ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
อิงโทรศัพท์ไปหาอัน แต่มีเสียงผู้ชายเป็นคนรับสาย
“สวัสดีครับ” เสียงหนุ่มนุ่มลึกทุ้มกังวานพูด
“เอ๊ะ นั่นโทรศัพท์ของอัน ไม่ทราบว่าใคร” อิงสงสัยเลยถามออกไป
‘อันให้ใครรับโทรศัพท์’ อิงคิดในใจ
“อ้อ ขอโทษนะครับ นั่นใช่คุณอิงรึเปล่าครับ พี่สาวของอัน”
“ใช่ค่ะ”
“ต้องขอโทษที่รับสายแทนนะครับ พอดีเธอกำลังทำงานให้ผมอยู่นะครับ”
“เอ่อ เหรอคะ คือ…แล้วคุณ…”
“อ้อ ผมลูเซี่ยนครับ แล้วผมต้องขอโทษแทนคุณด้วยนะครับที่เอาชื่อเสียงคุณไปทำให้เสียหายจนต้องเป็นข่าว”
เมื่อปลายสายพูดถึงชื่อลูเซี่ยนขึ้นมา อิงหูผึ่ง ตาลุกวาว เปลี่ยนท่าทีทันที
‘อย่าบอกนะว่าตอนนี้อันกำลังอยู่กับลูเซี่ยนคนนั้นเหรอ ได้ไง …แปลว่าเธออยู่กับลูเซี่ยนทั้งคืนนะสิ ที่สำคัญความลับที่เราสองคนอุตส่าห์ปกปิดทำไมเขาถึงรู้ ยัยอันแอบปากโป้งละสิท่า’ อิงคิดในใจ
“อ้อ ไม่เป็นหรอกค่ะ ทางนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไร แล้วคุณรู้ได้ยังไงคะ ว่าอันเป็นฝาแฝดฉัน” อิงพูดเสียงเข้ม
“ตอนแรกผมไม่รู้หรอกครับ แต่เพราะผมมีงานบางอย่างที่ต้องให้อันทำเป็นพิเศษ และผมก็เริ่มสงสัย เลยลองสังเกตที่นามสกุลกับหน้าตาดู ทั้งสองคนหน้าเหมือนกันมาก คนอื่นอาจจะไม่สังเกตแต่เพราะผมเป็นแฟนคลับคุณมาตั้งแต่แรกก็เลยดูรู้ ช่วงแรกอันก็ปฏิเสธนั่นแหละครับ ผมก็เลยตามสืบด้วยตัวเองจนอันจนมุม เธอเลยต้องพูดความจริงออกมา ซึ่งความจริงแล้วงานเมื่อวาน ผมก็อยากจะชวนคุณไปมากกว่า แต่อันบอกว่าเมื่อวานคุณมีคิวถ่ายละครจนดึก อีกอย่างงานของผมค่อนข้างกะทันหันก็เลยไม่กล้าเชิญ กลัวว่าคุณจะไม่สะดวก”
ลูเซี่ยนอธิบายเหตุผลต่าง ๆ ให้อิงฟัง
“ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ ต่อไปยังไงก็ติดต่ออิงได้ตลอดเลยนะคะ นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของอิง ไม่ต้องคุยผ่านอันอยู่ เพราะบางทีอันก็ไม่รู้ตารางงานของฉันดีเท่าไหร่หรอกค่ะ”
อิงรู้สึกเสียดายเรื่องเมื่อคืนที่ตัวเองไม่ได้ไป เพราะมัวทำสปาอยู่ ตารางงานพวกนั้นอิงสร้างขึ้นมาหลอก ๆ เพื่อไม่อยากให้ใครรบกวนเวลาทำสปาของเธอเท่านั้น
“เข้าใจแล้วครับ อ่อ คุยกันซะเพลินเลย ตอนนี้อันกำลังทำงานให้ผมอยู่ คุณอิงจะคุยกับเธอไหมครับ”
ซึ่งความจริงแล้ว อันกำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน แต่ลูเซี่ยนแอบหยิบมือถือเธอมาคุยเองต่างหาก
“ไม่แล้วละคะ ก็คิดจะมาถามเรื่องเมื่อคืนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คุณตอบให้แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องคุย”
“โอเคครับ เออคือว่า… ถ้าไม่รังเกียจ ผมอยากชวนคุณไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อเพื่อเป็นการไถ่โทษ”
“ได้สิคะ ไม่มีปัญหา จะตอนนี้เลยก็ได้นะคะ”
อิงตอบโดยไม่คิด เธออยากรู้จักผู้ชายคนนี้ การที่เธอได้รู้จักกับคนหล่อ ๆ และรวยแบบนี้มีไม่มาก เธอจะต้องคว้าเขามาให้ได้
‘นี่เป็นโชคดีของฉันชัด ๆ ขอบคุณนะอันที่ช่วยปูทางให้’ อิงคิดในใจ
“งั้นคืนนี้ 1 ทุ่มตรง มาที่ภัตตาคารของผมนะครับ ผมจะส่งรถไปรับคุณ”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
“งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
ลูเซี่ยนวางสายไป
อิงไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าเธอได้ตกอยู่ในกับดักที่ลูเซี่ยนได้วางไว้หมดแล้ว
นทีเห็นอิงคุยโทรศัพท์อย่างกระดี๊กระด๊า ทำให้เขารู้ว่าเธอมีแผนจะทำอะไรสักอย่าง หวังว่าวันนี้เธอคงจะไม่ทำให้งานล้มไม่เป็นท่าอีกนะ เพราะวันนี้มีงานสำคัญระดับประเทศรอเธออยู่
“นทีเดี๋ยวยกเลิกตารางวันนี้ออกให้หมดเลยนะ”
“เอ๊ะ”
พูดไม่ทันขาดคำ
“ฉันจะเตรียมตัวหาซื้อชุดสวย ๆ ไปดินเนอร์กับลูเซี่ยน”
“ลูเซี่ยน! คนที่กำลังเป็นข่าวกับเธอนะเหรอ แต่วันนี้เธอต้องไปสัมภาษณ์นิตยสารนะ”
“ก็ยกเลิกไปสิ บอกเขาว่าฉันมีธุระอื่นต้องไปทำ จะชดเชยให้ทีหลัง” อิงเริ่มขึ้นเสียง แม้ไม่ได้ดั่งใจ
“อิง นิตยสารเล่มนี้มันสำคัญมากนะ มันอาจจะทำให้เธอได้เป็นนางแบบขึ้นปกตินิตยสารชื่อดังระดับประเทศเลยน่ะ เธอไม่ควรที่จะพลาดมัน”
“เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ว่างไง”
“อิง!”
“จะอะไรนักหนา ถ้ามันสำคัญนักก็เลื่อนมาตอนเช้านี้ซะ ยังไงก็ไม่มีงานอยู่แล้ว และเน้นย้ำกับทางฝั่งนั้นด้วยว่าไม่เกิน 10 โมงต้องเสร็จ”
“…”
“เข้าใจแล้ว…”
“อิง อีกอย่างฉันว่าเธออย่าไปดีกว่านะ ดินเนอร์คืนนี้ ฉันได้กลิ่นแปลก ๆ ได้ยินว่าเขาทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอันตรายด้วยนะ ที่สำคัญคนในภาพนั่นคืออัน บางทีลูเซี่ยนกับอันอาจมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันอยู่ก็เป็นได้”
“ข่าวลือมั่วนะสิ! แล้วก็นะ เมื่อกี้ฉันโทรไปหาอัน แต่ลูเซี่ยนเป็นคนรับสาย เขาอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ฉันฟังหมดแล้วว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้น แค่ลูเซี่ยนชวนอันออกงานแทนฉัน อย่าได้ใจ คิดไปไกลหน่อยเลยนที อันก็แค่ตัวตายตัวแทนของฉันยามจำเป็นเท่านั้นแหละ คนที่จะได้ครอบครองลูเซี่ยนต้องเป็นฉันเท่านั้น”
ระหว่างที่นทีกับอิงกำลังโต้แย้งกันอยู่ในห้อง มีเสียงโทรศัพท์อีกสายหนึ่งดังขึ้นในโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของอิง
“สวัสดีค่ะ ท่าน ส.ส โทรมาแต่เช้าเลยนะคะ”
อิงพูดทักทายเสียงใส ตรงข้ามกับหน้าตาบอกบุญไม่รับ นทีได้แต่ส่ายหน้าไปมา เหนื่อยใจกับนิสัยของอิง
“เป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งเลยนะคุณอิง ถ้าท่าทางเขาจะติดใจเธอมาก เพราะผมแนะนำเธอไปแท้ ๆ ต้องยกความดีความชอบให้ผมด้วยล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ท่าน ส.ส. จำไม่ได้แล้วเหรอ ฉันอุตส่าห์พาเธอไปรับแขกของฉันคนนั้นไง เพราะเธอทำให้การเจรจาธุรกิจของฉันเลยราบรื่นขึ้นมาก ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้เขาพอใจได้ แต่เธอนี่ก็ร้ายไม่เบานะ ที่สามารถควงลูเซี่ยนคนนั้นออกงานได้เชียวนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ต่อจากนี้ฉันคงเรียกเธอไปทำงานนอกไม่ได้แล้วสิน่ะ ไม่งั้นมีหวังโดนลูเซี่ยนเล่นงานแน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
อิงนึกย้อนไป ก็เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยสิน่ะ อิงจำได้เลือนราง ที่เธอเคยส่งอันไปต้อนรับแขกของท่าน ส.ส ที่แท้ก็คือลูเซี่ยนงั้นเหรอ
“อ้อค่ะ จำได้สิคะ ต้องขอบคุณท่านมากที่ให้โอกาสอิง พอดีว่าอิงสับสนนิดหน่อยค่ะ เมื่อคืนพักผ่อนไม่เพียงพอ”
“ไม่เป็นไร ๆ ผมเข้าใจ ต่อไปเราอาจจะได้คุยธุรกิจกันยาว แค่นี้แหละ” แล้ว ส.ส. วางสายไป
อิงนึกย้อนไปถึงคืนนั้น ความจริงเธอต้องเป็นฝ่ายไปปรนนิบัติลูเซี่ยนแต่เธอกลับส่งอันไป เพราะได้ยินว่าแขกของท่าน ส.ส. คราวนี้ ทั้งอ้วน ทั้งเหม็นและซาดิสต์มาก ชอบทรมานคู่ขาของตน อิงทำตาขวางหันไปหานทีที่กำลังจัดตารางงานใหม่ หยิบโทรศัพท์ในมือขว้างใส่เขา
ตุบ!
“โอ๊ย! เจ็บน่ะ! ปาโทรศัพท์ใส่ฉันทำไม”
โทรศัพท์ราคาแพง รุ่นใหม่ล่าสุด แตกกระจายเต็มพื้นห้อง
“เพราะแกเลย อีตุ๊ด เพราะแกทำให้ฉันพลาดโอกาสดี ๆ เพราะข่าวลือของแกมาปั่นหัวฉัน ฉันเลยต้องส่งอันไปต้อนรับแขกของท่าน ส.ส.” นทีรู้ทันทีว่าอันพูดถึงเรื่องอะไร
“…” นทีนิ่งไม่พูดอะไร นทีเองตกใจกับเรื่องที่มันกำลังพันกันยุ่งเหยิง
“หรือว่าลูเซี่ยนคือแขกของท่าน ส.ส.” นทีนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“ก็ใช่น่ะสิ น่าโมโหจริง ๆ เชียว เพราะแกแท้ ๆ เพราะแกคนเดียว”
“แต่ฉันไม่ได้เป็นคนพูดข่าวลืออะไรสักหน่อย”
“ถ้าไม่ใช่แกพูด แล้วฉันไปได้ยินข่าวลือมั่ว ๆ มาจากหมาที่ไหน”
“…” นทีเงียบไม่พูดต่อ
“เก็บกวาดเรียบร้อย แล้วหาโทรศัพท์เครื่องใหม่มาให้ฉันด้วย”
นทีทำตามที่อิงสั่งอย่างเงียบ ๆ โทรศัพท์ราคาครึ่งแสน พัง เศษกระจกแตกกระจายทั่วพื้น ทั้ง ๆ ที่ซื้อใช้ยังไม่ถึงเดือน น่าเสียดายจริง ๆ
อิงนั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียวหน้าโต๊ะเครื่องแป้งในห้องแต่งตัว นึกไปถึงเรื่องที่ลูเซี่ยนมารับโทรศัพท์ของอันเมื่อเช้านี้ งั้นแปลว่า เมื่อคืนอันก็นอนกับเขานะสิ อย่าบอกนะงานที่ว่าคือปรนนิบัติสินะ
ความอิจฉาริษยาภายในใจอิงพุ่งออกมา
‘อัน เธอจะสุขสบายเกินไปแล้ว ได้ซุกอยู่ในอ้อมกอดของลูเซี่ยน คงคิดจะเกาะเขาเอาไว้คนเดียวละสินะ ไม่มีวัน เพราะต่อจากนี้ ลูเซี่ยนคือของฉัน’ อิงคิด
‘ฉันจะแย่งเขามาจากเธอให้ได้’ อิงพูดบอกตัวเองในใจ
อิงกำลังวางแผนการที่จะทำให้ลูเซี่ยนหลงเสน่ห์เธอและแยกอันออกจากลูเซี่ยน อิงลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินออกไปทันที ไม่สนคำพูดของนทีที่พูดตามหลังเธอจนปากเปียกปากแฉะ เธอทิ้งงานทั้งหมดที่ต้องทำในวันนี้ ไปเดินเลือกเสื้อผ้า ปล่อยให้นทีรับเคราะห์แทน
ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือ อิงต้องการแค่เตรียมตัวให้ดีที่สุดที่จะพบลูเซี่ยนในคืนนี้
ทุกสายตากำลังจับจ้องมาทางผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในห้องอาหารภัตตาคารสุดหรูหรา เธออยู่ในชุดเกาะอกสีน้ำเงินที่ช่วยขับผิวของเธอให้ดูขาว พรางหุ่นเธอให้สวยเด่นยามค่ำคืน แต่งหน้าจัดเต็มในสมฐานะที่เป็นดาราชื่อดังอันดับหนึ่ง ผูกผมยกเกล้าขึ้นสูงดูเรียบหรู
แวบแรกที่ลูเซี่ยนเห็น เขาคิดว่านั่นคืออัน พอได้เจอตัวจริงแล้วทั้งสองคนเหมือนกันจริง ๆ ทั้งหน้าตา รูปร่างสัดส่วน รอยยิ้ม จนเขาแทบจะหลงเสน่ห์ของเธอ อิงดูมีออร่าของความเป็นดารามากกว่าอัน เขายอมรับว่าอิงสวย ตราตรึงใจเขามาก คงไม่มีผู้ชายคนไหนหนีไปจากเธอได้ ทุกคนต้องสยบอยู่แทบเท้าอิงทันทีที่หลงเสน่ห์เธอ
‘เกือบไปแล้ว’ ลูเซี่ยนคิดในใจ
เรานั่งรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างบนชั้นดาดฟ้า
“หน้าตาของคุณเหมือนกับอันมากซะจนผมแยกไม่ออก” ลูเซี่ยนเริ่มบทสนทนาขณะจ้องอิงอยู่สักพักไม่วางตา
“ใคร ๆ ก็บอกแบบนั้นค่ะ” ลูเซี่ยนหยุดจ้องอิงไม่ได้ มันทำให้เขามีอารมณ์พลุ่งพล่าน เขาต้องรวบรวมสติตัวเองให้ดี เพราะนี่ไม่ใช่อัน ของเล่นแสนสำคัญของเขา
“คุณสองคนเป็นคนที่ไหนเหรอครับ” ลูเซี่ยนเริ่มคุยเรื่องส่วนตัวกับอิง
“เชียงใหม่ค่ะ แต่อยู่กรุงเทพมาตั้งแต่เด็กแล้ว”
“ครอบครัวย้ายมาอยู่ที่นี่?”
“เปล่าหรอกค่ะมาอาศัยอยู่กับญาติ ก่อนจะแยกออกมาทำงานของตัวเองทั้งสองคน”
“จากน้ำเสียงฟังดูแล้ว เหมือนผ่านเรื่องราวมาพอสมควรนะครับ ไม่คิดถึงบ้านที่เชียงใหม่บ้างเหรอครับ” อิงหยุดมีดที่กำลังหันเนื้อสเต๊ก ก่อนจะตัดเนื้อสเต๊กต่อ สิ่งที่ลูเซี่ยนพูดเหมือนไปเปิดปากแผลภายในใจของอิง
“ไม่รู้สิคะ ไม่รู้จะกลับไปทำไม เพราะไม่มีใครอยู่”
“เอ๊ะ”
“อ้อคือแม่ที่เลี้ยงดูอิงกับอันมาเสียชีวิตตั้งแต่เล็ก ๆ นะคะ ญาติห่าง ๆ ก็เลยรับเลี้ยงตั้งแต่ตอนนั้น”
“ผมขอโทษที่เสียมารยาท”
เบื้องหลังเป็นแบบนี้งั้นเหรอ ลูเซี่ยนคิดในใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว”
“ครับ ผมว่าถ้าคุณสองคนเป็นดาราด้วยกัน คงสร้างสีสันให้วงการนี้ได้อีกมาก เพราะคุณสวยมากจนผมไม่สามารถละสายตาไปจากคุณได้เลย”
“ปากหวานจังนะคะ คงไม่มีทางหรอกค่ะ อันคงจะไม่มีทางเข้ามาให้วงการนี้ได้หรอกค่ะ ถ้าฉันไม่อนุญาต”
“ดูมั่นใจจังเลยนะครับ”
“ค่ะ เพราะเธอจะไม่แย่งสิ่งที่ฉันรักที่สุดไปจากฉันอีกเป็นครั้งที่สอง”
“พูดดูจริงจังเชียวนะครับ”
“ก็จริงนิค่ะ ถ้าจะให้พูดก็คงพูดไม่หมด การที่แม่ของพวกเราตายก็เป็นเพราะอัน นั่นแหละค่ะ”
ทำไมอิงถึงพูดเรื่องแม่ให้ลูเซี่ยนฟังนะ ทั้ง ๆ ที่เราพึ่งเจอกันครั้งแรก…
“ครับ?” ลูเซี่ยนเริ่มไม่เข้าใจ เขากำลังเก็บข้อมูล
“อันไม่เคยเล่าให้ฟังเหรอคะ ว่าอันเป็นต้นเหตุให้แม่ของเราต้องตายเพราะความเอาแต่ใจของตัวเอง ฮึ คงไม่กล้าเล่าหรอกมั้ง ก็มันเป็นตราบาปในใจไปชั่วชีวิตนินะ” สายตาอิงดูหดหู่และโกรธอยู่พอสมควรที่พูดถึงเรื่องนี้
“….”
ลูเซี่ยนนิ่งเงียบ หรือว่านี้คงเป็นเหตุผลที่อันยอมทำทุกอย่างที่อิงต้องการ และปกป้องอิงในแบบของตัวเธอเอง อยากจะชดใช้ความผิดที่ก่อไว้
ลูเซี่ยนเงียบไป เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาแค่ต้องการสอบถามประวัติคร่าว ๆ เพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง เพราะดูเหมือนเรื่องบางเรื่องที่เขาสืบมาเกี่ยวกับฝาแฝดคู่นี้ ยังไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด มันมีบางช่วงที่ขาดไป โดยเฉพาะช่วงวัยเด็กของสองพี่น้องก่อนจะมาอยู่ที่กรุงเทพ เขาไม่รู้มาก่อนว่าเธอเป็นคนเชียงใหม่ พอรู้แบบนี้จะได้สืบเรื่องราวต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นมาหน่อย เผื่อมันจะใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
อิงเห็นลูเซี่ยนไม่พูดอะไร สงสัยเรื่องที่พูดมันเครียดเกินไป อิงเลยเปลี่ยนน้ำเสียงและเรื่องที่จะพูด
“คุยเรื่องเครียด ๆ แบบนี้ตอนมื้อค่ำไม่ดีเลยนะคะ ทำให้บรรยากาศยามค่ำคืนเสียหมด เรามาเปลี่ยนบรรยากาศคุยกันหน่อยดีรึเปล่าคะ อย่างเช่นทำอะไรสนุก ๆ กันสองต่อสองที่โรงแรมของคุณ” อิงไม่พูดเปล่าใช้มือตัวเองสัมผัสที่มือของลูเซี่ยนเบา ๆ ยั่วยวนเขา
เขายอมรับว่าเขาหลงเสน่ห์เธอมากแต่เธอไม่ใช่คนที่เขาต้องการ แม้หน้าตาจะเหมือนกันขนาดไหน แต่คำพูด แววตา กิริยาที่แสดงออกมา นิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะแววตานั้น มันแทบจะชวนให้ลูเซี่ยนอยากดำดิ่งไปด้วยกันทั้งคืน ถ้าเขาเจออิงก่อนอัน เขาก็คงหลงเสน่ห์เธอคล้อยตามเธอเป็นแน่ ๆ แต่ตอนนี้ข้าง ๆ เขา มีแค่อันเท่านั้น และเขาเองก็มีเรื่องที่ต้องทำต่อจากนี้
ลูเซี่ยนถอยมือออกจากอิงเล็กน้อย จับที่ปลายนิ้วมือยกมือขึ้น ก่อนจะใช้ริมฝีปากแตะลงไปที่มือเบา ๆ
“วันนี้ต้องขอโทษด้วยนะครับ เพราะหลังจากนี้ผมมีธุระต่อ ถ้าวันไหนว่าง ๆ ผมจะนัดเจอคุณอีกครั้ง” ลูเซี่ยนส่งสายตาเร่าร้อนให้อิง เธอเองก็หลงเสน่ห์ของเขาไม่แพ้กัน
“หืม…สัก 10 นาที ไม่สิ 5 นาทีก็ได้ แค่อยากจะรู้จักคุณให้มากกว่านี้” อิงพูดด้วยสายตาเว้าวอน ลูเซี่ยนจ้องมองดวงตาคู่นั้น ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย
“งั้นแทนที่จะไปโรงแรมของผม ไปบนห้องส่วนตัวของภัตตาคารแห่งนี้กันก่อนไหมครับ เพราะดูท่าทั้งคุณและผม ไม่อาจจะอดทนได้ก่อนถึงโรงแรม”
“นั่นสิคะ” พูดจบอิงลุกขึ้นแล้วเดินนำออกไป ลูเซี่ยนค่อย ๆ ลุกตามเธอไปติด ๆ
เมื่อทั้งสองเสร็จธุระ ลูเซี่ยนยืนส่งอิงขึ้นรถยุโรปคันหรูหน้าภัตตาคารอาหาร
ก่อนรถออก อิงไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป ใช้ริมฝีปากจูบแก้มของเขาเล็กน้อยเพื่อเป็นการบอกลาและเจอกันใหม่คราวหน้า ลูเซี่ยนยืนรอจนรถของอิงขับออกไปสุดประตูภัตตาคาร
แชะ แชะ แชะ เสียงกดชัตเตอร์
และภาพนั้นได้ถูกบันทึกไว้ โดยตากล้องฝีมือดีที่แอบตามถ่ายดาราชื่อดังที่กำลังเป็นข่าวในขณะนี้ โดยที่ทั้งสองคนไม่ระวังตัว หรือยอมปล่อยผ่านไปกันแน่น่ะ
จากนั้นลูเซี่ยนนั่งรถกลับไปที่บ้านพักของตน เดินตรงเข้าไปหาอันที่ห้อง
วันนี้เธอหลับทั้งวันเพราะความอ่อนเพลียจากเมื่อคืน…
เพล้ง!
เสียงของสิ่งของบางอย่างตกแตกในห้อง ลูเซี่ยนรีบเปิดประตูเข้าไป…
MANGA DISCUSSION