สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา - ตอนที่ 295 ยังมีแผนการอะไร
ชีเสี่ยวจิ่งเข้าไปที่ร้านกาแฟ กาแฟและเดินไปยังตำแหน่งที่นัดไว้ล่วงหน้าภายใต้การนำของบริกร
มีผู้หญิงสวมชุดเครื่องแบบนั่งอยู่ในนั้นแล้ว เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ชวี่ยี่ตรวจสอบก่อนหน้านี้
“เสี่ยวจิ่ว คุณรีบร้อนเรียกฉันมาขนาดนี้มีอะไร?”
หลังจากชีเสี่ยวจิ่วนั่งลง ดื่มน้ำหนึ่งอึก อารมณ์สงบลงจึงพูดว่า : “ทางบริษัทของฉันนี้พบบุคคลที่รั่วไหลความลับแล้ว”
เพื่อนร่วมชั้นขมวดคิ้ว
“ดังนั้น คุณก็เลยสงสัยว่าคุณถูกตรวจสอบแล้ว?”
ชีเสี่ยวจิ่วพยักหน้าทั้งส่ายหัว
“ฉันไม่แน่ใจว่าคนที่บริษัทตรวจสอบเจอคือฉันหรือเปล่า แต่ในกรณีที่ใช่ ทั้งชีวิตนี้ของฉันจบลงแล้ว คุณสามารถให้คนเบื้องบนของคุณช่วยตรวจสอบให้หน่อยได้ไหม?”
เพื่อนร่วมชั้นหลุบตาลง : “ฉันจะช่วยลองถามดูนะ”
อันที่จริงที่เธอพูดเช่นนี้ก็มีความกังวลของตนเอง
ถึงอย่างไรถ้าชีเสี่ยวจิ่วถูกตรวจเจอ เช่นนั้นเธอก็จะถูกเชื่อมโยงเข้าไปด้วย
พูดจบ เธอให้ชีเสี่ยวจิ่วรออยู่ที่นั่น ตนเองเดินไปข้างๆแล้วติดต่อคนเบื้องบน
ลู่ซือหยี่ฟังคำพูดของเพื่อนร่วมชั้นตนเองจบ แสงเยือกเย็นก็ฉายในแววตา แล้วพาด้วยความกระวนกระวายเบาๆ
“คุณยืดเวลาเธอออกไปก่อน เรื่องนี้เราไม่สามารถแทรกแซงได้”
ถแป็นอย่างที่ผู้ช่วยบอกจริงๆ เฟิงซื่อกรุ๊ปพบตัวคนร้ายจริงๆแล้ว ออกแรงช่วยเหลือพวกเธอ ก็จะเกี่ยวพันกับตนเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพื่อนร่วมชั้นนึกถึงตรงนี้ ก็พยักหน้าเข้าใจคำสั่งแล้ววางสายไป
เธอกลับมานั่งที่เดิมทันที ชีเสี่ยวจิ่วมองเธออย่างตึงเครียด
“เป็นยังไงบ้าง คนเบื้องบนของคุณยอมช่วยฉันไหม?”
เพื่อนร่วมชั้นมองเธอ ความหงุดหงิดก็ฉายในแววตา
“เสี่ยวจิ่ว คุณอย่าหวาดกลัวไปก่อนเลย ตอนนี้คุณยังไม่แน่ใจ ถ้าพวกเราช่วยคุณ จะบอกว่าเฟิงซื่อกรุ๊ปตบตาอยู่ ว่าเป็นคุณที่หักหลังพวกเขา คุณเพียงแค่รออย่างเงียบๆ ถึงเวลาถ้าเป็นคุณจริงๆ เราจะช่วยคุณอย่างแน่นอน อย่างไรเสียถ้าคุณถูกจับได้ ทางด้านเรานี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย”
เธอพูดโน้มน้าวเกลี้ยกล่อมอย่างอดทน
ชีเสี่ยวจิ่วก็ตกใจกลัว
ยังไม่รอให้เธอสติกลับมา เพื่อนร่วมชั้นมองดูเวลาบนข้อมือของเขา ยิ้มพูดว่า : “เสี่ยวจิ่ว เวลาดึกแล้ว ฉันมีนัดไปทานข้าวกับแฟน ไปก่อนนะ”
ชีเสี่ยวจิ่วมองเธอจากไปอย่างตกตะลึง สีหน้าก็หม่นหมองลงมาทันที
จะพูดอะไรรอพรุ่งนี้ยืนยันแล้วค่อยว่ากัน อันที่จริงก็ไม่อยากจะสนใจเธอ
เธอคิดถึงตรงนี้ มือที่วางอยู่บนขาก็กำแน่นขึ้นมา
ดูเหมือนว่าทางด้านนี้เธอก็หมดหวัง เธอแค่ต้องอาศัยตนเอง
เธอไม่สามารถรอจนกว่าบริษัทจะประกาศในวันพรุ่งนี้ได้
ดังนั้นตอนนี้เธอเหลือทางเดียวคือหนี
คิดเสร็จ เธอก็ถือกระเป๋าแล้วรีบออกไปจากร้านกาแฟ
เธอรีบกลับไปที่บ้านเช่า หยิบกระเป๋าเดินทางออกมาและเริ่มเก็บข้าวของ
หลังจากหนึ่งชั่วโมง เห็นเธอออกจากบ้านเช่าพร้อมกระเป๋าเดินทาง
เธอกำลังจะเรียกแท็กซี่แล้วออกไป ชวี่ยี่ก็สั่งคนขับรถให้ขับเข้าไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระจกรถลดลง เผยให้เห็นใบหน้าของชวี่ยี่ เธอก็ตื่นตระหนก
“ผู้ช่วยพิเศษชวี่……”
เธอถอยหลังอย่างโซซัดโซเซ คิดจะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนี แต่ด้านหลังมีบอดี้การ์ดอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่
“ชีเสี่ยวจิ่ว คุณหนีไม่พ้นหรอก”
ชวี่ยี่เห็นการกระทำของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นก็สั่งบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอก
“พาเธอขึ้นรถ”
ชีเสี่ยวจิ่วเห็นเช่นนี้ “พวกคุณคิดจะทำอะไร? ปล่อยฉันนะ ฉันต้องการฟ้องคุณในข้อหาลักพาตัวโดยผิดกฎหมาย”
ชวี่ยี่เห็นชีเสี่ยวจิ่วที่ต่อสู้ดิ้นรนไม่หยุด ก็หรี่ตาทั้งคู่เล็กน้อยแล้วกล่าวว่า: “ก่อนที่คุณจะฟ้องพวกเรา พวกเราควรจะนับเรื่องที่คุณเปิดเผยความลับของบริษัทด้วยไหม”
ชีเสี่ยวจิ่วฟังถึงคำพูดนี้ ใจก็สั่นเล็กน้อย
“คุณกำลังพูดอะไร? ฉันไม่เข้าใจ”
เธอปฏิเสธ ตัดสินใจที่จะไม่ยอมรับมัน
ชวี่ยี่ก็มองออก หัวเราะอย่างเย็นชา
“กลับไป”
ชีเสี่ยวจิ่วฟังถึงคำพูดนี้ คนก็สั่นเล็กน้อย แต่ก็จนปัญญาที่จะต่อต้าน ทำได้เพียงถูกบอดี้การ์ดบังคับให้ขึ้นรถไป
ชวี่ยี่เห็นเธอแระพฤติตัวดีแล้ว ก็หยิบมือถือขึ้นมารายงานสถานการณ์ให้เฟิงจิ่งเหยา
“ท่านประธาน จับคนได้แล้ว ก่อนที่จะจับเธอได้ คนก็คิดจะหนีไปแล้ว”
ในห้องหนังสือ เฟิงจิ่งเหยาที่จัดการงานอยู่ก็ไม่ได้แปลกใจ อืมเบาๆคำหนึ่ง: “คนมอบให้คุณไต่สวน จำเป็นต้องถามถึงคนที่บงการอยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้”
ชวี่ยี่พยักหน้า: “ฉันทราบแล้ว”
พูดจบ เขาก็จะวางสายโทรศัพท์ แต่ถูกเฟิงจิ่งเหยายับยั้งไว้
“โทรศัพท์ไม่ต้องวางสาย”
ชวี่ยี่แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็รับคำสั่ง
หลังจากนั้นเฟิงจิ่งเหยาก็วางมือถือแล้วเดินออกไปจากห้องหนังสือ เขามุ่งตรงกลับไปยังห้อง
เวลานี้กู้ฉางฉิงกำลังสร้างสรรค์ผลงานอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงเปิดประตู ก็เอียงหน้าไปมอง
“วันนี้ทำงานเสร็จเร็วหรอ?”
เธออมยิ้มกล่าวทักทาย เฟิงจิ่งเหยาส่ายหน้า
“เปล่า แต่คิดว่ามีเรื่องที่คุณควรจะมีส่วนร่วม”
กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็งุนงง
“เรื่องอะไรหรอ?”
เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้ปิดบัง พูดเรื่องที่ชีเสี่ยวจิ่วคิดอยากจะหนีและถูกจับตัวได้ออกมา
“ชวี่ยี่พาเธอไปไต่สวนแล้ว ฉันคิดว่าขั้นตอนนี้คุณควรจะไปฟังสักหน่อย ถึงอย่างไรก็เป็นคนที่คุณพาออกมา ฉันไม่อยากให้เกิดอะไรผิดพลาด”
กู้ฉางฉิงฟังถึงคำพูดนี้ อดไม่ได้ที่จะเลิก
เธอคาดไม่ถึงไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะระวังตัวขนาดนี้
แต่ตอนที่เธออยู่ที่ห้องอาหารก็ลังเลใจเล็กน้อย ว่าคนคนนี้ต้องการให้เธอได้ยินกับหูตัวเอง
แต่ฟังๆแล้วก็ไม่เห็นเป็นไร เธอก็อยากจะรู้ว่าทำไมชีเสี่ยวจิ่วถึงต้องทำแบบนี้
เช่นนี้ เธอจึงตามเฟิงจิ่งเหยาไปที่ห้องหนังสือ
เฟิงจิ่งเหยากดเปิดลำโพงโทรศัพท์ที่ยังอยู่ในสาย
เวลาเดียวกันนี้ ชวี่ยี่ก็นำคนไปที่คฤหาสน์อีกหลังหนึ่งของเฟิงจิ่งเหยา
เขาแสดงเจตนาให้บอดี้การ์ดนำคนเข้าไป เริ่มไต่สวน
“ชีเสี่ยวจิ่ว พูดสิ ทำไมต้องขายความลับของบริษัท คนที่บงการอยู่เบื้องหลังเป็นใคร พวกเขายังมีแผนการอะไร”
ชีเสี่ยวจิ่วถูกควบคุม เดิมทีในใจก็เป็นกังวลอย่างมาก
เวลานี้ฟังถึงคำถามเหล่านี้ ทั่วทั้งตัวก็แข็งเกร็งขึ้นมา
ชัดเจนว่านี่คือบริษัทได้ควบคุมการกระทำทั้งหมดของเธอแล้ว
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เธอก็ไม่สามารถยอมรับได้ ไม่เช่นนั้นคนเองก็จบเห่จริงๆ
“ผู้ช่วยพิเศษชวี่ คุณกำลังพูดอะไรอยู่? ฉันจะขายความลับของบริษัทได้ยังไง”
เธอเสแสร้งทำเป็นตนเองไม่รู้เรื่องอะไร
ชวี่ยี่มองเธออย่างเคร่งขรึม เห็นชีเสี่ยวจิ่วไม่อาจโน้มน้าวได้ ความตั้งใจแน่วแน่ก็สิ้นหวังไปเล็กน้อย
เวลานี้ ชวี่ยี่ก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วบังคับให้ตอบอีกครั้ง: “แกล้งโง่กับฉันหรอ? ถ้าไม่ได้ขายความลับ งั้นเงินห้าแสนในธนาคารของแม่คุณมาจากไหนล่ะ ตามที่ฉันรู้มา ครอบครัวพวกคุณก็เป็นกรรมกรทั่วๆไป แล้วก็ไม่มีใครซื้อลอตเตอรี่”
ชีเสี่ยวจิ่วได้ยิน สีหน้าก็ซีดขึ้นมา
เธอไม่คาดคิดว่าบริษัทจะตรวจสอบไปถึงแม่ของเธอ
เมื่อเธอกำลังหาข้อแก้ตัวอย่างหวาดผวา ชวี่ยี่กล่าวถามใจความสำคัญด้วยเสียงที่เคร่งขรึมอีกครั้ง: “ตามกฎหมายการค้าของประเทศ X มาตรา342 การค้าผลงานทางธุรกิจของคนอื่นอย่างผิดกฎหมาย จะถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 5 ปีจนถึงตลอดชีวิตตามมูลค่าของมัน เชื่อว่าไม่ต้องให้ฉันเตือนหรอก คุณน่าจะรู้ว่าผลงานที่ออกแบบโดยคุณกู้สามารถนำผลกำไรมาให้บริษัทได้อย่างน้อยหนึ่งล้านจนถึงสิบล้าน คุณคิดว่าจะถูกตัดสินจำคุกสักกี่ปี? แน่นอน….หากคุณให้ความร่วมมือในการตรวจสอบกัยบพวกเรา บริษัทก็สามารถจัดการพิจารณาได้”