ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 378 หลิวเส้าฝู้มาแล้ว
บทที่ 378 หลิวเส้าฝู้มาแล้ว
“คุณกับเหล่ากู้อยู่ดูแลทางบ้านน่ะแหละ ไว้ได้เวลาสมควรแล้ว ผมจะให้พวกคุณมานะ” เฉินเฟิงกำชับอีกคำ ชางโจวเป็นรังเขา ไม่ว่ายังไงชางโจวห้ามเกิดเรื่องเด็ดขาด
เช้าวันต่อมา เฉินเฟิงมาทำงานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปตามปกติ
พอเข้าบริษัท เฉินเฟิงถึงพบว่า วันนี้บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปมีแขกมาท่านหนึ่ง
แขกท่านนั้นใส่ชุดสูทสีขาว หน้าผ่องมันอมชมพู
“นี่ยามงี่เง่าอย่างพวกแกจะหาเรื่องตายใช่ไหม? พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?!” ชายหนุ่มหน้ามันอมชมพูทำท่ากร่างเต็มที่ น้ำลายที่พ่นออกมาตอนพูดแทบจะเต็มหน้าพวกยาม
แต่พวกยามไม่กล้าหืออือกับหนุ่มหน้ามันอมชมพูนี่ กลับต้องยิ้มประจบเกลี้ยกล่อมว่า: “คุณชายหลิว ไม่ใช่พวกผมไม่ยอมปล่อยคุณเข้าไป แต่ประธานเสี้ยเคยกำชับไว้ว่า สามารถให้พนักงานของเราที่มีบัตรพนักงานเข้าไปได้เท่านั้น คุณไม่มีบัตรพนักงานของเรา ดังนั้น…”
“ประสาท!” หลิวเส้าฝู้ตัดบทยามอย่างไม่ไว้หน้า
“ฉันเป็นว่าที่ประธานกรรมการของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ตอนนี้ประธานกรรมการใหญ่ของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปคือพ่อฉัน ฉันจะเข้าบริษัทตัวเอง ยังต้องใช้บัตรพนักงาน? นี่มันกฎบ้าอะไรเนี่ย!”
“รีบๆไสหัวกันไปเลย! ถ้ายังไม่ไสหัวไป! ฉันจะให้คนมาไล่พวกแกออกไปให้หมด!” หลิวเส้าฝู้โกรธด่ากราดพลางผลักหัวหน้ายามกระเด็น และเดินกร่างเข้าไป
หัวหน้ายามสบตากับลูกน้อง และเห็นแววลำบากใจในดวงตาของทุกคน
คนนี้เป็นคุณชายหลิวของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ถึงเขาจะไม่มีตำแหน่งหน้าที่อะไรในบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป แต่ถ้านับฐานะแล้ว เขายังสูงกว่าเสี้ยเมิ่งเหยาไม่รู้กี่เท่า
เสี้ยเมิ่งเหยาให้พวกเขาสกัดคนแบบนี้ไว้ด้านนอก นี่มันจงใจแกล้งพวกเขานี่นา?
สุดท้าย ทุกคนก็ทำได้แค่ปล่อยหลิวเส้าฝู้เข้าไปในบริษัท
แต่หลิวเส้าฝู้พึ่งเดินเข้าไปได้ไม่กี่ก้าว สาวสวยขายาวใส่รองเท้าส้นสูงพร้อมถุงน่องดำคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหา
“คุณชายหลิว ลมอะไรพัดคุณมาคะเนี่ย?” สาวสวยขายาวเดินนวยนาดมายืนหน้าหลิวเส้าฝู้ และขวางทางเขาอย่างเนียนๆ
“แหะๆ ฟางหย่า จะมาตีเนียนอะไรกับพี่ล่ะ พี่จะโดนลมอะไรพัดมาได้ นางจิ้งจอกอย่างเราจะไม่รู้หรอ?” หลิวเส้าฝู้ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย สายตามองจ้องไปที่หน้าอกฟางหย่าอย่างไม่เกรงกลัว สายตานั่นเหมือนกับจะกลืนกินฟางหย่าลงไปทั้งตัวก็ไม่ปาน
ดวงตางามของฟางหย่าวาบประกายรังเกียจขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่สีหน้ายังคงยิ้มอ่อนหวานพลางว่า: “คุณชายหลิว ดูพูดเข้าสิ ฟางหย่าไม่ใช่พยาธิในท้องคุณซะหน่อย คุณคิดอะไรอยู่ ฟางหย่าจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ?”
“แหะๆ แอ๊บ แรดอย่างเธอนี่ยังมีหน้ามาแอ๊บใส่ฉันอีก เมื่อคืนพี่พึ่งโทรหาเธอ ให้เธอบอกประธานเสี้ยไว้ว่า วันนี้พี่จะมารับเขาที่บริษัท ตอนนี้กลับมาบอกว่า เธอไม่รู้ว่าในใจพี่คิดอะไร? เธอไม่รู้จริงๆ พี่ไม่ซีเรียสที่จะบอกเธออีกรอบนะ” รอยยิ้มบนใบหน้าหลิวเส้าฝู้เริ่มเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงใบหน้างดงามร่างอรชรของเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว ท้องน้อยของเขาก็มีเหมือนความร้อนที่หยุดไม่อยู่ขึ้นมา
พอเห็นรอยยิ้มลามกบนใบหน้าที่ขาวซีดซะเหมือนผีตายซากของหลิวเส้าฝู้ ฟางหย่าแทบอาเจียน แต่ยังคงยิ้มอย่างนอบน้อมพูดต่อว่า: “คุณชายหลิว ล้อเล่นแล้วค่ะ”
“ถ้าคุณหมายถึงเรื่องนี้ งั้นวันนี้คุณคงมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ ประธานเสี้ยเธอไม่ได้อยู่บริษัทค่ะ”
“ไม่อยู่บริษัท? ไปไหนล่ะ?” หลิวเส้าฝู้หรี่ตามอง วาบประกายตาอาฆาตขึ้นวูบหนึ่ง
เหมือนรู้อยู่ก่อนแล้วว่าหลิวเส้าฝู้จะถามแบบนี้ ฟางหย่าหัวเราะเบาๆพลางว่า: “ประธานเสี้ยไปยันเจียงประชุมเรื่องภายในของเครือบริษัทค่ะ….”
“เพี๊ยะ!”
ฟางหย่ายังพูดไม่ทันจบ หลิวเส้าฝู้ก็ตบหน้าเธอเข้าให้
ตบเต็มๆฉาดนี้ทำให้ใบหน้างามของฟางหย่าปรากฏรอยนิ้วมือขึ้นมาห้านิ้ว
หลิวเส้าฝู้ยิ้มสบถ: “นังแพศยา แกคิดว่าฉันโง่หรือไง?”
“แกพูดอะไร? ฉันก็เชื่องั้นสิ?!”
ฟางหย่ายังมึนงงจากตบนี้ สักพักเธอได้สติกลับมาว่าเกิดอะไรขึ้น เธอยกมือกุมแกม พูดอย่างมีน้ำตาคลอว่า: “คุณชายหลิว ฉันไม่ได้หลอกคุณนะคะ ประธานเสี้ยเธอไปประชุมที่ยันเจียงจริงๆ พึ่งขึ้นเครื่องเมื่อคืนนี้เอง”
“นังแพศยานี่ ยังกล้าหลอกฉัน!”
“เพี๊ยะ”
หลิวเส้าฝู้พูดพลางสะบัดมือตบฉาดที่สองเข้าหน้าฟางหย่าอีกที
“นังแพศยา ก่อนฉันมาที่นี่ สอบถามเลขาพ่อฉันเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าหลายวันนี้ที่ยันเจียงไม่มีการประชุมอะไรทั้งนั้น!”
“แถมถ้าจะประชุมจริง นังแรดอย่างแกในฐานะเลขาเสี้ยเมิ่งเหยา จะไม่ไปกับเขาหรือไง?!”
หลิวเส้าฝู้ยิ้มเย็น ในฐานะลูกชายเพียงเดียวของประธานกรรมการใหญ่ เขาอยากรู้ตารางการประชุมของเครือบริษัทนี่ง่ายซะยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากซะอีก
พอได้ยินหลิวเส้าฝู้พูดอย่างนั้น ฟางหย่าก็เริ่มหน้าซีด เห็นได้ชัดว่าวันนี้หลิวเส้าฝู้เตรียมตัวมา เมื่อก่อนเธอยังพอหาเหตุผลหลบเลี่ยงไปได้ แต่วันนี้หลิวเส้าฝู้ดูจะตะลุยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม เธอจะใช้วิธีไหนมาหยุดเขาดีล่ะ?
“ฟางหย่า ฉันให้เกียรติเธอแล้วนะ ถ้าเธอยังจะดื้อด้านอยู่ อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ!” หลิวเส้าฝู้ข่มขู่เข้าให้อีก
ฟางหย่าสั่นสะท้าน เริ่มเผยสีหน้าลำบากใจขึ้นมา ถึงเสี้ยเมิ่งเหยาจะเป็นประธานใหญ่ของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป แต่ถ้าเทียบกับหลิวเส้าฝู้ตรงหน้า เสี้ยเมิ่งเหยาเทียบไม่ติดเลย เธอจำเป็นต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องเสี้ยเมิ่งเหยาไหม?
เห็นฟางหย่าเริ่มไหวหวั่นเพราะคำพูดตัวเอง หลิวเส้าฝู้อดรู้สึกภูมิใจไม่ได้ เขายิ้มเย็นพูดต่อ: “ฟางหย่า คิดให้ดีนะ เธอก็แค่เลขาตัวเล็กๆ ไม่ใช่ประธานซะเอง !”
“ฉันอาจจะทำอะไรเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้ แต่กับเธอ ฉันคิดได้เป็นพันวิธีเลยนะ!”
ฟางหย่าถอยหลังไปหนึ่งก้าว สีหน้าทุกข์ทรมาน
“คุณชายหลิว การบังคับขืนใจมันไม่ดีหรอกค่ะ อย่างคุณน่ะจะหาผู้หญิงที่ดีกว่าประธานเสี้ยร้อยเท่าพันเท่าก็ยังได้ ทำไมต้องมาเกาะแกะประธานเสี้ยไม่ปล่อยด้วยล่ะคะ?” ฟางหย่าพยายามเกลี้ยกล่อมต่อ
ถึงคนอย่างหลิวเส้าฝู้จะเจ้าชู้เสเพลไปหน่อย แต่ฐานะทางบ้านเขาก็วางอยู่ตรงนั้น พ่อเป็นประธานกรรมการใหญ่ของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป มีมูลค่าทรัพย์สินเป็นหมื่นล้าน
ส่วนหลิวเส้าฝู้ก็เป็นลูกชายโทนของตระกูลนี้ พูดได้เลยว่า อนาคตของหลิวเส้าฝู้น่ะนอนมาสืบทอดทรัพย์สินมูลค่าหมื่นล้านของหลิวหยวนชิ่งอยู่แล้ว
เงื่อนไขแบบหลิวเส้าฝู้นี่ไม่มีทางหาผู้หญิงไม่ได้ แต่เขากลับเหมือนเป็นโรคประสาท เอาแต่ตามเกาะติดผู้หญิงที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้วอย่างเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ปล่อย