'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 133 ซานซานตัวน้อยจะแก้แค้น!
ในขณะนั้นเธอนิ่งงันไปชั่วครู่ ภายในใจของเธอก็มีอาการโกรธเคืองมากยิ่งขึ้น
บรรยากาศมาคุเริ่มร้อนแรงมากขึ้น!
เสี่ยวจินเช็ดเหงื่อตนเองพร้อมด้วยอาการตัวสั่น เธอก้าวไปด้านหน้าอย่างอ่อนแรง “พี่เยี่ย กงเส่าถิงกำลังหยอกล้อพี่หรือเปล่า? เอางี้ไหม…ให้ฉันช่วยพี่แฮ็คบริษัทเขา? ให้เขาเสียเงินร้อยล้านในทุกๆนาทีไปเลย?”
“…..”
เยี่ยหลานซานค่อยๆชำเลืองมองเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ปฏิเสธข้อเสนอของเธอ “เรื่องนี้ฉันจัดการเอง เธอไม่ต้องเข้ามายุ่ง แล้วก็ต้องเก็บเป็นความลับด้วย โดยเฉพาะอวิ๋นเยาเนียะ ห้ามให้เธอคนนั้นรู้โดยเด็ดขาด!”
เธอไม่ต้องการให้อวิ๋นเยาเนียะเยาะเย้ยถากถางเธอในอนาคต!
เสี่ยวจินเองก็รู้สึกเสียใจ “งั้นก็ปล่อยไปเหรอ?”
จะมองอย่างไร พี่เยี่ยเองก็ไม่ใช่คนที่โง่เง่าขนาดนั้น!
“แน่นอนว่าจะต้องไม่ปล่อยไว้แน่! รอให้ฉันคิดหาวิธีก่อน!”
เยี่ยหลานซานกล่าวพลางทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มๆ
ชายฝั่งเหยากวงนั้นถูกสร้างขึ้นบริเวณใกล้ชายทะเล หน้าต่างจึงเป็นหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เป็นบานโปร่งใสและมีขนาดใหญ่ ห้องพักมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน
ในเวลานี้พระอาทิตย์กำลังตกดิน เมื่อพลบค่ำ แสงพระอาทิตย์ตกลุกโชนดั่งเปลวไฟ ปกคลุมท้องฟ้าไปเกือบครึ่ง เมื่อมองออกไปก็จะเห็นรถยนต์แล่นไปมาอย่างพลุกพล่านดั่งสายน้ำที่รินไหล ภายในยามพบลค่ำแสงไฟบนอาคารก็ได้สว่างขึ้นเพื่อบรรเทาความรู้สึกเหงา
ความคิดและความรู้สึกของเธอถูกวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าดึงดูด อารมณ์ของเธอจึงค่อยๆสงบลง
ภายใต้วิวทิวทัศน์ที่งดงาม เธอก็เริ่มคิดคำถาม
ทำไมจู่ๆคุณลุงถึงร้อนใจที่จะตัดความสัมพันธ์กับเธอเช่นนี้?
เมื่อวาน เขาไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองและเขาก็ไม่ได้ลังเลที่จะช่วยเธอและปกป้องเธอโดยการดึงดูดความสนใจจากเหล่าทหารรับจ้าง
คนที่สามารถช่วยเธอโดยไม่คำนึงถึงตัวเองได้ แต่จู่ๆก็กีดกันเธอออกจากวงโคจรชีวิตของเขา คืออะไรกันแน่….?
เอ๊ะ?
เดี๋ยวก่อน !
ทหารรับจ้าง???
เหมือนกับว่าเยี่ยหลานซานจะจับจุดข้อมูลสำคัญได้
หลังจากนำเหตุการณ์ทั้งสองมาเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์แล้ว เธอก็พยายามคิดคำตอบ—-
เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จากปากของเหล่าทหารรับจ้างเหล่านั้นว่ามีใครต้องการจะลอบสังหารเขา ตอนนี้เขาตกอยู่ในอันตราย บางทีมองแล้วภายนอกอาจจะไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วแอบแฝงไปด้วยเจตนาที่ต้องการจะฆ่า
คงไม่ใช่เพราะว่า…ที่เขาตัดสินใจแยกความสัมพันธ์กับเธอก็เพื่อที่จะปกป้องความปลอดภัยของเธอใช่ไหม?
ใช่!
มันต้องเป็นแบบนี้แน่!
ไม่อย่างนั้น ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถอธิบายถึงพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของลุงได้อีกแล้ว!
หลังจากที่เธอพอจะเข้าใจ เธอก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดและโกรธมากยิ่งขึ้น
เธอเป็นคนที่เห็นแฟนตนเองตกอยู่ในสภาวะยากลำบากแล้วก็จะหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวงั้นเหรอ?
ไอ้เวร!
มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจัดการด้วยกันได้ ไม่สามารถช่วยกันตัดสินใจได้อย่างนั้นหรือ? จำเป็นต้องทำแบบนี้เพื่อผลักไสไล่ส่งเธอแบบนั้นสินะ? คุณลุง คุณน่ะจะมองหนูเป็นคนนอกเกินไปแล้ว!
“กงเส่าถิง คุณนี่มัน!”
เธอกำกำปั้นเล็กๆด้วยความโกรธ “คุณประเมินฉันต่ำไป ไม่ยอมแบกรับมันไว้กับฉัน แล้วยังแสดงท่าทีแบบนี้กับฉัน ทำให้ฉันเสียใจ ฮึ คุณรอดูได้เลย!”
ในคืนนั้น เธอพักอยู่ที่คอนโดใหม่ เธอไม่โทรหาเหลิ่งเซ่าถิงและไม่คิดจะส่งข้อความอะไรหาเขาเลยแม้แต่น้อย เธอทำเหมือนเขาเป็นดั่งธาตุอากาศ
ในเวลาเดียวกัน คฤหาสน์เก่าแก่แห่งบ้านตระกูลกง
เป็นไปได้ยากที่กงเส่าถิงจะกลับมาอาศัยในคฤหาสน์นี้ทำให้ชายชราและหญิงชราที่รักและหวงแหนเขาต่างก็ดีใจกันยกใหญ่ พวกเขาจึงรีบสั่งให้ห้องครัวจัดทำอาหารเย็นจำนวนมาก พวกเขาจ้องมองลูกชายอย่างเอาใจ
ด้านหน้าเป็นอาหารมื้อใหญ่ แต่กงเส่าถิงไม่มีจิตใจที่จดจ่ออยู่กับอาหารเหล่านั้น
เขาเหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ
เฮ้อ ก็ยังไม่มี
เธอคงกำลังโกรธที่เขาไม่ตอบกลับอะไรเธอเลยสินะ?
เขาหยุดทานอาหารทันที สายตาของเขานั้นลึกซึ้ง
ผู้เฒ่ากงและหญิงชราต่างชำเลืองมองเขาและถามเขาว่า “อาหารไม่ถูกปากเหรอ?”
“เปล่า”
กงเส่าถิงเก็บโทรศัพท์และหันไปบอกลาพ่อกับแม่เขา “ผมทานอิ่มแล้ว เดี๋ยวผมกลับห้องไปสะสางงานต่อ ทานกันต่อเลย”
“…………”
พวกเขาจ้องมองกระทั่งแผ่นหลังของเขาได้หายไป หญิงชรามองไปยังจานที่ว่างเปล่าของเขาด้วยความหดหู่ พร้อมกับกล่าวด้วยจิตใจที่หดหู่เช่นกัน “ตาเฒ่า ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าลูกชายมีเรื่องกังวลใจ?”
“ก็คิดเหมือนกัน”
ผู้เฒ่ากงยกมือขึ้นลูบเคราบริเวณคางของเขา “ตั้งแต่บริหารเอ็มเพอร์เรอร์ เขาก็ย้ายออกไปอยู่คนเดียว อยู่นอกบ้านคนเดียวมาตั้งหลายปี ครั้งนี้จู่ๆก็กลับมาอยู่ที่คฤหาสน์ ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย”
ทั้งสองเป็นห่วงลูกชาย ดังนั้นพวกเขาจึงไล่โทรหาหลานชายให้หลานชายบอกความจริงแก่พวกเขา
สองนาทีถัดมา
“ฉีหลินบอกว่าไม่รู้”
“ชื่อจึก็บอกว่าไม่รู้”
การสืบสวนนั้นก็จบลงโดยหาสาเหตุไม่พบ หญิงชราจึงหันไปออกคำสั่งกับพ่อบ้านเติ้ง “ช่วงสองสามวันนี้จับสังเกตให้ดี หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเส่าถิง ต้องรีบมาบอกฉัน”
“รับทราบ”
“ฉันได้ยินมาว่าจิงเหรินกลับประเทศมาแล้ว สาวน้อยคนนั้นกับฉีหลินไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พรุ่งนี้คุณโทรหาจิงเหรินชวนเธอมาทานข้าวที่บ้าน”
“รับทราบ”
“โอ้ ใช่แล้ว แล้วก็ชวนมู่วานมาด้วย เรื่องการแต่งงานระหว่างเส่าถิงและฉีหลิน ไม่ว่าใครจะได้แต่งก็สามารถนับรวมได้ ตระกูลเจียไม่มีข่าวดีมานานแล้ว…”
…..
เมื่อกงเส่าถิงกลับมายังห้องนอน เขามีกระจิตกระใจทำงานที่ไหนกัน ความคิดทั้งหมดของเขาล้วนแล้วแต่คอยพะวังเรื่องของซานซานตัวน้อย
ภายในใจเหมือนกับว่าถูกไฟเผาจนเกิดหลุมและมีความรู้สึกมากมายวนเวียนอยู่ในนั้น
เขาต่อโทรศัพท์หาเว่ยเจิง
เว่ยเจิงเป็นหัวหน้ากองกำลังมืดของตระกูลกง ปัจจุบันได้ส่งเขาไปปกป้องเยี่ยหลานซาน
“สถานการณ์ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง?” กงเส่าถิงถาม
“คุณเยี่ยได้เข้ามายังชายฝั่งเหยากวงตั้งแต่ช่วงเจ็ดโมง จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ออกมา”
“……….”
ดังนั้นหมายความว่าเยี่ยหลานซานได้เห็นกระเป๋าเดินทางที่เขาได้ส่งคนนำไปมอบให้เธอแล้วสินะ
เธอไม่แม้แต่ที่จะถามอะไรเขาเลยสักคำ?
หรือว่า…?
อันที่จริงเธอไม่ได้สนใจเขาเลย เหตุผลที่เธอยอมตกลงคบกับเขาเพียงเพราะประทับใจ?
สายตาของกงเส่าถิงหรี่ลงในทันใด แขนขวาของเขาค้ำระเบียงไว้และนิ้วของเขาก็แตะลงบนราวบันได
ดูเหมือนจะไม่แคร์ แต่ความจริงกลับรู้สึกไม่แฟร์
เสียง กิ๊งกิ๊งกิ๊ง ในยามค่ำคืนที่เงียบสงัดได้ผ่านเข้าไปในสายของเว่ยเจิง ฟังแล้วดูน่ากลัว
“คุณชายกง?”
เขากล่าวเบาๆ
ในสายตาของกงเส่าถิง เหมือนกับมีเมฆและหมอกผ่านไป “ปกป้องเธอ”
“รับทราบ!”
“…….”
หลังจากวางสาย ภายในใจของกงเส่าถิงก็กระวนกระวาย
อดไม่ได้ที่จะไม่คิดถึงเรื่องนี้
ในวันที่อยู่มู่เซ่อบาร์ อวิ๋นซีกล่าวถึงคู่หมั้นที่ไม่ใช่คู่หมั้นของเย่ยหลานซาน เธอกับคนคนนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?
ไม่ใช่ว่าเธอคิดว่าเขานั้นผลักไสไล่ส่งเธอไปจริงๆหรอกใช่ไหม เธอเข้าใจผิดคิดว่าเขาหลอกเธอเหมือนกับเฉียวเฟยฝานดังนั้นเธอจึงตั้งใจที่จะปล่อยผ่านไป?
เธอรู้สึกอย่างไรกับเขากันแน่?
เกิดความสงสัยอย่างไม่หยุดยั้ง กงเส่าถิงเป็นดั่งคนที่คอยสังสัยและหวาดระแวง ภายในใจของเขาไม่อาจสงบลงได้เลย
อยู่เงียบๆคนเดียวภายในห้องไม่ง่ายเลยที่จะหยุดคิดเรื่องเหล่านี้ เขาแทบอดใจไม่ไหวอยากจะอธิบายให้เธอฟังหลายต่อหลายครั้ง แต่หญิงสาวคนนั้นสุดจะดื้อดึง หากบอกให้เธอรู้ว่าตนกำลังตกอยู่ในอันตราย ต่อให้เธอไม่ได้รักเขาจริง และคิดอยากตอบแทน เธอก็จะไม่จากเขาไปง่ายๆอย่างแน่นอน!
เขาสัมผัสศีรษะของตนเอง จากนั้นหยิบกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะและจากไปด้วยความคิดที่ยุ่งเหยิง
ภายในห้องรับแขก พ่อบ้านเติ้งรีบกวักมือเรียกบอดี้การ์ดเข้าไปหาเขา “รีบไป รีบตามคุณชายไป ดูว่าเขาไปไหน แล้วก็คอยรายงานตลอดเวลาด้วย!”