้ข้าขอเพียงจับตัวคนร้ายมาลงโทษก็พอ! เจ้าช่วยชี้ทางข้าเถิดว่าต้องเลือกเปิดโปงเรื่องใด!”
หยุนเคอกําลังจะเอ่ยปากแต่หลี่ซื่อฮวาพูดขัดเสียก่อน “ข้าขอเตือนว่าหากเจ้าทํานางเจ็บช้ําใจ เมื่อไรก็อย่าหาว่าขาหยาบคายก็แล้วกัน! แม้ข้าจะสู้เจ้าไม่ได้แต่เจ้าอย่าประมาทล่ะ!”
หยุนเคอพยักหน้าพลางคิดในใจ เจ้าเด็กเหลือขอช่างไม่รู้อะไรเสียเลย! เห็นได้ชัดว่าเจ้ากําลังตอกย้ำตนเองอยู่… ไม่เข็ดหลาบหรืออย่างไร?
“ข้าคิดว่าเจ้าอย่าเปิดโปงเรื่องชู้สาวเลย เพราะ มันจะทําให้ชื่อเสียงของนายหัวและตระกูลหลี่เสื่อมเสีย อีกทั้งยังส่งผลไม่ดีแก่ธุรกิจของตระกูลด้วย! เจ้าต้องใช้พ่อบ้านหวังเป็นพยานแล้วจับนายหญิงและพี่ชายเรื่องวางยาพิษให้ได้ ส่วนหลังจากนั้นเจ้าจะขายพ่อบ้านหวังหรือฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้าตัดสินใจ!”
“อันที่จริงเจ้าไม่จําเป็นต้องใช้พ่อบ้านหวังเลย หากต้องการเอาผิดสองพี่น้อง เจ้าเพียงแค่จับคนสนิทของหลี่เฟิงมาทรมานจนกว่าจะยอมรับสารภาพก็สิ้นเรื่อง!”