วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 571 น่าหลงใหล 2
ตอนที่ 571 น่าหลงใหล 2
ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นมา เธออยากจะหนีออกไปจากชายผู้นี้เต็มทน
“แกร๊กๆ” เมื่อได้ยินเสียงกุญแจมือทองกระทบกับกำแพง เธอจึงนึกขึ้นได้ว่ามือซ้ายของตนยังถูกคล้องไว้กับมือของเขาอยู่
ทันทีที่ฝ่ายหญิงนิ่งงัน เขาก็พลิกตัวของเธอไปอีกฝั่ง
กุญแจมือที่คล้องอยู่ล็อคร่างของเธอไปมากกว่าครึ่ง ยากที่เธอจะขัดขืน
ไม่นาน วัจสาก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งกาย….
ฤดูหนาวของเมือง s ไม่ถึงกับหนาวมาก ฉะนั้นจึงยากที่จะเห็นเกล็ดหิมะโรยรา แต่ในยามนี้วัจสากลับรู้สึกเหมือนตกอยู่ในเหวอุโมงค์น้ำแข็ง
เวลาห้าปีได้ผ่านไปแล้ว แต่เนื้อตัวของเธอก็ยังสะอาดสะอ้าน อ้อนแอ้นอรชรไม่เคยเปลี่ยน พอเวลาที่เธอเจอกับนิสัยบุ่มบ่ามดุดันของธัชชัย เธอก็ยังคงเจ็บอยู่ดี
เป็นความเจ็บที่อธิบายไม่ถูก ความเจ็บที่ทำให้ร่างของเธอไร้เรี่ยวแรงไปทั้งตัว
ธัชชัยเองก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่เขาเชื่อว่าความเจ็บในกายสามารถลบล้างความเจ็บในใจได้ และวิธีนี้ก็ตั้งอยู่บนความเจ็บปวดของวัจสา
เธอรู้สึกว่าเธอใกล้คลั่งเต็มทีแล้ว ที่เธอยอมให้เขาข่มเหงรังแกอย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นห้าปีก่อน หรือว่าตอนนี้
และเธอเองก็ไร้วิธีต่อต้าน เธอต้องอยู่กับเขา โดนเขาทารุณอย่างนี้ตลอดชีวิตจริงๆเหรอวัจสาเริ่มคิดต่อต้าน แต่ทั้งร่างกายและจิตใจของเธออยู่ในกำมือของเขาหมดแล้ว ขนาดหายใจธรรมดายังยากเลยข้อพับของเขามีกำลังมากราวกับคีมเหล็ก ที่คีบร่างเล็กของหญิงสาวไม่ให้ขยับ“ธัชชัย ไอ้บ้ากำลัง ไอ้คนระยำ!” วัจสาสบถคำด่าใส่ชายหนุ่มไม่หยุด ทำเอาเธอทั้งโกรธ ทั้งเหนื่อยในเวลาเดียวกันไม่ถึง 3 นาที เธอก็รู้สึกร้อนผ่าว….ได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นธัชชัยนิ่งงันอย่างคิดไม่ถึง เขาคงคิดไม่ถึงว่าเธอจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้คงจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียวแต่คนหน้าด้านอย่างธัชชัย คงไม่รู้สึกอะไรอย่างนั้นหรอกธัชชัยสวมกอดวัจสาจากด้านหลัง คงน่าจะเริ่มเหนื่อยแล้ว เขาตั้งคางของตนบนไหล่อันซีดผอมของหญิงสาวเบาๆ แต่วัจสากลับอยากจะสลัดคางเขาออกไปให้พ้นเสียที่จริงคงไม่ใช่กายที่เหนื่อยหรอก แต่เป็นเพราะใจที่เหนื่อยมากกว่า โดยเฉพาะแผลใจเวลาที่เขาทำอะไรแบบนี้ เขามักจะนึกถึงลูกที่ ‘ตายแต่วัยเยาว์’ คนนั้น ถึงทำให้กำลังของเขาอ่อนยวบลงมาในทันใด“ผิดหวังเหรอ” ธัชชัยกระซิบที่ข้างหูวัจสา “ไม่สมอย่างใจคุณเหรอ”ถ้าได้ยินแค่ประโยคหน้า เธอคงจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อเธอได้ยินประโยคหลังที่ตามมานั้น เธอแทบอยากจะฉีดเขาออกเป็นชิ้นๆโปรยให้เป็นเถ้าสลายไปบนฟากฟ้าเธอไม่เคยบอกว่าเธอต้องการอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่เป็นเพราะสันดานเลวๆของเขาทั้งนั้น ทำไมต้องโยนความผิดต่างๆนานามาให้เธอรับผิดชอบด้วย“ขอโทษทีนะครับ พอดีว่าผมไม่ได้เจอผู้หญิงมานานแล้ว อาจจะมีเหลือบ่ากว่าแรงไปบ้าง เดี๋ยวผมก็ปรับตัวได้เองแหละ” ธัชชัยกอดแผ่นหลังของเธอไว้แน่น และสัญชาตญาณของเขาก็หยิบของที่อยู่ที่พื้นมาล็อควัจสาเอาไว้“ไม่ต้องกลัว ที่นี่ไม่มีกล้อง”เขาออกแรงใช้กายบังร่างของวัจสาไปทั้งตัว ก่อนจะกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา “คุณคงจะตื่นเต้นน่าดูเลยนะเนี่ย เหงื่อถึงได้ออกขนาดนี้”วัจสาหมดคำจะพูด เจ็บจะตาย ตื่นเต้นกับป้าบ้านนายสิหรือว่าเธอจะโดนทารุณจริงๆ และคงจะซาดิสม์มากแน่ๆต่อต้านไม่ได้กับต่อต้านไม่สำเร็จมันคนละเรื่องกัน !“ธัชชัย คุณทำแบบนี้กับฉันไปเพื่ออะไร คุณต้องการจะแก้แค้นหรือว่าจะหยามฉันกันแน่ และอย่ามาอ้างว่าจะทำให้สารภาพผิด”ข้างนอกหน้าต่างเต็มไปด้วยแสงตะวันสาดส่อง ในนี้ต่างจากตึกระฟ้าที่ตั้งสลอนอยู่กลางเมืองนัก หน้านอกมีเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ แต่ภายในนี้ แม้แต่แสงอาทิตย์ก็ไม่อาจทำให้ใจของวัจสาอบอุ่นขึ้นได้เธอหยุดเว้น เสียงแหบเล็กน้อย “เวลาสัตว์มันจะผสมพันธุ์กันมันยังถามความรู้สึกของอีกฝ่ายก่อนเลย แล้วคุณล่ะ คุณนี่มันเลวทรามต่ำช้ากว่าสัตว์เดรัจฉานซ้ะอีก !”วัจสาไม่เคยพูดคำหยาบคายกว่านี้ และเธอก็ไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนก่อนความสัมพันธ์ของเขากับธัชชัยตอนนี้ เหมือนตกอยู่ในวังวนที่กล้ำกลืนฝืนทนเต็มที ไม่รู้ว่าจะออกไปได้อย่างไร หรือไม่ก็เพราะเธอไม่อยากออกไป“อย่าพูดจาหยาบคายแบบนั้นสิ เราเคยจดทะเบียนเป็นผัวเมียกันนะ” ธัชชัยพูดด้วยเสียอ่อนโยนผัวเมียงั้นเหรอ…เมื่อได้ยินคำคำนี้ ใจของวัจสาก็สั่นระรวน เธอโหยหาคำคำนี้มานานแสนนาน คำที่แสนงดงาม เต็มไปด้วยความอาลัยในรักของเธอแต่สิ่งที่เธอโหยหาไปมากกว่านั้นก็คือครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของเธอกับตะวันแต่มันคงไม่มีความเป็นไม่ไปเลยแม้แต่น้อย