วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 26 กัดนายให้ตาย
ตอนที่ 26 กัดนายให้ตาย
ผ้าขนหนูอุ่นวางบนร่างกาย รวมกับการเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนของผู้หญิง ธัชชัยถอนหายใจอย่างสบาย หรี่ตาเล็กน้อย เตรียมที่จะเพลิดเพลินไปกับการบริการที่ละเอียดอ่อนของผู้หญิง
ธัชชัยนึกได้ว่า เขาไม่ได้มีผู้หญิงมานาน การดูแลแบบละเอียดและอ่อนโยนแบบนี้ อย่างกับว่าความอบอุ่นและความสงบได้ไปถึงจิตใจโดยตรง
ในเมื่อธัชชัยกำลังถอนหายใจอย่างสบาย วัจสาจู่ๆก็หรี่ตา แล้วรอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏที่มุมปาก ลูกแมวเชื่องได้กลายเป็นแมวป่าน้อย กัดที่จุดหน้าอกของธัชชัย
วัจสานี่เป็นการแก้แค้นของจูบนั้น เพื่อให้ธัชชัยรู้ว่า ฉันวัจสาไม่ใช่แมวที่ไม่มีเขี้ยว!ยิ่งไม่ใช่ขู่เล่น!
เมื่อกัดเสร็จแล้วเธอยังหวาดกลัวอยู่ รีบก้าวเท้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ถ้าถูกเขาจับได้ต้องตายแน่ๆ!
แต่เธอลืมไป ว่าการแก้แค้นของผู้ชายคนนี้เขาจะแก้แค้นกลับคืนทีหลัง ดังนั้นวิ่งหนีตอนนี้ก็เปล่าประโยค ชั่งไม่คิดผลลัพธ์ที่ตอบกลับมาเลย!
ในห้องพักขนาดใหญ่ตอนนี้เหลืออยู่แค่ธัชชัยที่ทำหน้าตื่นตะลึง เขาโดนกัดครั้งนี้ถึงกับอึ่งไปเลยจริงๆ!
ไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะกัดเขาจริงๆ แถมยังกัดจุดที่ไวต่อความรู้สึก
เขาก้มหัวลง ขนตาหนาปกปิดดวงตาอย่างไม่น่าเชื่อ ด้านขวาของหน้าอกมีรอยฟันซึ่งอยู่ข้างๆหัวนม ผู้หญิงงี่เง่าคนนี้กลายเป็นคนดุร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่?
เขายังจมความตื่นตะลึงของตัวเองอยู่ เป็นเรื่องเหลือเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนทำ เป็นแมวป่าน้อยจริงๆ แม้ว่าความรู้สึกนี้จะไม่เลว ถึงเจ็บปวดเล็กน้อยในเวลาเดียวกันก็รู้สึกชา เขายังกำลังคิดย้อนอยู่
วัจสาวิ่งลงไปชั้นหนึ่งเลยทีเดียว ไม่กล้ากลับหัว กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะตามมาไล่มาตีเธอ ตื่นตกใจเมื่อเทียบกับ“วรพล”ครั้งที่แล้วครั้งนี้น่ากลัวกว่า……
เธอเห็นห้องรับแขกไม่มีคน เดาว่าในเวลานี้ป้าอ้อยคงไปพักผ่อน แล้ววิ่งตรงไปที่ห้องป้า แล้วปิดประตูทันที
ป้าอ้อยนอนอยู่บนเตียงด้วยความตกใจ วัจสาก็ไม่สนใจอะไรมาก รีบปิดล็อคประตูทั้งหมด
ป้าอ้อยรู้สึกเป็นห่วงรีบลุกขึ้นมาถามว่า “คุณวัจสา เป็นอะไรค่ะ? มีใครแกล้งรึเปล่า?”ป้าเห็นปฏิกิริยาอย่างนี้ของวัจสา กลัววัจสาจะวิ่งออกไปอย่างเงียบๆเหมือนครั้งที่แล้ว
วัจสาหายใจหอบ “หนูไม่เป็นไรค่ะ! เพียงแค่ชนะรอบหนึ่ง รู้สึกดีใจมาก!”
“ชนะรอบหนึ่ง? เรื่องมันยังไงกัน? คุณธัชชัยรังแกใช่ไหม?”คนที่สามารถทำให้วัจสาโกรธจนย่ำเท้าในตระกูลศรีทอง ก็มีแค่ธัชชัยคนเดียว
“ใครให้เขาโกรธหนู ก็เลยสู้กัน”“สู้กัน? เธอกับธัชชัยสู้กัน? มีตรงไหนบาดเจ็บหรือเปล่า?”ป้าอ้อยเป็นห่วงว่าธัชชัยลงมือโดยไม่รู้จักเบาหนัก ถ้าตีเจ็บวัจสาก็ไม่ดี ป้ามองรอบๆวัจสา ไม่พบการบาดเจ็บใด ๆ ที่ร่างกายเห็นป้าอ้อยเป็นห่วงตัวเองขนาดนี้ วัจสายิ้ม แต่ก็เม้มปากอีกครั้งอย่างรวดเร็ว สีหน้าดูแข็งไปหน่อย เธอลืมเรื่องนี้ได้อย่างไร……“หนูไม่ได้บาดเจ็บ……”แต่ก็ยังให้ป้าอ้อยดูออก ริมฝีปากแดงบวม……แสดงว่าโดนคนจูบมาก่อน ต่อสู้กับธัชชัยก็หมายถึงจูบธัชชัย ป้าอ้อยเข้าใจแล้วยิ้ม “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ตอนนี้ก็ดึกแล้วนะคุณวัจสา คุณกลับห้องไปพักผ่อนเถอะ”วัจสาเห็นป้าอ้อยยิ้มแล้วรู้สึกแปลกๆ รู้สึกว่าป้าอ้อยเหมือนค้นพบอะไรสักอย่าง แต่เมื่อรู้ว่าเธอถูกรังแกและยังไม่ได้ดูแลเธอกลับเรียกเธอกลับไปนอน ต้องไปพบธัชชัยอีก เธอไม่เอา“คืนนี้หนูไม่กลับไปนอนค่ะ หนูจะนอนที่ห้องรับแขก”เหมือนครั้งที่แล้ว ถ้าเทียบกับห้องแต่งงาน ห้องนั้นจะปลอดภัยกว่าเยอะ“สู้กับคุณธัชชัยร้ายแรงขนาดนี้เชียวเหรอ?” ป้าอ้อยฟังน้ำเสียงของวัจสาแล้ว ท่าทางไม่อยากคืนดีกัน “หรือว่าคุณธัชชัยรับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส?”เห็นป้าอ้อยแสดงความห่วงใยและตึงเครียดออกบนใบหน้า วัจสาในใจรู้สึกไม่ค่อยสบายอย่างไร้เหตุผล ป้าอ้อยยังเข้าข้างธัชชัย เธอพูดอย่างประมาท”หนูกัดเขาไปคำหนึ่งค่ะ”สีหน้าป้าอ้อยเปลื่ยนไปด้วยความเจ็บใจ “อะไรนะ?กัดคุณธัชชัย?กัดเขาที่ไหน? หนักไหม?”“นั่นเป็นเพราะเขาเหลาะแหละหนูก่อน หนูก็ต้องปกป้องตัวเอง!”ป้าอ้อยรู้สึกว่าสามีภรรยาทั้งสองตีเล่นกันเป็นเรื่องปกติ แต่วัจสากัดธัชชัยแบบนั้นก็คือเธอไม่ถูก ผู้หญิงตีสามีได้ยังไงกัน? อีกส่วนหนึ่งป้าก็เป็นห่วงธัชชัย“คุณวัจสากัดคุณธัชชัยที่ไหน? แล้วคุณกัดเขายังไง?”วัจสาตื่นตะลึงจนตาโต เธอนึกไม่ถึงว่าป้าอ้อยจะเข้าข้างธัชชัยถึงขนาดนี้ “ทำไมหนูถึงกัดเขาไม่ได้? เขาเป็นคนรังแกหนูก่อน!หนูกัดเขาคำเดียวถือว่าเบาแล้วค่ะ!”“ไฮยา สามีภรรยาทั้งสองตีเล่นกันแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็อย่าทำรุนแรง ถึงกับขั้นเอาจริง? กัดจนเลือดออกไหม?”ป้าอ้อยกังวลธัชชัยเกินไปจนเลือกคำพูดไม่ถูกเมื่อวัจสาได้ยินป้าพูดว่าสามีภรรยาทั้งสอง ความน้อยใจและความโกรธในใจยิ่งมากขึ้น เธอรู้ว่าไม่ควรอดทนแล้วปล่อยมันไป เมื่อเธอพูดออกมา ป้าอ้อยกลับมีปฏิกิริยาอย่างนี้ ราวกับว่าควรต้องเป็นแบบนี้ ตอนนี้ยังพูดอย่างนี้อีกยิ่งคิดยิ่งโมโห วัจสาแค้นจนอยากจะไปกัดเขาเพิ่มอีกคำ“ใครเป็นสามีภรรยากับเขาละคะ?!ป้าอ้อยป้าเข้าข้างอย่างงี้มันจะดีหรือคะ?ถ้ายังมีเรื่องแบบนี้อีกหนูจะไปฟ้องพี่วรพล!ถ้าพวกป้ายังไม่จัดการ หนูจะเรียกตำรวจทันที ให้ตำรวจมาจับเขา!”วัจสาพูดอย่างโกรธมาก แล้วเปิดล็อคประตู วิ่งออกจากห้องป้าอ้อยขอบตาวัจสาเต็มไปด้วยน้ำตา เพราะป้าอ้อยและคุณภูษิตตอนนั้นดีต่อเธอมาก่อน ถ้าเป็นเรื่องของธัชชัย พวกเขาจะเข้าข้างเขาถึงที่สุด ทั้งที่ธัชชัยเป็นคนผิดก่อน ยังจะปกป้องเขาจนถึงขนาดนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่วัจสารู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนนอกของบ้านหลังนี้แต่ว่าเธอก็เป็นคนนอกอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ?ป้าอ้อย คุณภูษิตและธัชชัยพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานานสิบยี่สิบกว่าปีแล้ว ในคืนนั้น วัจสานอนอยู่บนเตียงห้องรับแขกอย่างนอนไม่หลับวันที่สองตอนเช้า เธอตื่นแต่เช้า ที่ขอบตาคล้ำทั้งคู่ แล้วต้มข้าวต้มแบบเหลวให้วรพล หลังจากเห็นอาการของเขาในวันนั้น คิดอยู่ว่าถ้าหลังจากนั้นสามารถทำอะไรได้ก็คงดีเมื่อเธอเอาข้าวต้มขึ้นไปข้างบนนั้น ยังถูกคุณหมอภาคินห้ามไว้ วัจสายืนอยู่ข้างนอกมองประตูห้องรักษาที่หนักหน่วงบานนั้นทุกคนเข้าไปกันได้หมด ทำไมแค่เธอคนเดียวที่เข้าไปไม่ได้?ทำให้เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าคือเธอเองที่เข้าไปไม่ได้ แม้ว่าเธอจะแต่งงานเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลศรีทองแล้วสุดท้ายวัจสาเดินจากไปอย่างไร้จิตวิญญาณ เธอไม่มีสิทธิ์ไปตำหนิใคร ตัวเองเป็นแค่ตัวที่น่าอับอายเหรอ?เธอนั้งอยู่ที่ห้องครัว จ้องมองชามข้าวต้มที่ต้มมากกว่าหนึ่งชั่วโมง ทันใดนั้นก็ถือมา แล้วกินมันเข้าไป น้ำตาไหลไม่หยุด ทำให้รสชาติเค็ม กินไปครึ่งหนึ่งในที่สุดก็กินไม่ลง แล้ววางไว้ที่เดิมเธอรู้ว่าทุกคนหวังดีเพื่อวรพล แต่เธอไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้คนที่ได้แสงอาทิตย์แล้ว อยากจะได้เยอะกว่านี้บางทีคนในตระกูลศรีทองรู้สึกว่าเธอมีเป้าหมายที่แต่งงานเข้าตระกูลศรีทอง แม้แต่ภรรยาของมนายุที่ไม่เคยพบกันก็บอกว่าเธอเพื่อจะได้มรดกของบริษัทบีเค-เทโร แต่เธอไม่แคร์กับเรื่องพวกนี้ ตอนแรกเธอไม่เคยคิดว่าอยากแต่งงานกับตระกูลมีเงินผู้คนบอกว่าการเข้าตระกูลลึกเหมือนทะเล ในมุมมองของวัจส่า ดูเหมือนว่าน่ากลัวกว่าตกนรกทำให้คนใจหายทัศนคติที่ธัชชัยทำกับเธอมาจนถึงตอนนี้ก็คงเพราะรู้สึกตัวเองแอบวางแผนชั่ว คำพูดนี้พูดในตอนที่เขาเหลาะแหละตัวเองมาหลายครั้งแล้ววัจสายิ้มอย่างเจื่อนๆ เธอแค่อยากจะพยายามทำให้ดีที่สุดในฐานะภรรยา แล้วไม่ให้ทุกคนคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเลว เธอทำอะไรผิด?หรือว่าถูกบังคับให้แต่งงานกับตระกูลศรีทองมันก็เป็นความผิดอยู่แล้วทันใดนั้นก็เห็นเงาของความสูงอันแข็งแกร่งอยู่บนพื้นดิน ความรู้สึกที่กดขี่ที่อธิบายไม่ได้มาถึง วัจสาเงยหัวขึ้น มองเห็นธัชชัยยืนอยู่ข้างหน้าเหมือนกับเทพเจ้าที่ยืนอยู่เหนือมวลชนดวงตาพีชของเขาห้อยลงมาเล็กน้อย จากด้านบนมองวัจสา“ร้องไห้? รู้สึกน้อยใจจากการถูกปฏิเสธ?”เรื่องนี้เขาได้ยินมาจากคุณหมอภาคิน รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเศร้า เลยลงมาดูเธอ นึกไม่ถึงว่าจะร้องไห้จริงๆวัจสาก้มหัวลงด้วยความเก้อเขิน เธอไม่ยอมให้ธัชชัยมองเห็นตัวเองในสภาพที่ยากลำบากที่สุด ปากเขาร้ายสุดๆ ถูกเขาเห็นจะพูดได้แต่คำพูดที่ทำร้ายจิตใจคนผู้ชายเห็นเธอไม่ตอบ เดินไปก้าวหนึ่ง แขนยาวหยิบชามข้าวต้มที่วางอยู่ข้างเธอ แล้วกินไปจนหมดวัจสามองเขาอย่างตกใจ เธอยังไม่ทันได้พูดว่านั้นเป็นของที่เธอกินเหลืออยู่……“รสชาติไม่เลว แต่มันจือเกินไป” ธัชชัยพูดอย่างเย็นชาวัจสาคิด มันก็ต้องจืดสิ เดิมแล้วเตรียมไว้เพื่อวรพล เขาไม่สามารถกินของเค็มได้แต่เมื่อมองดูธัชชัยอย่างนี้ ในใจวัจสาก็รู้สึกก็ปะปนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเก้อเขินหรือซาบซึ้ง ยิ่งคาดเดาจุดประสงค์ที่ธัชชัยทำอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าจะทำให้เธอขายหน้า เขาก็ไม่ได้รับผลประโยชน์เลยสักอย่าง“เธอเป็นใบ้แล้วเหรอ?ถามเธอเยอะซะขนาดนี้ยังไม่ตอบกลับ ฉันจำได้ว่าปากเธอเมื่อคืนยังพูดเก่งนิ ”ธัชชัยพูดประโยคหนึ่งสองความหมาย ความหมายหนึ่งที่พูดคือรสชาติจูบของวัจสาไม่เลว ความหมายสองที่พูดคือเรื่องเธอกัดเขาเมื่อวัจสานึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนได้ ใบหน้าที่ขาวก็แดงขึ้นมาทันที แต่มันเกี่ยวอะไรกลับเธอ?เขาเป็นคนเริ่มก่อน เธอก็ต้องปกป้องตัวเอง!ตั้งแต่ต้นถึงท้ายเธอไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลย ยิ่งพูดกับผู้ชายคนนี้ยิ่งไม่มีวันหยุด วัจสาตอนนี้รู้อารมณ์ของเขาแล้วธัชชัยหัวเราะเบาๆ ทำไมวัจสาถึงคิดว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่ดี?“ป้าอ้อยครับ วันนี้ตอนเย็นเตรียมทำซุปกระดูกหมูนะครับ”ธัชชัยเรียกป้าอ้อยที่อยู่ห้องรับแขกป้าอ้อยตกใจอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ธัชชัยบอกว่าอยากดื่มซุปอะไร ป้าตอบอย่างรวดเร็ว”โอเคโอเค ป้าจะชื้อมาให้เยอะๆเลย”“ซื้อเยอะนั้นละดีที่สุด” ธัชชัยยังตอบกลับมาประโยคหนึ่งวัจสาไม่รู้ว่าธัชชัยเป็นอย่างนี้คือปกติหรือผิดปกติ ความคิดยังไม่ลงตัว ธัชชัยก็พูดต่อ “รูปร่างเสริมรูปร่าง เพื่อบำรุงฟันของภรรยา ทีหลังจะได้มีแรงกัดของ”วัจสาเกือบสำลักตายกับประโยคของเขา ผู้ชายคนนี้พอกันที! ยังไงก็ไม่ปกติจริงๆ