ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 408 กลับตาลปัตร [รีไรท์]
ตอนที่ 408 กลับตาลปัตร [รีไรท์]
ฉู่หลิวเยว่ตกใจจนแทบไม่รู้จะเอ่ยเอื้อนคำใดออกมานานพักใหญ่
บทลงโทษหรือ?
ซั่งกวนเยว่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว อีกทั้งยังต้องจบชีวิตอย่างน่าอนาถเพียงนั้น คนที่ตายไปแล้วจะมีสิทธิ์ลงโทษเขาได้อย่างใด?
นางต้องการย้ำเตือนกับตัวเองว่ามู่ชิงเห่อไม่ได้ทรยศนาง
แต่ทว่าทุกสิ่งที่นางได้เห็นมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ กลับพิสูจน์ให้เห็นว่ามู่ชิงเห่อนั้นมีแนวโน้มที่จะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของนาง ตั้งแต่ก่อนที่นางจะเสียชีวิตเสียอีก
มิเช่นนั้นผลที่ตามมาคงไม่เป็นเช่นนี้
ทว่าเขายังคงเป็นรองแม่ทัพระดับสูง ราวกับว่าการตายของนางนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
แม้ว่าความจริงแล้วเขาเองก็มีส่วนเหยียบย้ำนางเช่นกัน…
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ฉายแววเจ็บปวดออกมาแวบหนึ่ง
นัยน์ตาเรียวสวยมองมู่ชิงเห่อที่ดูเหมือนเจ็บปวดรวดร้าวเสียจนนางเกือบจะคิดว่าเขาสำนึกผิด และเสียใจกับนางจริงๆ
แต่ความเจ็บปวดเหล่านี้หรือ จะเทียบกับความทรมานที่นางเคยเผชิญได้?
ฉู่หลิวเยว่ระงับคลื่นอารมณ์แปรปรวนในใจตัวเองอีกครั้ง
ไม่ว่าอย่างใดตอนนี้นางก็ไม่สามารถไว้ใจมู่ชิงเห่อได้อีกแล้ว
แต่โชคดีที่ดูเหมือนว่าขณะนี้เขาจะไม่ได้ยินเสียงของนาง มิฉะนั้นหากได้ยินเกรงว่าคงจะเกิดปัญหาวุ่นวายมากมายตามมาเป็นแน่
พีระมิดสีเงินนี้แปลกจริงๆ นางสามารถเห็นสถานการณ์ในสุสานของจักรพรรดิเกือบทั้งหมดได้จากตรงนี้ และผู้คนข้างในก็ได้ยินเสียงของนางเช่นกัน
เสมือนว่าวัตถุขนาดเล็กนี้คือตัวควบคุมระบบทั้งหมดของสุสานจักรพรรดิ
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นระรัวด้วยความใคร่รู้อีกครั้ง พลันยกมือขึ้น และเหยียดออกไปยังพีระมิดด้านหน้า
กึก!
ทว่าก่อนที่นางจะได้สัมผัสมัน กลับได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นเสียก่อน
ฉู่หลิวเยว่ขยับตัวอีกรอบ และครั้งนี้นางได้ยินเสียงนั้นดังชัดเจน
เสียงนั้นดังมาจากพีระมิดนี่จริงๆ ด้วย หัวใจเต้นแรงขึ้น ก่อนจะสาวเท้าไปอ้อมไปยังอีกด้านหนึ่ง
ครู่ก่อนที่นางยืนอยู่ตรงนั้น สายตาของนางกวาดมองได้เพียงกระจกสามด้านของพีระมิด แต่ไม่สามารถมองเห็นด้านสุดท้ายที่อยู่ตรงข้ามได้
ทว่าเสียงเมื่อครู่…มันดังมาจากด้านนั้นแน่ๆ
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองอย่างตั้งใจ แต่จู่ๆ ก็จำต้องตกตะลึง
กระจกบานสุดท้ายนี้ ไม่มีภาพใดปรากฏเลย
ไม่สิ พูดให้ถูกคือพื้นผิวของกระจกด้านนี้ถูกปกคลุมไปด้วยม่านมวลสีดำทมิฬทั่วทั้งบาน
กระจกอีกสามบานที่เหลือดูสะอาดตา ไม่ว่าฉากใดก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่บานสุดท้ายนี้เป็นเพียงบานเดียว…
เมื่อฉู่หลิวเยว่มองย้อนกลับไป ก็พบว่านี่คือตำแหน่งของธาตุ ‘ไฟ’
ภายในหัวมังกรสีแดงยังคงมีน้ำพุ่งออกมา และไหลลงสู่ทะเลสาบอย่างต่อเนื่อง ราวกับไม่มีสิ่งใดผิดปกติ
ทว่าฉู่หลิวเยว่กลับเริ่มไม่สบายขึ้นมาทีละน้อย
พีระมิดนี่ควรจะฉายภาพสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสุสานของจักรพรรดิได้ทั้งหมด แต่ตอนนี้กระจกบานหนึ่งของมันกลับถูกปิดกั้นอย่างกะทันหัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นางไม่รู้เลยว่าขณะนี้เกิดเหตุอันใดขึ้นในด่านแห่งธาตุไฟ
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
การคาดเดา และความกล้าก็บังเกิดขึ้นในจิตสำนึกของฉู่หลิวเยว่
เป็นไปได้หรือไม่ว่า มีใครบางคนเข้าไปที่นั่น และใช้วิธีการบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้นางเห็นสถานการณ์ด้านใน
เมื่อคิดเช่นนี้ หัวใจของฉู่หลิวเยว่ก็ห่อเหี่ยวพลันหดตัวลงราวก้อนกลมๆ
แม้แต่ชายผู้แข็งแกร่งอย่างมู่ชิงเห่อยังบาดเจ็บปางตายเพียงนี้ แล้วคนที่ไม่มีทักษะจะผ่านด่านมาได้หรือฝ่ายนั้นกลัวนางเห็นภาพอันใดกันแน่
ฉู่หลิวเย่วเริ่มจมอยู่ในความคิดอันซับซ้อน
นางกัดฟันแน่น และในที่สุดก็คว้าพีระมิดสีเงินมาถือไว้ในมือ
มันเย็นจัดจนฝ่ามือแทบแข็ง
ไอเย็นแพร่กระจายออกมาจากมันเป็นวงกว้าง จนสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตาเปล่า ก่อนเกล็ดน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นจะปกคลุมไปทั่วฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่อย่างรวดเร็ว
ฉู่หลิวเยว่ตกใจ และต้องการปล่อยมันในทันที!
ทว่าขณะเดียวกัน หยดน้ำในจุดตันเถียนของนางก็ปั่นป่วนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
เกิดเปลวไฟสีแดงก็ปะทุขึ้นจากฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่
ฟู่!
พลังของสองธาตุที่ต่างกัน กำลังปะทะกันอย่างดุเดือด
เกล็ดน้ำแข็งแตกกระจาย
ประกายไฟร้อนปลิวว่อน
ฉู่หลิวเยว่รับรู้เพียงว่าฝ่ามือของนางชาไปหมด แทบจับความรู้สึกไม่ได้
นางถูกแรงอัดของพลังปราณกระแทกเข้าอย่างแรงจนควบคุมไม่ได้
ทว่าในที่สุดนางก็ควบคุมพีระมิดในมือได้ พลันก้าวเท้าออกจากตำแหน่งนั้น
เปลวเพลิงสีแดงพุ่งพรวดออก และห้อมล้อมพีระมิดไว้อย่างสมบูรณ์
เมื่อมือสองข้างถูกปกป้องด้วยชั้นของเปลวเพลิงเสมือนเกราะ สุดท้ายฉู่หลิวเยว่จึงค่อยๆ ผ่อนคลายลมหายใจที่พรั่งพรูไปด้วยความสะพรึงกลัวเมื่อครู่ออกมา
และพอเห็นว่าสิ่งนั้นถูกชั้นเปลวเพลิงกำราบแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ความหนาวเย็นที่บรรจุอยู่ในนั้นไม่ธรรมดาเลย
หากช้ากว่านี้ฝ่ามือของนางจะต้องถูกแช่แข็งแน่นอน
ทว่าขณะที่มุมปากเรียวสวยกำลังจะยกยิ้มขึ้นด้วยความพอใจ กลับต้องชะงักค้าง
เนื่องจากพื้นที่เดิมที่พีระมิดสีเงินเคยตั้งอยู่นั้นถูกแช่แข็งไปแล้วจริงๆ
อีกทั้งยังแพร่กระจายความเย็นออกมาเรื่อยๆ ด้วย
ฉู่หลิวเยว่ถอยหลังกลับทันที อย่างใดก็ตามความเร็วของการแช่แข็งพื้นที่นั้นเร็วมาก เพียงชั่วพริบตามันก็ขยายอาณาเขตน้ำแข็งจากกลางอากาศสู่พื้นหยกสีดำ
การบีบเค้นของพลังปราณที่น่ากลัวกำลังก่อตัวขึ้นมา ทางฉู่หลิวเยว่เองก็ถูกพลังนั่นข่มจนแถบหายใจไม่ออก เพียงพริบตาร่างของนางก็ถูกมวลพลังผลักกระเด็นออกไปจนติดขอบของลานสี่เหลี่ยม!
เท้าของนางข้างหนึ่งหลุดออกไปจากลาน จนทำให้ร่างของนางแกว่งไปมาสองสามครั้ง และเป็นเรื่องยากสำหรับนางที่จะทรงตัวไม่ให้หล่นลงไป
แต่เพราะเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ปิ่นปักผมบนศีรษะของนางจึงตกลงไปในทะเลสาบ
ฉู่หลิวเยว่เผลอกันไปมองโดยไม่รู้ตัว และภาพที่เห็นนั้นทำเอาหัวใจนางแทบหยุดเต้น
หลังจากที่ปิ่นปักผมตกลงไปในทะเลสาบ กลับไม่เกิดเสียงใดๆ ดังขึ้นเลย
เพราะทันทีที่มันสัมผัสกับผิวหน้าของทะเลสาบ ปิ่นปักด้ามนั้นก็แข็งตัวอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตาปิ่นปักผมด้ามนั้นก็กลายเป็นก้อนแข็งบางๆ ที่ลอยอยู่บนทะเลสาบ พลันจมลงสู่ก้นทะเลสาบอย่างเงียบเฉียบ
ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น!
น้ำใสในทะเลสาบยังคงนิ่งสงบ ราวกับว่าการร่วงของปิ่นปักผมไม่มีผลกับมันเลย และทันใดนั้น นางก็มองเห็นแสงระยิบระยับนับไม่ถ้วนส่องประกายอยู่ที่ก้นบึ้งของทะเลสาบ
ฉู่หลิวเยว่เพ่งมองอีกครั้ง พลันใบหน้างามก็เต็มไปด้วยความสยดสยองทันที
ที่ด้านล่างของทะเลสาบใสสะอาดแห่งนี้ มีก้อนน้ำแข็งที่มีรูปร่างแตกต่างกันมากมายจมอยู่นับไม่ถ้วน
ความจริงแล้วแสงระยิบระยับเหล่านั้น มาจากการสะท้อนของเกล็ดน้ำแข็งละเอียดนับไม่ถ้วน
ความรู้สึกเย็นวาบไล่ขึ้นมาตามฝ่าเท้าของฉู่หลิวเยว่
หากเมื่อครู่นางตกลงไปละก็…
เพล้ง
มีเสียงบางอย่างแตกกระจายดังมาจากด้านหลัง
ฉู่หลิวเยว่หันหัวกลับไปมองทันควัน และต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าพื้นที่ทั้งหมดเหนือพื้นหยกสีดำถูกแช่แข็งอย่างสมบูรณ์ และมันกำลังลามมาถึงเท้านางด้วย!
เสียงเมื่อครู่นี้เกิดจากการที่ฐานหยกรองรองแรงบีบอัดของพลังปราณไม่ไหว จึงเกิดรอยแยกแล้วแตกเพล้งออกอย่างกระทันหัน
เปลวเพลิงในมือของฉู่หลิวเยว่ยังคงแผดเผาอย่างแรง แต่ถึงอย่างใดนางก็ยังรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
ดูเหมือนพื้นที่ทั้งหมดจะกลายเป็นห้องใต้ดินน้ำแข็งขนาดใหญ่ พร้อมอากาศเย็นอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่กระจายอยู่ทุกทิศทุกทาง
ฉู่หลิวเยว่กัดฟัน พลันกระตุ้นเปลวไฟสีแดงเพื่อสร้างค่ายกลล้อมรอบตัวนาง!
ด้วยวิธีนี้ ในที่สุดนางก็ปิดกั้นอากาศเย็นไม่ให้เข้ามาโดนตัวได้ อย่างใดก็ตามทุกสิ่งรอบตัวนางกลับไม่ได้ช้าลงตามการกระทำของนาง
พื้นที่ด้านนอกยังคงถูกแช่แข็ง และสุดท้ายมันก็แพร่กระจายไปยังผิวหน้าทะเลสาบ
หลังจากจมอยู่ท่ามกลางความเงียบพักใหญ่ ทั่วทั้งทะเลสาบก็เริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง โดยมีแท่นลานหยกสีดำเป็นจุดศูนย์กลาง
เมื่อชั้นน้ำแข็งหนาทึบปกคลุมทั่วทั้งทะเลสาบ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกอึดอัดในใจ ราวถูกมือที่มองไม่เห็นบีบกำหัวใจของนาง
วินาทีถัดมา ก็เกิดรอยร้าวขึ้นเหนือชั้นน้ำแข็ง
แผ่นน้ำแข็งทั้งหมดเริ่มจมลงสู่ก้นทะเลสาบอย่างเงียบๆ
ในเวลาเดียวกัน น้ำในทะเลสาบที่ใสสะอาดก็พุ่งขึ้น และกลืนก้อนน้ำแข็งเหล่านั้นลงไปอย่างรวดเร็ว
แท่นหยกสีดำใต้เท้าของฉู่หลิวเยว่แตกออกจากกัน พลันร่างของนางก็ล้มลงอย่างควบคุมไม่ได้