รักกันอย่างเสียงเงียบ เบิกบานอย่างสุขสงบ - ตอนที่ 001 ผู้ชายป่าเถื่อน
"ตอนนี้ฉันอยู่ที่สนามกอล์ฟ เดี๋ยวฉันขึ้นไป"
เมื่อได้รับข้อความจากเฉินซิงเหย้า เย่เสวี่ยจู๋กำลังตรวจรับงานสุดท้ายของโครงการที่ไซต์งานก่อสร้าง
เธอสวมหมวกก่อสร้างและมองไปที่ดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุเหนือศีรษะของเธอ และตอบกลับเฉินซิงเหย้าว่า: "ฉันอยู่ที่สถานที่ก่อสร้าง ขอไปช้าหน่อยได้ไหม"
เฉินซิงเหย้าตอบกลับข้อความของเธออย่างรวดเร็วว่า: "ให้เวลาคุณสามสิบนาที"
และฉันก็ส่งจดหมายฉบับใหม่ พร้อมรูปถ่ายของเย่เสวี่ยวจู๋หนึ่งรูป และอีกหนึ่งรูปเป็นรูปที่เย่ซิงจู๋ไม่ได้สวมเสื้อผ้า!
เฉินซิงเหย้าในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้า และเป็นชายโสดผู้มั่งคั่งที่ถูกจับตามอง แน่นอนว่าไม่ใช่ผู้ชายที่จะใช้ภาพถ่ายข่มขู่ผู้หญิง เรื่องแบบนี้ทำไปก็ไม่คุ้มค่า เขาแค่อยากทำให้เธออึดอัดใจ!
โทรศัพท์มือถือของเขาเต็มไปด้วยรูปถ่ายของเธอในท่าทางต่างๆ เขามักจะเลือกรูปในโทรศัพท์มาหนึ่งถึงสองรูปเพื่อให้เธอดู และเป็นการเตือนเธอว่าเธอไร้ราคา ต่ำต้อย น่าเกลียด อัปลักษณ์ เลวทรามต่ำช้าและเหลวแหลกแค่ไหน
เขาใช้การกระทำอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อบอกเธอว่า เขาเกลียดเธอมากแค่ไหน!
เย่เสวี่ยจู๋ไม่กล้าที่จะไปช้า รีบไปอธิบายสถานการณ์ให้เจ้านายฟังอย่างรวดเร็ว และถ้าเธอโกหกขอให้เธอปวดปวดท้องจนต้องไปหาหมอทันที เพียงเท่านี้เจ้านายที่หน้าตาโง่เขลาก็มองด้วยสายตาเหยียดหยามและเดินออกจากไซต์งานก่อสร้าง
จากนั้นเรียกรถแท็กซี่จอดอยู่นอกไซต์งานก่อสร้าง และเธอก็รีบวิ่งไปที่ๆเฉินซิงเหย้าไปสนามกอล์ฟแถวชานเมืองที่เฉินซิิงเหย้าไปบ่อยๆ
ขณะที่เย่เสวี่ยจู๋มาถึงนั้น เฉินซิงเหย้ากำลังตีกอล์ฟเป็นเพื่อนลูกค้า เขาสวมชุดตีกอล์ฟสีขาวยืนอยู่บนสนามหญ้าสีเขียวอันกว้างขวาง มองหน้าเขาจาด้านข้างแล้วดูเพอร์เฟ็ค ท่าทางดูแมนมาก แผ่นหลังของเขาสง่างาม รวมถึงวงสวิงของเขา จนกระทั่งถึงตอนที่เขายกไม้กอล์ฟขึ้นทำให้ผู้หญิงหลงไหลในเสน่ห์ของผู้ชายเป็นผู้ใหญ่อย่างบ้าคลั่ง
แสงแดดยามบ่ายส่องทะลุเมฆบางๆตกกระทบศีรษะของเขา ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงและเงาจางๆ เหมือนเพชรที่ส่เจิดจรัสออกมาจากด้านหลัง
มีผู้ช่วยคนหนึ่งเตือนเขาอย่างเบาๆข้างๆหู
เฉินซิงเหย้าหันไปรอบๆอย่างเกียจคร้าน และมองไปที่เย่เสวี่ยจู๋ที่ยืนอยู่ข้างหลัง เขายิ้มแหยะๆอย่างถากถางแล้วหันไปพูดกับผู้ช่วย
ผู้ช่วยของเฉินซิงเหย้าเดินมาที่เย่เสวี่ยจู๋และบอกกับเธอตามคำสั่งของเจ้านายว่า: "คุณเฉินให้คุณรอเขาที่ห้องรับรองแขกห้องเดิม"
เย่เสวี่ยจู๋ตอบด้วยความลำบากใจ "โอเค"
ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอปรากฏตัวขึ้นในสถานที่นี้ทำให้ทุกคนรู้ว่าทำไมเธอถึงมาตอนนี้ เธอเห็นลูกค้าหลายคนอยู่ข้างๆ เฉินซิงเหย้าและจ้องมองเธอเป็นพิเศษ
สายตาแปลกๆเหล่านั้นทำให้เธอคิดว่าเธอเป็นโสเภณี แก้มของเธอร้อนผ่าว เธอก้มศีรษะแล้วเดินไปที่ห้องรับรองแขก
เย่เสวี่ยจู๋รออยู่ในห้องพักจนถึงสามทุ่มถึงจะได้ยินเสียง "คลิก" จากประตู และประตูถูกเปิดจากด้านนอก
เฉินซิงเหย้าดูเหมือนจะเมาแล้ว เขาเดินเซเล็กน้อย เย่เสวี่ยจู๋ลุกจากเตียงด้วยเท้าเปล่าแล้ววิ่งไปที่ด้านหน้าของเขา จากนั้นถอดเสื้อคลุมเขาออกและแขวนไว้
เขายืนอยู่ข้างหลังเย่เสวี่ยจู๋ และจ้องไปที่หลังศีรษะของเธอสองสามวินาทีด้วยท่าทางสงสัยว่าทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวที่นี่
เย่เสวี่ยจู๋เตือนเขาอย่างกระตือรือร้นว่า: "ท่านประธานเฉิน ตอนบ่ายคุณโทรหาฉัน ฉันรอคุณมาสองสามชั่วโมงแล้ว"
เฉินซิงเหย้าลูบหน้าผากของเขาราวกับว่าเพิ่งนึกขึ้นได้ เขานั่งลงบนโซฟา ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อและเรียกเธอไปหา
เย่เสวี่ยจู๋เดินมาหาเขา เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเม็ดสุดท้ายเสร็จพอดีทำให้เผยให้เห็นผิวหน้าอกอันเต่งตึง
เธอเดินไปหาเขาอย่างสั่นๆ และยืนนิ่ง
เขาดึงเธอมานั่งบนตักแล้วใช้มือสำรวจใต้กระโปรงของเธอและค่อยๆนวดก้นของเธออย่างช้าๆ เขาซุกไซ้บริเวณหัวไหล่เธอ หนวดของเขากระทบไหล่เธอ ทำให้เธอหายใจแรงขึ้นด้วยความเสียว และเขาพูดกับเธอว่า "อยากเล่นเสียวๆกันหน่อยไหม"เขายื่นมือไปจับที่ขาเธอ" ถ้าเจ็บและยังละอายใจก็อย่าตะโกนเสียงดังเกินไป ! "
เฉินซิงเหย้าทำจริงเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นแค่เครื่องมือในการระบาย
เขาอุ้มเธออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เปิดม่านออก และผลักเธอชิดหน้าต่าง และบุกเข้าไปโดยตรงและเสียบเข้าออกอย่างรุนแรง แม้ว่าเธอจะเคยมาหลายครั้ง แต่เธอก็ยังเจ็บปวดเกินกว่าจะรับได้
เย่เสวี่ยจู๋หายใจอย่างหอบและมองไปข้างล่างอย่างสั่นๆ เธอมองลงไปข้างล่างเห็นเงาคนแกว่งไปมาสายตาของเธอเหมือนจะเหลือบมองขึ้นไปชั้นบน เธอตกใจและรีบงอตัวของเธออย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกเขาเบียดติดกำแพง
เธอขอร้องเขาว่า: "อย่า อย่าทำแบบนี้"
เขาอ้าปากค้าง และจูบบริเวณที่เสียวที่สุดของซอกคอของเธอ“ แบบไหนเหรอ?”
เย่เสวี่ยจู๋: "อย่าทำตรงนี้ คนข้างนอกเห็น …เบาๆหน่อย ฉันเจ็บมาก"
"เจ็บเหรอ" เขายิ้มอย่างเย่อหยิ่งข้างๆใบหูของเธอ "มันเจ็บหน่ะถูกแล้ว ฉันจะทำให้เธอเจ็บยิ่งกว่านี้!" เขาพยายามอย่างหนัก และเธอก็เจ็บปวดมากจนไม่สามารถงอกตัวได้ น้ำตาเธอหลั่งรินไปกลางอากาศ
เมื่อเขาทำภารกิจเสร็จ เขาก็ลุกออกไป ทิ้งเธอลงที่พื้น และเอากระโปรงปิดหน้าเธอ คาดเข็มขัดแล้วพูดเยาะเย้ยว่า "พอใจหรือยัง"
เย่เสวี่ยจู๋กัดริมฝีปากของเธอ และดื้อทีี่จะไม่พูดอะไร
เขานั่งยองๆ มองไปที่เธอ“ เมื่อกี๊เรียกมันว่าแรงนะ ทำอย่างแข็งแกร่ง”
เย่เสวี่ยจู๋ไม่กล้าที่จะยั่วอารมณ์เขา เธอส่ายหัวด้วยความตกใจ "ไม่ ไม่ มันเป็นความสมัครใจของฉัน ฉันผิดไปแล้ว"
จากนั้นเฉินซิงเหย้าก็หยิกริมฝีปากของเธออย่างความพึงพอใจ เผยให้เห็นฟันขาวของเธอ
เวลาที่เขายิ้มนั้นหล่อมากเลย ราวกับว่าวันที่มีแดดจัดแสงสาดส่องไปทุกทิศทาง เสน่ห์ของเขาน่าดึงดูดใจและยังทำให้ผู้คนรู้สึกดีอีกด้วย
แต่ตัวจริงเขาคือปีศาจ!
เขาทำเหมือนผู้หญิงที่ชอบระบายอารมณ์ ไม่สิ เขาไม่ได้คิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ บางทีเขาก็แค่ทำตัวเหมือนสัตว์ที่ไม่มีศักดิ์ศรี
เย่เสวี่ยจู๋กลัวเขา แม้เวลาผ่านไปหลายปี เธอก็ยังคงกลัวเขา เขาสามารถใช้นิ้วหยิกตัวเองจนตายได้อย่างง่ายดายเหมือนบี้มด
เฉินซิงเหย้าไม่ได้อยู่ในห้องนี้นาน หลังจากเสร็จภารกิจ เขาสูบุหรี่หนึ่งมวลแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว
เย่เสวี่ยจู๋มองไปที่ห้องรับรองว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยลมหายใจแห่งความรักระหว่างชายและหญิง
กลิ่นนี้ยังผสมกับกลิ่นอันโหดร้ายอันเป็นเอกลักษณ์ของเฉินซิงเหย้า ราวกับเตือนตัวเองว่า เธอแย่แค่ไหน เธอไม่ต้องการอยู่ที่นี่ต่อไปแม้แต่นาทีเดียว
เย่เสวี่ยจู๋ไม่ได้อาบน้ำ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกจากห้องรับรองพร้อมกับเรื่องยุ่งๆที่เฉินซิงเหยาทิ้งไว้ให้เขา
สนามกอล์ฟตั้งอยู่ในเขตชานเมือง เธอใช้ประโยชน์จากไฟถนนที่สลัวเดินตามถนนอันยาวไกล
เธอม่อาจจะรอแท็กซี่ได้
ถนนเปล่าเปลี่ยวเส้นนี้ยาวไกล และไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยความเศร้า และดูเหมือนว่าจะไม่มีที่จุดสิ้นสุด แม้แต่แสงดาวยังเหมือนจะดับลงได้ทุกเมื่อ
ในที่สุดก็เจอรถคันหนึ่งแล่นผ่านไป แต่กลับเป็นกลุ่มคนที่ดื่มสุราและพยายามหาผู้หญิงมาสนุกสนานด้วยกัน ในรถพวกเขายังคงผิวปากใส่เธอ ลวนลามเธอและพูดว่า: "สาวน้อย ดึกดื่นขนาดนี้คุณยังมาคนเดียว อยากให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไม๊? "