สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 234 ความจริง
ตอนที่ 234 ความจริง
หลี่จินรู้สึกเกรงกลัวต่อคําขู่ของเจ้าคณะเทศ มณฑลเป็นอย่างมาก ผู้พิพากษาท่านนี้ซื่อตรงและเที่ยงธรรม แน่นอนว่าเขาย่อมตัดสินคดีอย่างยุติธรรมโดยไม่สนใจชื่อเสียงของใครเลย
เนื่องจากผู้พิพากษาท่านนี้ปฏิญานตนที่จะถวายชีวิตเพื่อรับใช้ประชาชนอย่างสุจริต จึงไม่สนใจและปฏิเสธการรับของขวัญหรือสินบน และสาเหตุที่เขาปฏิเสธการรับน้ําชาจากนายหัวหลี่ก็เพราะรู้ดีว่านายหัวกําลังพยายามซื้อใจเขาอยู่
เป้าหมายของหยุนเกียนเถียนสําเร็จแล้ว เพราะในขณะนี้ทุกคนต่างเต็มใจสนับสนุนและยืนเคียงข้างนาง ทุกสิ่งที่ทําลงไปไม่เสียเปล่าเลย
“นายหญิงหลี่ เหตุใดท่านจึงดูตื่นตระหนกนัก? ผลการตัดสินยังไม่ออกมาไม่ใช่หรือ? คงจะเหมาะสมกว่าหากท่านแสดงกิริยาเช่นนี้ตอนที่ได้รับผลการพิจารณาคดีแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น นายหัวหลี่ก็หันมองภรรยาของตนทันทีด้วยความโกรธเกรี้ยว
“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? ไม่สบายหรือ?”
หยุนเกียนเถียนแสยะยิ้มพลางกล่าวว่า “นายหญิงยังสาวและกระดูกก็ยังไม่พรุนจะมาสบายได้อย่างไร? นางอาจตัวสั่นเพราะกลัวว่าความจริงจะถูกเปิดเผยเสียมากกว่า!”
นายหญิงหลี่ยืนขึ้นและพูดทันที “นางหยุน! ท่านผู้พิพากษาบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าต้องตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน เหตุใดเจ้าจึงโยนความผิดและชี้ตัวว่าข้าเป็นคนลงมือเช่นนี้?!”
หยุนเสียนเถียนยิ้มจาง ๆ พลางพยักหน้า “นายหญิงช่างมีความมั่นใจดีเสียจริง ข้าหวังว่าท่านจะมั่นใจเช่นนี้ไปจนถึงวันที่ผลพิสูจน์ออกมา นายหญิง… คนเราหลอกลวงผู้ใดก็ได้ แต่หลอกตนเองไม่ได้ ใครทําอะไรไว้ย่อมรู้แก่ใจดี!”
นายหญิงหลี่ใจเย็นแรงด้วยความตื่นกลัวเมื่อได้ยินประโยคนี้ จึงพยายามปลอบใจตนเองและสงบสติอารมณ์ไว้ข้างใน
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว เจ้าไม่ได้ทําอะไรผิด นังหญิงชั้นต่ํานั้นเป็นคนลงมือทุกอย่าง!”
หลี่ซื่อฮวาถอนหายใจเมื่อเห็นว่าพ่อผู้โง่เขลาของตนหลงเชื่อภรรยา เดิมทีนายหัวหลี่เป็นคนฉลาด แต่เพราะหลงรักหญิงผู้นี้จนถอนตัวไม่ขึ้น จึงเชื่อฟังนางอย่างสุดซึ้ง!
“นางหยุน… ข้าขอโทษสําหรับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ขอโทษที่นําหายนะอันไร้เหตุผลนี้มาให้เจ้า เมื่อทุกอย่างจบลง ข้า… หลี่ซื่อฮวา จะขอรินน้ําชาให้เจ้าเพื่อแทนคําขอโทษ!”
เค้าขอโทษ!”
“นายน้อยหลี่ อย่าโทษตัวเองเลย ข้าไม่ใช่คนที่จะโยนความผิดให้ผู้อื่นโดยไร้เหตุผล คนที่ควรยอมรับผิดคือคนที่ลงมือ ไม่ใช่ท่าน!”
เมื่อพูดจบหยุนเถียนเถียนก็หันหลังเดินจากไปพร้อมหยุนเคอ หลี่ซื่อฮวาจ้องมองทั้งสองด้วยแววตาเศร้า มองก่อนจะถอยหลังไปหลายก้าว และยืนนิ่งในที่สุด
หลังจากนั้น นายหัวหลี่จึงสั่งให้สมาชิกในครอบครัวมารวมตัวกัน การพิจารณาคดีกําลังจะเกิดขึ้น และทุกคนจะได้รู้ความจริงในไม่ช้า
เมื่อวันนั้นมาถึง แน่นอนว่าผู้พิพากษาย่อมกล่าวว่าความต่อหน้าทุกคน รวมถึงหญิงที่ป่วยจากการรับประทานเนื้อตากแห้งในครั้งนี้ด้วย
นายหัวหลี่รู้วิธีการจัดการและควบคุมภรรยาของตนเป็นอย่างดี จึงเรียกนางมาเพื่อบีบบังคับให้สารภาพผิด
นายหญิงหลี่จึงสารภาพ “ข้าไม่พอใจที่นางหมิ่นเกียรติข้า จึงสั่งให้คนทําเช่นนี้เพื่อเป็นการแก้แค้น แต่ไม่ต้องกังวลไป ไม่ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม…ข้าสามารถหาคนมารับผิดแทนได้!”
เมื่อได้ยินดังนั้นนายหัวหลี่ก็เชื่อฟังภรรยาของตนและเต็มใจที่จะปกป้องนางอย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะที่หลี่ซื่อฮวาเต็มไปด้วยความผิดหวัง นายหญิงหลี่พอใจในสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมากจึงยิ้มอย่างมีชัย และหันหลังเดินกลับขึ้นรถไป
หยุนเถียนเถียนไม่ได้กังวลต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด นางไม่สนใจว่าใครจะรับผิดแทนใคร และไม่เชื่อว่านายหัวหลี่จะอดทนยอมให้หญิงผู้นั้นรังแกลูกชายไปตลอดได้
เนื่องจากครอบครัวหลื่อยู่ในตระกูลสูงส่งและมีชื่อเสียงจึงต้องรักษาหน้าตาทางสังคม และปกป้องชื่อเสียงของครอบครัวให้ดีที่สุด
หลี่ซื่อฮวากล่าวต่อหยุนเวียนเถียนด้วยความละอายใจ “ข้าขอโทษแทน… ขอโทษแทนท่านพ่อด้วย…”
“ไม่หรอก! เมื่อได้ยืนอยู่ในจุดเดียวกับนายหัวหลี่ ท่านก็คงทําแบบเดียวกัน แน่นอนว่าการปกปิดจุดอ่อนของครอบครัวไว้เพื่อไม่ให้ใครรับรู้เป็นสิ่งสําคัญ เพราะชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลนั้นส่งผลต่อการทําธุรกิจและการดําเนินชีวิตเป็นอย่างมาก”
“อันที่จริง หากปล่อยให้ข้าพูดอะไรมากเกินไป นายหญิงหลีก็อาจไม่รอดได้ ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะต้องทําเช่นนั้นเพราะอาจส่งผลให้ครอบครัวของท่านถูกหมิ่นเกียรติได้ ใช้โอกาสนี้ทําให้พ่อของท่านตาสว่างเถิด เมื่อเขารู้ความจริงเขาจะปฏิบัติต่อท่านอย่างดีเยี่ยมเป็นแน่”
หลี่ซื่อฮวาแบะปากราวกับเด็ก “ใครจะอยากข้องเกี่ยวกับหญิงใจร้ายเช่นนั้นเล่า?”
หยุนเถียนเถียนอดไม่ดีที่จะยิ้มออกมา ในสายตาของนางแล้ว ชายวัยยี่สิบเช่นหลี่ซื่อฮวาควรจะโตเต็มวัยและเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผล ทว่าเขากลับยังงอแงเป็นเด็กโง่เขลา
“เอาล่ะ เมื่อทุกอย่างชัดเจนแล้ว ข้าจะร่วมมือกับตระกูลหลี่ต่อไป แต่… ข้าขอไม่ต้องเจอนายหัวหลี่อีก เพราะเขาและภรรยาสร้างความรําคาญยิ่งนัก”
เมื่อแยกจากหยุนเถียนเถียนแล้ว หลี่ซื่อฮวาก็ถูกพ่อเรียกตัวให้ไปพบทันทีที่กลับถึงบ้าน
“ชื่อฮวา ความผิดของเจ้าวันนี้ยิ่งใหญ่นัก ในขณะที่นางกลั่นแกล้งและเกลียดชังเรา เจ้ากลับยังผูกพันธมิตรกับนางอย่างนั้นหรือ?”
หลี่ซื่อฮวาโบกมือปฏิเสธทันที “หญิงผู้นั้นเป็นทั้งมิตรและคู่ค้าที่ดีของข้า อีกทั้งครอบครัวเรายังได้รับผลประโยชน์มากมายด้วยฝีมือของนาง ท่านพ่อควรจะสุภาพต่อเถียนเถียนให้มาก รวมถึงคนรักของท่านด้วย โปรดสั่งสอนนางให้ดี!”
แม้หลี่จินจะรู้สึกโกรธต่อคําพูดของลูกชาย แต่เมื่อไตร่ตรองถึงสิ่งที่หลี่ซื่อฮวาพูดก็รู้สึกแย่
“ข้ารู้ว่านายหญิงหลี่ไม่ใช่แม่ของเจ้า แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นสมาชิกในครอบครัวของเรา ดังนั้นโปรดรับหน้าแทนนางด้วย และเมื่อวันหนึ่งเจ้า ขึ้นมาแทนที่พ่อ… ก็จงเลี้ยงดูนางให้ดีด้วย คําขอของพ่อมีเพียงเท่านี้ นอกจากนั้นก็ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าเถิด!”
หลี่ซื่อฮวารู้สึกโกรธอยู่ในใจจึงไม่อยากพูดอะไรต่อ และในที่สุดการสนทนาก็จบลงอย่างไม่มีความสุข
เมื่อเห็นว่าลูกชายขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับตน นายหัวหลีจึงสาดอารมณ์ใส่ภรรยาทันที หากไม่ใช่เพราะนางความสัมพันธ์ระหว่างเขาทั้งสองก็อาจดีกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ในฐานะครอบครัวใหญ่ นายหัวหลี่ไม่สามารถทําสิ่งที่หยาบคายได้มากนักแม้จะโกรธก็ตาม ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและพาตัวสาวใช้เข้าห้องนอนไปต่อหน้าภรรยา ซึ่งทําให้นายหญิงหลี่รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก
เหตุใดชายที่มีภรรยาแสนงดงามจึงลดตัวลงไป คว้าสาวใช้มาเป็นนางบําเรอได้?