สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 227 สูญเสียทั้งสองทาง
ตอนที่ 227 สูญเสียทั้งสองทาง
เฉินไฉ่อไม่ได้สนใจจางชิงเฟิงแม้แต่น้อยเพราะในสายตาของนางมีเพียงนายน้อยหลี่ เท่านั้น
เมื่อหลี่ซื่อฮวาเห็นว่าเป้าหมายที่เขาต้องการสําเร็จแล้วจึงพูดอย่างเยาะเย้ยว่า“เจ้าเป็นลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้านและเป็นหญิงที่มีความรู้จริงๆหรือ?เหตุใดจึงไร้สมองและไร้ยางอายนัก?เสียสติไปแล้วหรืออย่างไร ? เหตุใดจึงปฏิเสธชายที่รักเจ้ามีเพียงคนโง่เท่านั้นที่พยายามยัดเยียดตนเองใส่มือของข้า”
สีหน้าของเฉินไฉ่อเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้รู้ว่านายน้อยหลี่ไม่ได้สนใจนางเลยแม้แต่น้อย
“นายน้อยหลี่ ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร? ข้าปฏิบัติต่อท่านด้วยใจจริง เหตุใดจึงทําราวกับว่า ไม่ต้องการข้า?”
หลี่ซื่อฮวายิ้มเยาะและไม่ได้สนใจอะไรพลันเดินหน้าต่อเพื่อไปยังโรงงานของหยุน เถียนเถียนทันที
เมื่อเห็นว่านายน้อยหลี่กําลังจะจากไปเฉินไฉ่อก็ตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่งทันที “ข้ารู้ว่าเป็นเพราะหญิงสารเลวผู้นั้นนางมีคู่หมายแล้วทั้งยังอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างไร้ยางอายแต่กลับติดต่อกับท่านงั้นหรือ? นายน้อยหลี่… ท่านมีแต่จะโดนนังนั่นหลอก”
แท้จริงแล้วขณะที่เฉินไฉ่อีกําลังส่งเสียงดังโวยวายทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างได้ยินอย่างชัดเจนแต่เพราะกลัวว่าจะทําลายหน้าตาทางสังคมและชื่อเสียงของหญิงสาวจึงไม่มีใครออกมาเพื่อหยุดนาง
หากเฉินไฉ่อไม่โกรธจนควบคุมสติไม่ได้คงจะสังเกตเห็นว่ามีคนมากมายกําลังจ้องมองนางอยู่
เมื่อหยุนเถียนเถียนได้ยินสิ่งที่นางก่นด่าตนเอง ก็อดไม่ได้ที่จะเปิดประตูและเดินออกมาทันที
“นางเฉิน… เจ้ากล้าพูดแบบนั้นออกมาได้อย่างไร? ที่ข้าต้องอาศัยอยู่กับคู่หมายก็เป็นเพราะถูกหลินชวนฮวาเผาบ้านและไม่มีที่ไปเพราะไม่ว่าอย่างไรข้าทั้งสองก็ต้องแต่งงานกันไม่ช้าก็เร็วเจ้ามีปัญหาอะไรต่อข้าอีกหรือไม่?เหตุใดนางเฉินและเจ้าบ่าวจึงกล้ามาหยุดรถม้าของผู้อื่นตามอําเภอใจ?”
“ว่ากันว่าเจ้ารู้จักตําราเล่มหนึ่งที่ไม่ใช่หรือ? ตํา ราสมบัติผู้ดี… เคยอ่านใช่หรือไม่?คู่หมายของเจ้ากําลังยืนฟังเจ้าสาวสารภาพรักต่อชายอื่นโดยที่นางไม่ใส่ใจเลยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร เฉินไฉ่อี… เจ้ากล้าทําเช่นนี้โดยไม่ละอายใจได้อย่าง ไร?”
เฉินไฉ่อกัดฟันพลางน้ําตาไหล และเพื่อรักษา ภาพลักษณ์ต่อหน้านายน้อยหลี่นางจึงเงียบและไม่ตอบกลับอะไร
เฉินไปถอนหายใจยาว เพราะหากเรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านเทพธิดาคงจะทําให้เสีย หน้าเป็นแน่ยิ่งไปกว่านั้นการที่ทําให้ขุนนางผู้นี้ต้องทุกข์ระรมอย่างสิ้นหวังก็ไม่ใช่เรื่องดี หากมีข่าวลือเสียหายเกิดขึ้นเกรงว่าจะไม่มีใครสามารถแก้ต่างได้
เฉินไปจึงเอื้อมมือออกไปเพื่อปลอบใจจางชิงเฟิง “รู้ตัวตนที่แท้จริงของนางตั้งแต่ตอนนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ?ดีกว่าต้องเสียใจและทุกข์ระทมไปทั้งชีวิตหลังจากแต่งงาน”
จางชิงเฟิงทรุดลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด เฉินไปไม่รู้จะทําอย่างไรจึงพาตัวเขาไปหาเฉินซึ่งเพราะไม่ว่าอย่างไรชายผู้นี้ก็ถือเป็นลูกเขยของเขาและมีเพียงเฉินซึ่งเท่านั้นที่จัดการเรื่องนี้ได้
“นายน้อยหลี่… เชิญไปนั่งที่ลานหน้าโรงงาน ของข้าก่อนเถิด หยุนเคออยู่ที่นั่นและจะดูแลท่า นเป็นอย่างดีส่วนเฉินไฉ่อ… จงส่งนางกลับบ้าน ไปเสียและดูแลให้ดี หญิงผู้นี้ทําเรื่องอัปยศจนน่าละอายใจ”
เฉินไปพยักหน้าก่อนจะพาตัวเฉินไฉ่อีกลับไป ยังบ้านของเฉินซึ่งทันทีโดยไม่สนใจว่านางจะขัดขันหรือไม่
“หยุนเถียนเถียน นั่งสารเลวหากไม่ใช่เพราะเจ้านายน้อยหลี่คงไม่ดูถูกข้าเช่นนี้ต้องเป็นเจ้าแน่ที่เป่าหูเขาว่าข้าเป็นคนไม่ดีเพราะเจ้าอิจฉาและยังต้องแต่งงานกับชายป่าเถื่อนน่ารังเกียจจึงอยากทําลายชีวิตข้าใช่หรือไม่?”
หยุนเกียนเถียนรู้สึกไม่อยากเข้าไปพัวพันกับ หญิงผู้นี้อีกจึงเพิกเฉยและนิ่งเงียบ แม้เฉินไฉ่อจะ สาปแช่งนางก็ตาม
ไม่นานชาวบ้านก็ต่างมารุมล้อมกันยังบ้านของ เฉินซึ่ง
เนื่องจากเฉินซ่งได้สูญเสียตําแหน่งหัวหน้าหมู่ บ้านไปแล้ว เขาจึงใช้เวลาทั้งวันนั่งจิบชาอยู่ที่บ้านโดยไม่ได้ออกไปไหนเลย
แต่เมื่อเห็นผู้คนมากมายต่างกรูกันเข้ามายังบ้า นของตน ทั้งยังได้ยินเสียงลูกสาวกรีดร้องอย่างสิ้นหวังเฉินซึ่งจึงรีบออกมาทันที
“เฉินไป แม้เจ้าจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน แต่ก็ไม่ ควรรังแกลูกสาวของข้าเช่นนี้”
ผู้เฒ่าใหญ่แทรกขึ้นอย่างเคร่งขรึม “เฉินซึ่ง เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ใครกันจะกล้ารังแกลูกสาวของเจ้าโดยไม่มีเหตุผล?”
เฉินซ่งก้มศีรษะลงพลางพูดด้วยความเคารพ “ไม่มี..”
แท้จริงแล้ว เฉินซึ่งสาปแช่งท่านผู้เฒ่าอยู่ในใจ และไม่เข้าใจว่าเหตุใดเข้าจึงเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้
“มาดูสิว่าลูกสาวที่แสนดีของท่านถูกสอนมา แบบไหนกัน? นางเข้าหยุดรถม้าของนายน้อยหลี่เพื่อสารภาพรักต่อหน้าเจ้าบ่าวของตนอย่างไรยางอายช่างเป็นหญิงที่เพียบพร้อมเสียจริง”
สีหน้าของเฉินซ่งเปลี่ยนไปทันที เพราะไม่คิด ว่าลูกสาวที่เขาเกลี้ยกล่อมมาอย่างดีเมื่อวานนี้จะทําลายทุกอย่างจนมอดไหม้
“มาดูเถิดว่าหญิงผู้นี้ทําเรื่องอัปยศต่อลูกชาย ของจางชิวไฉ่อย่างไร? ข้าส่งตัวเจ้ากลับมาที่นี่พร้อมจางชิงเฟิงเพื่อจะรอฟังคําสารภาพเฉินซ่ง… หน้าตาและชื่อเสียงของท่านที่สร้างมาโดยตลอดวันนี้กลับถูกทําลายเพราะลูกสาวที่แสนดีเช่นนั้นแล้วอย่าปล่อยให้นางมาทําลายชื่อเสียงของหมู่บ้านเด็ดขาด”
เฉินซ่งเหลือบมองจางชิงเฟิงและตกใจต่อการ แสดงออกของเขา ดูเหมือนว่าชายผู้นี้จะผิดหวังเป็นอย่างมากใบหน้าและแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าหมองหากปล่อยไว้เช่นนี้คงไม่ดีแน่เพราะอาจทําให้เฉินซึ่งสูญเสียลูกเขยที่เขาปรารถนาไป
เมื่อคิดถึงความฝันที่กําลังจะพังทลายลงเฉินซึ่งจึงตะโกนใส่ลูฏสาวทันที“เรียนหนังสือสูง เสียเปล่าแต่กลับไร้ยางอายจางชิงเฟิงไม่ดีอย่างไร?ข้าสั่งสอนและส่งเสียให้เจ้าเรียน หนังสือเพื่อให้มีความรู้และแต่งงานกับขุนนางไม่ใช่เพื่อให้มาเป็ฯทาสรับใช้หรือสนมของใคร”
เฉินไฉ่อีก้มศีรษะลงหลั่งน้ําตาด้วยความเจ็บปวดเพราะนางไม่เข้าใจว่าเหตุใดหยุ นเถียนเถียนจึงต้องไปเป่าหูนายน้อยหลี่เช่นนั้น?
สําหรับเฉินไฉ่อ การเจรจาธุรกิจที่หยุนเถียนเถียนกล่าวอ้างล้วนเป็นรื่องโกหกหญิงก็เป็น เพียงหญิงทําได้ดีที่สุดก็แค่เย็บปักถักร้อยจะไปเจราจาธุรกิจเฉกเช่นชายได้อย่างไร?นางต้องยั่วยวนนายน้อยหลี่เป็นแน่และเขากพร้อมจะตอบสนองเสมอ
เมื่อเห็นท่าที่ไม่สํานึกของลูกสาว เฉิงซูวก็ตบ หน้านางอย่างรุนแรงทันที
“พอใจแล้วหรือยัง? นายน้อยหลี่ไม่ได้สนใจเจ้าแม้เพียงนิดเจ้าทําลายแผนการทุกอย่างของครอบครัวเราทั้งยังทําร้ายความรู้สึกลูกชายเขาจนป่นปี้เช่นนี้แล้วจะให้ข้าแบกหน้าไปบอกครอบครัวจางว่าอย่างไร?”
เฉินไปแทรกขึ้นทันที“แก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวของท่านเองเถิดข้ามีอย่างอื่นที่ต้องจัด การ จากนี้ไปก็จงอย่าปล่อยให้ลูกสาวของท่านสร้างเรื่องอะไรอีก”