ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 426 เขตวิลล่าในTianshan Living Area
บทที่ 426 เขตวิลล่าในTianshan Living Area
ผู้เฒ่าคนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะหลับไปจริงๆ แล้วก็ทะลวงไปเป็นหั่วจิ้ง เฉินเฟิงจึงครุ่นคิดถึงแล้วรู้สึกสุดคำบรรยาย
“ต่อไปวางแผนอะไรไว้บ้าง? ” เฉินเฟิงถาม เจ้าสามหวงที่ทะลวงไปเป็นหั้วจิ้งแล้ว สามารถกลับมาเลเซียด้วยตัวคนเดียว จัดการข่ากุ้งและลู่ตุงโสง และก่อตั้งแก๊งชาวจีนโพ้นทะเล
“ต่อไป……”
เจ้าสามหวงหยุดชะงักไป แล้วมองเฉินเฟิงเพียงพริบตาเดียว พลางถอนหายใจและพูดขึ้น “ทีแรกกูก็กะไว้ว่าจะกลับมาเลเซียไปเป็นเจ้าพ่อ แต่ช่วงหน้าไอ้เด็กน้อยเหมือนจะเจอกับปัญหาหน่อย ทำให้กูไม่อยากไปไหนอีกแล้ว”
“งั้นก็อย่าไปไหน” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ แล้วไม่ได้เกรงใจเจ้าสามหวงแม้สักนิด
เขาคือคนที่มีความสามารถและยอมให้เขาใช้งาน
มาจงไห่ในเวลาสั้นๆ ครึ่งเดือน เขาเจอกับศัตรูมากเกินไป จินเจี่ยจง ตระกูลหวัง ตระกูลส้ง และยังมีบุคคลลึกลับ……คนพวกนี้แค่ดึงตัวออกมาหนึ่งคน ต่างก็มีอำนาจที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญที่มีผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมได้
แค่เขาคนเดียว แน่นอนว่ายากที่จะต้านทาน
เจ้าสามหวงทะลวงเป็นหั้วจิ้ง สามารถช่วยเขาได้พอดี
“ดี งั้นกูไม่ไปแล้ว” เจ้าสามหวงตอบกลับด้วยความเต็มใจ ระหว่างเขากับเฉินเฟิงมีความสัมพันธ์ที่เคยผ่านความตายมาด้วยกัน ต่อให้เฉินเฟิงไม่พูด ครั้งนี้เขาก็จะไม่จากจงไห่ไป
“ใช่แล้ว อาหลี่ ช่วงนี้นายกับเจียวมีเวลาไหม? ถ้ามีเวลาช่วยฉันไปแอบปกป้องคนๆ หนึ่งหน่อย” เฉินเฟิงกวาดสายตามองไปยังเฉินจื๋อหลี่
“มี! ”
“ปกป้องใคร? อาจารย์ท่านพูดมาตรงๆ เถอะ” เฉินจื๋อหลี่พูดตรงไปตรงมา
“หลินหวั่นชีว”
“หลินหวั่นชีว? ” เฉินจื๋อหลี่ตกตะลึง เจ้าสามหวงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินเฟิงถึงต้องปกป้องหลินหวั่นชีว หลินหวั่นชีวจะเจอกับอันตรายอะไรกัน?
“ไอ้เด็กน้อย มีใครจับตามองยัยหนูนั้นอยู่หรอ? ” เจ้าสามหวงอดไม่ได้ที่จะถาม หลินหวั่นชีวเขาเคยเจอหนึ่งครั้ง เป็นยัยหนูธรรมดาคนหนึ่ง นอกจากหน้าตาสวยหน่อย ก็ไม่มีจุดเด่นอะไร ทว่าถ้ามีคนจับตามอง ก็คงไม่ต้องให้จอมยุทธ์สองคนไปปกป้องหรอก เฉินเฟิงทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไปไหม?
เฉินเฟิงส่ายหน้า “แต่ก่อนผมก็ยังไม่แน่ใจว่ามีคนจับตามองเธอ แต่ว่า…..บนตัวเธอมีความลับอย่างหนึ่งที่ใหญ่มาก ผมต้องระมัดระวัง”
“ความลับที่ใหญ่มาก? ”
“อืม หลินหวั่นชีวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับมหาปรมาจารย์บางคน……” เฉินเฟิงจึงเล่าเรื่องที่เกิดที่สะพานปินเจียงก่อนหน้านี้หนึ่งรอบ บนตัวของหลินหวั่นชีวมีพลังมหาปรมาจารย์ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับ ทว่าสำหรับเจ้าสามหวงและหลี่จื๋อหลี่ที่เป็นคนของตัวเอง กลับไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว
“พลังมหาปรมาจารย์! ”
ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิงจนจบ เฉินจื๋อหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นๆ หนึ่งครั้ง สีหน้าของเจ้าสามหวงก็ดูเคร่งขรึมมาก เขานึกไม่ถึงว่า หลินหวั่นชีวที่ดูธรรมดาคนนี้ บนตัวของเธอกลับมีความลับที่ใหญ่ขนาดนี้
ตอนนี้ดูๆ แล้ว เฉินเฟิงให้เฉินจื๋อหลี่และเฉินจื๋อเจียวคอยปกป้องหลินหวั่นชีวถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมาก เขาไม่ได้ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลย
สามารถทำให้มหาปรมาจารย์ปฏิบัติตัวกับหลินหวั่นชีวด้วยความระมัดระวัง แน่นอนว่าต้องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
มหาปรมาจารย์คนนั้นที่อยู่เบื้องหลังของหลินหวั่นชีว แน่นอนว่าสามารถทำให้หลินหวั่นชีวกลายเป็นจอมยุทธ์คนหนึ่งได้ ทว่าเขากลับไม่ได้เลือกที่จะทำแบบนั้น ทว่ากลับเลือกใช้วิธีการปลูกฝังพลังมหาปรมาจารย์มาปกป้องหลินหวั่นชีวอย่างเงียบๆ
มหาปรมาจารย์ผู้นั้นทำแบบนี้ เหตุผลก็คงมีแค่อันเดียว นั่นก็คือเขาอยากจะปกป้องหลินหวั่นชีว ทว่าขณะเดียวกัน เขาก็ไม่อยากจะให้หลินหวั่นชีวถูกคนในวงการศิลปะการต่อสู้จับตามอง
“อาจารย์อาเฉิน ท่านวางใจเถอะ ผมกับเจียวจะต้องปกป้องหวั่นชีวเป็นอย่างดี ถ้าหากมีคนคิดจะอะไรไม่ดีกับหวั่นชีว ก็คงต้องข้ามศพของผมกับอาเจียวไปก่อน” เฉินจื๋อหลี่ตบหน้าอกรับประกัน เฉินเฟิงสามารถบอกความลับนี้ให้กับเขา ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไว้วางใจเขามาก ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องทำเรื่องที่สมกับความไว้วางใจของเฉินเฟิงหน่อย
“คงไม่จำเป็นต้องขนาดนั้น” เฉินเฟิงส่ายหน้า “หากเรื่องถึงขั้นนั้น นายกับเจียวต้องทำเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือมีชีวิตอยู่ต่อ จากนั้นก็ส่งข่าวมาให้ฉันเป็นคนแรก”
“ฮ่า? ”
“หากมีคนคิดร้ายกับหวั่นชีวจริง งั้นความสามารถของคนๆ นั้น เกรงว่าไม่ใช่นายกับเจียวสามารถต้านทานได้ ดังนั้นพวกนายไม่ต้องพยายามสุดชีวิต พวกนายแค่มีหน้าตาส่งข่าวมาให้ฉัน” เฉินเฟิงพูดขึ้น หากมีคนจะลงมือกับหลินหวั่นชีวจริงๆ คนที่ลงไม้ลงมือ อย่างน้อยก็ต้องมีความสามารถถึงขั้นอ้านจิ้งชั้นสุด ต้องไม่ใช่คนที่เฉินจื๋อหลี่และเฉินจื๋อเจียวสามารถรับมืออยู่แล้ว
จริงๆ แล้วเมื่อเทียบกับการที่ให้เฉินจื๋อหลี่และเฉินจื๋อเจียวไปปกป้องหลินหวั่นชีวอย่างลับๆ เขาเอาไซเรนไปติดตั้งอยู่ข้างกายหลินหวั่นชีวจะดีกว่า แบบนี้พอหลินหวั่นชีวเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เขาจะได้เป็นคนแรกที่รู้
และไม่ใช่วันไหนที่หลินหวั่นชีวหายตัวไป เขาไม่รู้เรื่องอะไรสักพัก ทำได้เพียงตาทั้งสองข้างต้องเผชิญแต่ความมืดมัว
“อาจารย์อาเฉินพูดถูก ถ้ามีคนจะลงมือกับยัยหนูนั่นจริงๆ ตามความสามารถของสองพี่น้องที่กระจอกๆ แบบนี้ ต้องรับมือไม่ไหว ดังนั้นอย่าทำตามอำเภอใจ ต้องพิจารณาสถานการณ์อย่างรอบคอบ เข้าใจไหม? ” เจ้าสามหวงกำชับด้วยเสียงเรียบ
“รู้แล้วครับอาจารย์” หลี่จื๋อหลี่ขดคอ เจ้าสามหวงและเฉินเฟิงพูดแบบนี้แล้ว แน่นอนว่าเขาต้องระมัดระวังอยู่แล้ว
“อืม พรุ่งนี้หวั่นชีวคงจะออกจากโรงพยาบาล หลังจากออกจากโรงพยายาม พวกนายสองคนก็ตามเธอไปมหาวิทยาลัยจงไห่ แล้วแอบปกป้องเธออย่างลับๆ ”
“อีกอย่าง…… เรื่องนี้อย่าให้เธอรู้ในตอนนี้ จะได้ไม่ต้องทำให้เธอต้องแบกภาระ” เฉินเฟิงหยุดชะงักแล้วพูดขึ้น หลินหวั่นชีวเอง ก็มีความเป็นได้มากที่จะไม่รู้ว่าตนเองไปเกี่ยวข้องกับมหาปรมาจารย์บางคน แน่นอน เธอก็ไม่จำเป็นต้องรู้ รู้ไป ก็แค่ทำให้เกิดแรงกดดันมากขึ้น
Tianshan Living Area เป็นเขตวิลล่าระดับสูงสุดในจงไห่
ส่วนมากวิลล่าที่นี่ก็เป็นวิลล่าเป็นหลังเดียวที่หรูหราและมีพื้นที่หนึ่งพันตารางเมตร ราคาของวิลล่า ทุกๆ ตารางเมตรเริ่มต้นด้วยราคาสองแสน
อยากจะซื้อวิลล่าหลังเดียวในTianshan Living Area อย่างน้อยก็เงินสองร้อยล้าน
สองร้อยล้าน สำหรับคนธรรมดาแล้ว แน่นอนว่าต้องเป็นเงินมหาศาล
ทว่าในจงไห่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการเงินของหวาเซี่ย คนที่สามารถเอาเงินสองร้อยล้านออกมา กลับมีมากมาย ถ้าเอาTianshan Living Area มาพูด ก็ใช้เวลาในการสร้างไม่ถึงสองเดือน วิลล่าหลังเดี่ยวสี่สิบเก้าหลังก็ถูกคนแย่งไปโดยเร็ว อีกอย่างส่วนมากก็สามารถจ่ายสดกันหมด
ถ้าใช้คำพูดของยามของTianshan Living Area แล้ว เศรษฐีร่ำรวยที่พักอาศัยอยู่ในTianshan Living Area ไม่เคยขาดแคลนเงิน ในสายตาของคนอื่น การซื้อวิลล่าหลังสองร้อยล้าน ก็เหมือนดั่งคนธรรมดาที่เสียเงินซื้อรถสองแสนเท่านั้น
คนธรรมดาขับรถสองแสน เศรษฐีร่ำรวยที่พักอาศัยอยู่ในTianshan Living Area ยังไงก็ต้องขับรถที่ระดับสูงกว่าอยู่แล้ว
ในลานจอดรถของวิลล่า มีรถดั่งเช่นเฟอร์รารีเอนโซ โรลส์-รอยซ์ ที่เป็นรถหรูคันลิมิเต็ดของทั่วโลก แทบจะเห็นได้ทั่วทุกที่
แค่เอาออกมาอย่างผิวเผินไปหนึ่งคัน ต่างก็คือรถหรูราคาหลายสิบล้าน
ทว่าคืนนี้ มีแลมโบกินี่ urusสีแดงกลับขับเข้าไปในTianshan Living Area
หากเทียบกับรถหรูราคาหลายสิบล้านในเขตวิลล่าแล้ว แลมโบกินี่ urusสีแดงที่มีราคาแค่สามล้านคันนี้กลับไม่เข้าพวกเลย แม้กระทั่งสามารถบอกได้ว่ามันธรรมดาไปหน่อย
ทว่ารถคันแบบนี้ กลับเป็นคันที่ทำให้ยามเฝ้าTianshan Living Areaต้องส่งสายตาอันเคารพนับถือ
ไม่ใช่ใคร แค่เพราะว่าพ่อของเจ้าของรถคันนี้ คือเจ้าของโครงการTianshan Living Area
วิลล่าทั้งหมดในTianshan Living Area เขาคือคนสร้างขึ้น
ถ้าเฉินเฟิงอยู่ที่นี่ ต้องสามารถรู้ว่า แลมโบกินี่ urusสีแดงคันนี้ที่ขับเคลื่อนเข้ามาในTianshan Living Area ก็คือคันที่หูเซอร์หยวนขับก่อนหน้านี้