'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 136 ตระกูลเกาอาจจะมีเรื่องเกิดขึ้น
[ฉันเคยได้ยินประโยคที่สวยงามที่สุด : มอบคำสาบานไว้บนนิ้วมือ
ภาพทรงจำที่สวยงามที่สุดในความทรงจำของฉัน : เมื่อคืนที่ได้เอนกายพิงไหล่ของคุณและเฝ้าชมดาว]
ภาพคือ —
แสงยามเช้าในวัดถัดมา มือเล็กๆของเยี่ยหลานซานสวมแหวนที่เปิดกระป๋อง
ภาพตัด
จบงาน
หลังจากการแก้แค้นเพียงเล็กน้อย อารมณ์ของเยี่ยหลานซานก็ดีขึ้น เสี่ยวจินเองก็เพิ่งตื่น เธอยื่นแก้วนมให้กับเธอ หลังจากทั้งสองทานอาหารเช้าด้วยกัน พวกเธอก็ไปยังกองละคร
…………
บ้านเก่าของตระกูลกง กงเส่าถิงกำลังรับประทานอาหารเช้า
โทรศัพท์ของเขาก็ดัง ‘ติ๊ง’
เสียงนั้น เป็นเสียงที่ตั้งติดตามเป็นพิเศษของบัญชีเว่ยป๋อ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ติดตามนั่นก็คือเยี่ยหลานซาน
เธอโพสต์เว่ยป๋อ!
เขาวางช้อนอาหารลงและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ในวินาทีถัดมา สีหน้าของเขาก็อึมครึมในทันที
บนนิ้วนางที่สวยงามของเธอ เธอสวมแหวนที่เปิดกระป๋อง!
มอบคำสาบานไว้บนนิ้วมือ ??
เมื่อคืนที่ได้เอนกายพิงไหล่ของคุณและเฝ้าชมดาว ??
ใคร?!
คือใคร?!
กงเส่าถิงลุกขึ้นในทันที เตรียมตัวจะออกไปด้านนอกและกดโทรศัพท์หาเว่ยเจิง
หญิงชราที่อยู่ด้านหลังถามอย่างเป็นกังวล “เส่าถิง เมื่อวานตอนค่ำก็ไม่ค่อยทานอะไร อาหารเช้าก็เป็นเช่นนี้อีก เกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงได้รีบร้อนจนไม่อาจทานอาหารเช้าได้จนเสร็จ ทานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปไหม?”
“เดี๋ยวไปทานที่บริษัท”
หลังจากกงเส่าถิงกล่าวจบ เว่ยเจิงก็รับสายโทรศัพท์
เขาเดินออกไปอย่างรวดเร็วและถามด้วยใบหน้าบึ้งตึง “เมื่อคืนเธออยู่กับใคร?”
เว่ยเจิงกล่าวด้วยความสัตย์จริง “หลังจากที่ตัวแทนของคุณเยี่ยจากไป จากนั้นก็น่าจะมีแค่คุณเยี่ยและผู้ช่วยของเธอ”
“ไม่มีผู้ชายคนอื่น?”
น้ำเสียงนี้ เห็นได้ชัดเจนว่ากำลังหึงหวง
“ชั้นบน ชั้นล่าง และอาคารตรงข้ามของคุณเยี่ย ทั้งหมดล้วนเป็นคนของเรา เสียงนั้นเงียบ…น่าจะไม่มี…” เนื่องจากราวกับว่าน้ำเสียงของกงเส่าถิงหนักแน่น ทำให้เว่ยเจิงไม่กล้าที่จะกล่าวอย่างเต็มปากเต็มคำ เขากลัวว่าจะโดนจัดการ
“น่าจะเหรอ?!”
สองคำนี้ไม่ใช่คำที่กงเส่าถิงนั้นอยากได้ยิน คำที่เขาต้องการจะได้ยินก็คือ ไม่มี เขาถึงจะวางใจได้
ความโกรธเคืองดั่งศัตรูที่อธิบายไม่ได้ทำให้เว่ยเจิงตกใจและรีบอธิบายว่า “เป็นเพราะกังวลว่าคุณเยี่ยจะจับได้ พวกเราเลยไม่กล้าเข้าใกล้นัก หากคุณชายต้องการที่จะสืบเสาะเรื่องราวอย่างเจาะจง ผมจะส่งคนไปห้องคุณเยี่ยและติดอุปกรณ์ดักฟังทันที”
เช่นนี้ หากว่าภายในห้องคุณเยี่ยทำอะไร พูดอะไร พวกเขาก็จะรู้ได้อย่างง่ายๆไม่ใช่หรือ?
เขานั้นพร้อมที่จะจัดการ
กงเส่าถิงกล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เธอคือผู้หญิงของฉัน ไม่ใช่นักโทษ หน้าที่ของพวกคุณคือคอยปกป้องเธอ ไม่ใช่คอยสอดส่องเธอ” อยากรู้ว่าในทุกวันเธออยู่กับใครบ้าง ทำอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะใช้วิธีดูหมิ่นเธอเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการ
ความกลัวในใจเว่ยเจิงทำให้เขารีบตอบรับในทันที “รับทราบ”
“คุ้มครองเธอ”
หลังจากกล่าวเตือนสติ กงเส่าถิงก็วางสาย
“Boss”
โจวไท่หยุดรถ ยืนด้านข้างอย่างเคาระ
กงเส่าถิงสัมผัสคิ้วที่ขมวดแน่นของเขาจากนั้นเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเป็นนิสัย
ภายในใจคิดอยากสูบบุหรี่ภายในกระเป๋ากางเกงก็เช่นกัน ไม่ต้องพูดถึงบุหรี่ แม้แต่ไฟแช็คก็ไม่มี
ทันใดนั้นเขาก็นึกออก เพื่อที่จะให้เยี่ยหลานซานเลิกบุหรี่ เขาเองก็เลิกไปพร้อมกัน
ด้านในกระเป๋ากางเกงนั้น นิ้วมือของเขาก็แข็งทื่อในทันใด จากนั้นเขาก็ออกคำสั่ง “ไปเถอะ”
ในขณะที่โจวไท่ขับรถ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเปิดอ่านเวยป๋อของเยี่ยหลานซาน
เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
หากว่าไม่มีใครอื่น แล้วแหวนที่เปิดกระป๋องนั้นคืออะไร?
ภายในความคิดของเขา มีอยู่หนึ่งคนที่ทำให้ความคิดภายในใจเขาสั่นคลอน คู่หมายที่ไม่ใช่คู่หมายของซานซาน
คงไม่ใช่เพราะเธอผิดหวังจากเขา ดังนั้นเธอจึงไปอยู่กับคู่หมายที่ดูลึกลับคนนั้นงั้นหรือ?
ความคิดของกงเส่าถิงนั้นกำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก
เขานั้นอดกลั้นได้แล้ว แต่เพียงสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขาไม่สามารถสงบลงได้เลย
อย่าโทษว่าเขานั้นคิดมาก เป็นเพราะความรักในวันนั้นทำให้เขาต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้ เขาไม่กล้าเดิมพันในความปลอดภัยของเธอเขาจึงต้องอยู่ห่างจากเธอ …
เรื่องความรักที่ยังไม่ถึง12ชั่วโมงก็ทำให้เขาขาดความมั่นใจ
โจวไท่มองดูเวลา ในตอนนั้นเพิ่งจะเจ็ดนาฬิกา บริษัทเริ่มงานเก้าโมง เขาจึงถามว่า “Boss ไปบริษัทตอนนี้เลยเหรอ?”
“……..”
ไปกองละคร
ประโยคนี้ กงเส่าถิงอดใจไว้เป็นเวลานาน เขาจึงยังไม่ได้พูดออกไป
จากนั้นเขาเอนกายพิงเบาะ พร้อมกับทำหน้าอึมครึมและตอบ อืม ในลำคอ
เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเขานั้นไม่ค่อยดี โจวไท่จึงถามย้ำอีกครา “Boss สีหน้าคุณไม่ค่อยดี มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?”
“แอลกอฮอล์เมื่อคืนยังไม่หมดฤทธิ์”
กงเส่าถิงค่อยๆหลับตาลงและพักผ่อน
ความหึงหวงในใจของเขาเป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่งอกขึ้นมาอย่างทันตา แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทำได้เพียงแค่คาดเดาอย่างเข้าข้างตัวเอง : อาจเป็นเพราะซานซานโกรธที่เขาจากไปอย่างกะทันหัน ดังนั้นเลยจงใจโพสต์เวยป๋อแบบนั้น อืม เขาไม่อยากทำให้ตัวเองตื่นตระหนกและหึงหวงมั่วซั่ว
…
รถคันหรูแล่นไปในแสงอรุณทองในยามเช้า ส่องประกายอย่างงดงาม
หัวใจของกงเส่าถิงกว่าจะเงียบสงบลงได้ใช้เวลาอยู่สักพัก
แค่เพียง ค่าของความเงียบคือ —–
เขาส่งข้อความหาฉืออวี้เฟิง : [ตระกูลเกาเกิดเรื่องเล็กน้อย ค่อนข้างไม่ค่อยดี เก็บรายละเอียด อย่าให้คนอื่นล่วงรู้]
ฉืออวี้เฟิงได้รับข้อความจากคุณลุงตัวน้อย เขาขยับตัวและนั่งตัวตรงทันที ดวงตาที่ร้อนรนของเขาเปล่งประกายด้วยการแก้แค้นที่แผดเผา : “วะฮ่ะฮ่า ในที่สุดก็ถึงคราวของฉันที่ได้ลงมือ! แต่ว่า เก็บรายละเอียด? จะเก็บอย่างไร? คุณชายน้อยโปรดคิด…”
………….
ตามข้อตกลง เยี่ยหลานซานส่งเงิน 500,000 ให้กับกองทุนม่ามา เพื่อช่วยเหลือเด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
กองทุนม่ามาที่ได้เปิดตัวในวันแรกนั้นก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
แอนตี้แฟนเหล่านั้นต่างกำลังจ้องมองการเคลื่อนไหวของกองทุน เงินทุกบาททุกสตางค์ถูกขุดค้นและพยายามจับผิดพวกเขา
มีคนกล่าว : เยี่ยหลานซานพยายามทำตัวบริสุทธิ์ เสแสร้งทำ
มีคนกล่าว : กองทุนม่ามาเป็นเรื่องหลอกลวง เงินบริจาคของเยี่ยหลานซานก็แค่ถ่ายภาพแก่สาธารณะจากนั้นเงินก็จะกลับเข้าสู่กระเป๋าเงินเธอเหมือนเดิม
มีคนกล่าว : เยี่ยหลานซานยืนหยัดได้ไม่นานหรอก พวกเขาพลางด่าเธอและคอยมองตอนจบที่ไม่สวยของเธอ
เสี่ยวจินอ่านข้อความเหล่านั้น เธอก็โกรธเคืองขึ้นในทันที “พวกคนเหล่านั้นมันจะรังแกคนอื่นเกินไปแล้ว ทำไมพูดจามั่วซั่วแบบนี้ น่าโมโหจริง!”
“ปล่อยเขาไปเถอะ”
เยี่ยหลานซานไม่คิดสนใจ
เงินเมื่อถึงเวลาก็ต้องจ่าย เมื่อถ่ายภาพยนต์ก็ต้องถ่ายอย่างจริงจัง
ตั้งแต่ เลิกกัน ท่าทีของเธอของดูโอเคมาตลอด ทำให้เสี่ยวจินอดคิดไม่ได้ : พี่เยี่ยนั้นไม่เป็นอะไรเลยจริงๆเหรอ??
…….
ในพริบตา ตั้งแต่สงครามเย็นระหว่างกงเส่าถิงและเยี่ยหลานซานนั้นก็ได้ผ่านมาแล้ว 5 วัน
ใน5วันนี้ กงเส่าถิงก็มัวยุ่งแต่กับการทำงานในทุกวันหรือไม่ก็ถูกหญิงชราบังคับและกดดันให้ไปทานอาหารกับหลิงมู่วานโดยที่เขาไม่ได้เต็มใจ ภายในใจที่มีความรู้สึกต่อเยี่ยหลานซานก็แข็งแกร่งมากขึ้นในทุกวัน แต่เขาก็อดทนต่อต้านที่จะไม่ติดต่อไปหาเธอ
บริษัทเอ็มเพอร์เรอร์กรุ๊ป
กงเส่าถิงเพิ่งได้รับการรายงานจากเว่ยเจิง
ในช่วงเวลานี้เยี่ยหลานซานใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในตอนนี้เธอใช้เวลาไปกับการถ่ายละครเท่านั้น ดูเหมือนชีวิตของเธอนั้นกำลังจะดี
แม้แต่ผู้กำกับต่งที่มากเรื่องมากที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะยกย่องเธอและมอบละครให้กับเธอมากมาย
ในแง่หนึ่งเขารู้สึกโล่งใจมาก แต่ในทางกลับกันเขารู้สึกเศร้าเล็กน้อย
ท่าทีของซานซาน ราวกับว่าลืมเขาไปหมดแล้ว?
ไอ
เขาอดทนต่อความคิดในใจของเขา และคอยกดดันคนของเขาที่อยู่ห่างไกล “ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องตามหาคนคนนั้นให้กับฉัน!”
“รับทราบ!”
คนของเขาตกใจกลัวกับความดุเดือดของเขา ลูกน้องเขาตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
ช่วงนี้ Boss มักจะอารมณ์ร้ายใส่เขาวันละครั้ง หัวใจดวงน้อยของพวกเขาไม่สามารถทนรับความกดดันได้อีก หนึ่งวันมี24ชั่วโมง พวกเขาได้พักผ่อนเพียงวัยละ2ชั่วโมง ใช้เวลาที่เหลือในการค้นหาร่องรอยของบุคคลนั้นอย่างไม่กล้าที่จะละเลยคำสั่งนาย
ในขณะนั้น เลขาก็ได้เข้ามารายงาน “ประธานกง คุณหลิงมู่วานรองประธานหลิงกรุ๊ปได้เข้ามาขอพบ”