วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 529 ลองกลับไปดูที่บ้านตระกูลศรีทองสิ 2
ตอนที่ 529 ลองกลับไปดูที่บ้านตระกูลศรีทองสิ 2
แต่ด้วยเพราะเธอไม่กล้าหาญพอที่จะไปเคาะประตูบ้าน เธอจึงเลือกที่จะไปสืบหาเอาจากรปภ.ดูว่าจะได้ข่าวคราวอะไรบ้าง
เมื่อไปถึงป้อมรักษาความปลอดภัย เธอก็ผูกผมยาวๆ ของเธอให้เป็นเปีย ทำให้ตัวเองดูเหมือนเป็นแม่บ้าน ด้านในนั้นเธอก็พบกันพี่ยามสองคน ที่ดูเหมือนว่าจะผลัดเปลี่ยนคนไปแล้ว
“สวัสดีค่ะพี่ๆ ฉันมาจากศูนย์แม่บ้าน พรุ่งนี้อยากจะเข้าไปสมัครเป็นแม่บ้านบ้านตระกูลศรีทอง เลยอยากจะมาถามเกี่ยวกับนายจ้างบ้านนี้สักหน่อยหน่ะค่ะ”
หนึ่งในการรักษาความปลอดภัยมองเธออย่างอ่อนโยนและเงียบ ไม่ต้องสั่นศีรษะ
“แม่สาวน้อย ถ้าอยากจะมาสมัครเป็นแม่บ้านของบ้านตระกูลนี้หล่ะก็พี่แนะนำเลยว่าอย่า ในบ้านนี้มีเสือตัวเมียที่ดุร้ายประจำบ้านอยู่ นั่นจะต้องทำให้เธอประสบปัญหาแน่ๆ ”
จากคำพูดของพี่ยาม เสือตัวเมียที่เขากล่าวถึงน่าจะเป็นกนิษฐา
หัวใจของวัจสาเต้นแรงด้วยความเจ็บปวด สิ่งที่เธอคาดเดานั้นไม่มีผิดเพี้ยนเลย กนิษฐาจำต้องอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลศรีทองอยู่แล้ว
ความรู้สึกของหญิงสาวไหววูบ เธอคิดเพียงแต่ว่า กนิษฐานั้นรักธัชชัยมากเสียขนาดนั้น นี่อยู่ด้วยกันมากว่า5ปี ซึ่งมันก็เป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน…ไม่นะ หรือว่าถ่านไฟเก่ามันจะปะทุขึ้นมา ความรักที่พวกเขาเคยมีกันแต่เก่าก่อนนั้นมันฟื้นตัวขึ้นมาอย่างนั้นหรือ
“เอ่อแล้ว…เสือตัวเมียที่ว่านั่นเธอใช่คุณนายรองของบ้านหรือเปล่า? ” ขณะที่เธอถามคำถามนั้นออกไปนั้นหัวใจของเธอก็เต้นแรงแทบจะทะลักออกมา
พี่ยามทำเพียงแค่ส่ายศีรษะและถอนหายใจหัวใจของเธอก็ตกลงทันที ตราบใดที่เธอยังไม่ใช่คุณนายรองบ้านตระกูลศรีทองนั่นก็ถือว่าดีแล้ว เขาไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นการปล้นผู้หญิงที่พี่ชายตัวเองสุดแสนจะรักนั้นมา“งั้นก็เป็นคุณนายใหญ่เหรอ? ”พอวัจสาลองคิดทบทวนดุว่าวรพลนั้นรักกนิษฐามากขนาดนั้น ตามนิสัยของธัชชัยแล้วหล่ะก็การที่จะฝืนบังคับให้กนิษฐาแต่งงานกับวรพลนั้นมันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้พี่ยามคนนั้นก็ยังคงส่ายหน้าตามเดิมทั้งยังถอนหายใจออกไปอีกเฮือกใหญ่ พอทำแบบนั้นแล้วก็สอดสายตาไปมาก่อนจะพูดขึ้น “ เรื่องในบ้านตระกูลศรีทองจะมาพูดตรงนี้ไม่ได้..หากถ้าเสือตัวเมียนั่นกลับมา..ไม่ได้ๆ พูดไม่ได้เลยหล่ะ….”“เถอะน่าพี่ชาย ฉันขอร้องหล่ะเล่าหน่อย หากว่าที่บ้านตระกูลศรีทองมันไม่น่าทำฉันจะได้ไปหาเอาบ้านอื่น”วัจสาถามไถ่ด้วยน้ำเสียงใสซื่อจริงใจ ด้วยเพราะเธออยากจะรู้จริงๆ ว่ามันเป็นเรื่องอะไรกันแน่ที่ทำให้ลูกชายแก้วตาดวงใจของเธอต้องร้องไห้การที่สิบสองพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทีจริงจังแบบนั้น นั่นก็ควรจะหมายความว่าตะวันได้พบกันกับธัชชัยเข้าให้แล้ว แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากัน?หรือว่าธัชชัยไม่ยอมรับเขา?พอคิดถึงตรงนี้ หัวใจของวัจสาก็เจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง“นี่น้องสาว พี่จะบอกอะไรให้นะ ไปหาบ้านอื่นทำหน่ะดีที่สุดอย่าทำงานที่นี่เลย ที่นี่มีแม่เสือดุคนนั้นคอยดูแลอยู่ แล้วน้องออกจะสวยขนาดนี้ จะต้องโดนรังแกแน่ๆ ”พอพูดถึงประเด็นของกนิษฐา พี่ยามคนนั้นก็ส่ายหน้าไปมาอย่างหมดหวังวัจสารู้ดีว่ากนิษฐานั้นเป็นคนที่ยิ่งในศักดิในศรีของตัวเองขนาดไหน แต่ถึงตอนนี้ ขนาดพี่ยามยังดูหวั่นกลัวเธอ ที่บ้านตระกูลศรีทองไม่มีใครจัดการเธอเลยหรือไง?จากคำบอกเล่าของพี่ยามนั้น ดูเหมือนว่ากนิษฐาจะไม่ใช่ทั้งคุณนายใหญ่หรือคุณนายรองบ้านตระกูลศรีทอง นี่มันก็ผ่านมาห้าปีเข้าไปแล้วนะ พี่น้องสองคนไม่มีใครสักคนแต่งงานกับเธอเลยหรือยังไง?แต่แล้วทำไมเธอถึงยังอยู่ในบ้านตระกูลศรีทองอยู่อีก? เธออยู่ในฐานะอะไรกันแน่?พอพูดถึงกนิษฐา พี่ยามก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยกล้าพูดเท่าไหร่นัก ดังนั้นวัจสาจึงเปลี่ยนวิธีถาม“พี่ชายคะ ฉันขอถามอีกสักคำถามหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ ในบ้านได้รึเปล่า? ที่บ้านตระกูลศรีทองไม่ใช่ว่ามีคุณชายใหญ่คนหนึ่งกับคุณชายรองคนหนึ่งหรอ? พวกเขาเป็นยังไงบ้าง? เป็นมิตรดีมั้ย? ”“ฉันเคยได้ยินว่าคุณชายใหญ่เคยถูกไฟลวกมาก่อน ตอนนี้ดีขึ้นรึยังคะ? ”“คุณชายใหญ่เป็นคนดีมาก สี่ปีที่แล้วเขาไปผ่าตัดที่ต่างประเทศตอนนี้ก็เกือบจะปกติแล้วด้วย เมื่อวานนี้ยังเห็นพาลูกสาวมาเดินเล่นที่สวนลานบ้านอยู่เลย”“ลูกสาวเหรอ? วรพลมีลูกสาวหรอ? ”ตอนที่ได้ยินว่าวรพลนั้นหายเกือบจะเป็นปกติอยู่แล้ว นั่นทำให้วัจสารู้สึกโล่งใจไปหนึ่งอึดใจก่อนจะมาตกใจตอนที่พี่ยามพูดว่าวรพลมีลูกสาวพี่ยามชะงักเงียบไปในทันทีก่อนที่จะทำเสียง “ชู่วววววว”ขึ้นเขามองไปรอบๆ ทั้งสีทิศ เมื่อมั่นใจแล้วว่าแวดล้อมไม่มีใคร เขาก็กระซิบพูดขึ้นมา “ได้ยินเขาว่ากันว่า น้องมิ้นคนนี้จริงๆ แล้วเป็นลูกของคุณชายรอง น่าจะเป็นเพราะคุณชายใหญ่ถูกไฟเผาจนไม่สามารถมีลูกด้วยตัวเองได้ ทำให้ธัชชัยต้องมีลูกแล้วยกให้เขาหน่ะ”“มิ้นเหรอ? เป็นลูกสาวของธัชชัยอย่างนั้นหรอ? ธัชชัย…..เขามีลูกสาวอย่างนั้นหรอ? ”หัวใจของวัจสาค่อยๆ จมลงอย่างช้าๆ นี่มันผ่านไปแค่ห้าปีเท่านั้นเอง ธัชชัยมีลูกสาวคนใหม่แล้วอย่างนั้นหรอ?“ตายหล่ะ ปากพล่อยจริงฉัน นี่น้องสาวฉันเห็นว่าเธอดูเป็นคนดีๆ เกรงว่าจะโดนคนที่บ้านตระกูลศรีทองรังแก ยังไงต่อตามอย่าบอกใครว่าฉันเล่าให้เธอฟังหล่ะ”พี่ยามทั้งสองเพิ่งจะสำเหนียกได้ว่าการที่เขาพูดถึงเจ้านายในทางเสื่อมนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก จึงถอนหายใจออกมา “อ้อ แต่ฉันก็ทำจบเพียงแค่เดือนนี้ก็ไม่ทำต่อแล้วหล่ะ”“โคตรซวยเลยอ่ะ เด็กน้อยคนนั้นก็วิ่งออกมาด้วยขาของเธอเอง แต่มาหมายหัวฉันได้ยังไง? เสือตัวเมียนั่นต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ตัวเองไม่ดูลูกดีๆ แต่กลับมาโทษฉันนี่ ซ้ำร้ายยังมาบังคับให้ลาออกอีก”พี่ยามก็ยังคงบ่นต่อไป ดูเหมือนว่ากนิษฐานี้จะสร้างความปวดหัวให้แก่เขามากทีเดียว