ยอดวิถีแห่งปีศาจ - ตอนที่ 169 สู่เมืองหลวงจักรวรรดิ
169 สู่เมืองหลวงจักรวรรดิ
17 – 22 นาที เล่ม 6
ผมตื่นขึ้นขึ้นโดยเสียงโทรเรียก
ผมลุกขึ้นจากเตียหลังจากถูกสร้างความรำคาญโดยเสียงเรียกเข้าอิเล็กทรอนิกส์และใช้งานเครื่องปลายทางเพื่อหยุดเสียงที่ดังระหว่างสู้กับความอยากกลับไปนอน
“อุ่เก่ะ”
ผมเปิดตาหนักๆแล้วส่งเสียงครวญทันทีเมื่อผมอ่านชื่อของคนโทรมา จากใจผมแค่อยากเมินเธอ แต่น่าจะมีผลลัพธ์ตามมาน่ากลัวภายหลังถ้าผมทำแบบนั้น…… และดังนั้นเอง ผมยอมแพ้ให้โชคชะตาแล้วกดปุ่มรับ
『สวัสดีตอนเช้า– แค่ชุดแบบไหนที่นายคิดว่าจะใส่?』
ภาพฉายของคนสวยผมบลอนด์ ตาสีแดงปรากฏและทำให้ห้องสลัวๆสว่างขึ้น ผอยากจะถามว่านั้นเป็นวิธีซึ่งเธอทักทายคนอื่นในตอนเช้าหรือ แต่ผมระงับตัวเองจากการทำอย่างนั้น
เธอโปร่งใสและส่องแสงแต่มันไม่ได้เหมือนเธอคือผีหรืออะไรบางอย่ง
ห้องนี้มีอุปกรณ์โฮโลแกรมติดตั้งอยู่ ดังนั้นเมื่อใช้ประโยชน์มัน ภาพขนาดเท่าคนจริงของเธอได้ถูกฉายออกมาข้างในห้องหลังจากสัญญานผ่านแผ่นเหล็กรอบตัวถังหนาๆหลายชั้นพร้อมพื้นที่ภายนอกกระหว่างนั้น
“ฉันก็ใส่แค่บ็อกเซอร์เมื่อฉันนอน ถ้าเธอไม่อยากเห็นฉันเกือบเปลือยในแค่กางเกงใน ถ้าอย่างนั้นอย่างน้อยอย่าเรียกฉันตรงๆเร็วมากในตอนเช้าแล้วติดต่อกับเมย์ก่อนเพื่อที่ฉันจะได้ไปแต่งตัวก่อนได้”
『นายไม่คิดว่ามันเริ่มได้เวลาสายแล้วหรือไงกัน? นายเรียกนี่ว่าเช้าเหรอ?』
ผมโบกมืออย่างปฏิเสธไม่ใส่ใจคำพูดกับความสวยหรี่ตาตรงหน้าผม
“ปรกติแล้วเมย์เป็นหนึ่งคนผู้รับมือกับมัน แต่เธอต้องได้รับการดูแลรักษาประจำน่ะเห็นมั้ย…… ดังนั้นฉันเลยจบที่การได้อยู่กะกลางคืนเมื่อวานแล้วตื่นตลอดเวลาจนถึงเช้านี้”
หลังจากพูดอย่างนั้น ผมหาวใหญ่แล้วหันไปสู่โฮโลแกรมขนาดเท่าตัวจริงอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้น มีธุระอะไรกับฉันวันนี้หือ ผู้บัญชาการเซเรน่า โฮลซ์?”
หลังจากจ้องผมผู้ยังคงหลุดๆเนื่องจากขาดการนอนเธอแสดงออกถึงรอยยิ้มที่เกร็ง
『ฉันยังเป็นยานอวกาศตรีนะ รู้มั้ย』
—————————————
“อะร้า? บางคนไวนะเนี่ยวันนี้”
มันช่วยไม่ได้เพราะผมตื่นเต็มที่แล้วดังนั้นผมมุ่งหน้าไปที่ห้องกินข้าวหลังจากทำให้ตัวสดชื่นสักหนึ่งนิดแล้วเจอเอลม่ากับลังนั่งสบายๆอยู่ข้างในมัน
“ยานอวกาศตรีเซเรน่าปลุกฉันอ่ะ…… ให้ตายซี่ ทำไมเธอต้องทำให้ฉันตื่นสำหรับเรื่องเล็กๆอยู่ดีล่ะเนี่ย?”
“ขอแสดงความเสียใจด้วยถ้าอย่างนั้น”
เอลม่าแสดงรอยยิ้มอันขมขื่นหลังจากได้ยินว่าอะไรเกิดขึ้น
เธอคือส่วนหนึ่งของลูกเรือผม แต่เธอไม่ใช่มนุษย์ เอลม่าคือเอลฟ์ เอลฟ์ในมิติซึ่งเติมเต็มไปด้วปืนเลเซอร์กับยานอวกาศในความว่างเปล่าของอวกาศ และโคโลนีอวกาศใหญ่ยักษ์รู้สึกเหมือนไม่เหมาะสมเลย ไม่คิดอย่างนั้นหรือ? แต่บางทีมิตินี้คุ้นเคยกับผมแล้วเพราะผมไม่ได้พบว่ามันแปลกแล้วสำหรับตอนนี้
“อะไร? ทำไมอยู่ดีๆมาจ้องมองฉันแบบนั้นกระทันหัน”
“ฉันแค่กำลังคิดว่าเธอสวยเหมือนเคยเลยล่ะเอลม่า”
“นายไปกินยาอะไรมานี่…… แม้ว่านายจะชมฉันแบบนั้นฉันจะไมให้อะไรนอกจากกาแฟหรอก”
เอลม่าลุกจากเก้าอี้ของเธอพร้อมหน้าตาไปต่อไม่ถูกบนหน้า และจากนั้นไปสู่มุมแล้วสั่งคนทำอาหารผู้รู้ใจของเราเท็ตซุจิน V อันถูกติดตั้ง
ผมตัดสินใจจะถูกเธอเอาใจแล้วนั่งลงระหว่างชื่นชมหูน้อยๆน่ารักน่ารักของเธออันยื่นออกมาจากเส้นผมอ่อนนุ่มเป็นผ้าไหม ใช่ไม่สำคัญว่าคุณจะพูดมันอย่างไรเธอคือเอลฟ์แน่นอน และเอลฟ์นั่นใส่เสื้อผ้าทหารรับจ้างไซไฟมาพร้อมด้วยปืนเลเซอร์เหน็บเอวเธอใช่อย่างที่ผมคิด มันไม่สมจริงเล็กน้อย
“โอ้? บอสตื่นไวนะ บอส”
“สวัสดีนะ พี่ใหญ่”
ขณะผมองเอลม่าระหว่างเธอเตรียมกาแฟโดยใช้ทำอาหารออโต เสียงของคนอื่นๆดังจากทางเข้าห้องกินข้าว เมื่อผมหันไปหาต้นทางของเสียง ผมเห็นสองสาวผู้ดูคล้ายกันแต่สีผมไม่เหมือนกัน (หนึ่งแดงและอีกหนึ่งฟ้า) เข้ามาในห้อง
“สวัสดีตอนเช้า ฉันถูกปลุกให้ตื่นจากผู้บัญชาการเซเรน่าผู้ยิ่งใหญ่เห็นป่ะ”
“โว่ว ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ บอส”
สาวผมแดง ทีน่า นั่งต่อจากผม แฝดคนน้องผมฟ้า วิสเกอร์นั่งถัดจากพี่สาวเธอ
“พี่ใหญ่เอลม่า หนูขอชาด้วยจะได้มั้ย? หนูจะเอาแยมสตรอว์เบอร์รี่เหมือนเดิม”
“โอเค โอเค แล้วเธอล่ะวิสเกอร์?”
“อ-อืม……หนูเอาเหมือนกันกับพี่สาว หนูขอโทษสำหรับปัญหานะคะ”
เอลม่าปฏิเสธคำขอโทษของวิสเกอร์ด้วยการโบกมือแล้วส่งคำสั่งรายการอาหารเพิ่มสู่ทำอาหารออโต
“มีแผนอะไรวันนี้ ทั้งสองคน?”
“อืม ยังไงซะ เราเสร็จการบำรุงรักษาซ่อมแซมบนกฤษณะกับบัวดำแล้วเมื่อวาน หนูน่าจะอยู่เฉยๆแล้วผ่อนคลายกลับเข้าไปในห้องแล้วดูหนังโฮโลสักหน่อย แล้วเธอล่ะวิสเกอร์?”
“อึน หนูน่าจะค้นคว้าหาข้อมูล……อ๊ะ พี่สาวพี่เสร็จการรายงานรึยัง? เราต้องส่งมันไปเมื่อเราไปถึงเมืองหลวงนะ”
“อึ่ก พี่ลืมสนิทเลย อา ได้! พี่เดาว่ามันนงานเอกสารสำหรับพี่วันนี้…… และในที่สุดพี่ก็คิดว่าฉันผ่อนคลายได้แล้วด้วย
หลังจากน้องสาวทำให้จำได้ พี่สาวจมเข้าไปในบึงของความสิ้นหวังแล้วไหล่ห่ออยู่บนโต๊ะ
พวกเธอดูเหมือนมนุษย์เด็กๆเล็กๆ แต่จริงๆแล้วพวกเธอคือดวอร์ฟ พวกเธอไม่ได้ดูเหมือนแก่กว่านักเรียนมัธยมต้น แต่พวกเธอทั้งสองคนเป็นผู้ใหญ่ซึ่งถูกกฎหมายแล้ว อายุบนใบระบุตัวจนพิสูจน์ว่าเธออายุมากเท่ากับผม ดังนั้นผมช่วยไม่ได้นอกจากรู้สึกเหมือนความลึกลับเกี่ยวกับชีวภาพ เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อผมมองพวกเธอสองคน แม้ว่าพวกเธอคล้ายกับมนุษย์ผู้หญิงมากอย่างยิ่งใหญ่ พวกเธอมีลักษณะของดวอร์ฟอันถูกต้อง
อย่างแรก พวกเธอแข็งแรงอย่างบ้าคลั่ง ผมไม่สามารถเอาชนะพวกเธอได้เลยในการงัดข้อหรือพวกเธอทั้งสองคนยกผมโดยใช้แค่มือเดียวได้ ผมแม้แต่เห็นพวกเธอยกบาร์เบล 120 กิโลกรัมโดยเหงื่อไม่ออกสักหยดระหว่างการฝึกสักพักที่แล้ว แค่กล้ามเนื้อเธอทำมาจากกอะไรกัน? ผมแน่ใจว่าคุณถามคำถามมเดียวกันได้ ถ้าคุณเป็นพยานการกระทำของเธอแน่นอนลักษณะของดวอร์ฟเหล่านั้นไม่ได้มีจำกัดอยู่แค่พลังทางกายภาย เอ่อ อืม ผมเดว่าพวกมมันยังเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถของเธอในนแง่หนึ่ง พวกมันทั้งสองเป็นดวอร์ฟเขมือบเหล้าพวกเธอมีความอดทนสูงด้วย ดังนั้นมันเป็นคนละมิติกับผมผู้อ่อนแอกับเหล้าเต็มที่ และความอยากอาหารของพวกเธอมหาศาล แต่เธอไปเก็บอาหารกับเครื่องดื่มเหล่านั้นที่ไหนในร่างน้อยๆของพวกเธอนั้นกัน?
“รายงานหือ…… ปรกติแล้วเธอรายงานอะไรกันไม่ว่ายังไง?”
ผมจะไม่ไปถึงไหนในการคิดอะไรลึกลับให้เขียนดังนั้นผมเพียงแต่แสงความสนใจผมจากใจจริง
“อึ๋น? เราเขียนเกี่ยกับหัวเรื่องทั้งหลายแหล่นั้นแหละ แต่ประเด็นหลักๆเกี่ยวกับรายการบันทึกการซ่อมยานและข้อมูลเก็บสะสมรวมกันของเรา อืม เหมือนเราต้องระบุว่าอะไรซึ่งก่อปัญหา และมันสร้างผลลัพธ์อะไรตามมา เราก็จำเป็นต้องระบุว่าชิ้นส่วนไหนเสียหายหรือแตกหักลง แล้วมันเสียหายได้อย่างไร แล้วเราก็ต้องระบุรายละเอียดเมื่อเราเจอวัตถุดิบซึ่งไม่รู้จักและความเชี่ยวชาญการปรับแต่ง ที่เหลือมันก็เป็นชีวิตประจำวันขอเราที่นี่ และผลของการทดสอบระดับความเครียดประจำและเรื่องส่วนตัวอื่นๆ”
ทีน่ามุ่ยหน้าขณะเธออธิบาย สีหน้าขอเธอทำให้ชัดเจนวว่าเธอพบว่าทั้งหมดนั้นมันน่าเบื่อหน่ายมากแค่ไหน
“มันเพราะพี่ผลัดวันประกันพรุ่งปัดงานมาจวนเจียนตลอดไงพี่”
“น้องก็ตั้งใจเกินไป วิสเกอร์”
“เอาน่าทั้งสอคนอย่าสู้กัน”
เอลม่าปรากฏจากหน้าเราแล้วเข้าระหว่างพี่น้อง จากนั้นผมหยิบกาแฟ (จากการประดิษฐ์ 100%) ชาสองแก้ว (น้ำที่เหมือน) และหม้อของแยมสตรอว์เบอร์รี่ (ปลอม) จาากถาดแล้วนำมันแล้ววางงมันบนหน้าเราแต่ละคน แต่แค่เท็ตซุจินใช้อะไรทำแยมปล่อมกันหนอ? ผมครุ่นคิดกับความลึกลับนั้น สองสาวดวอร์ฟกินชาอย่างมีความสุข โอ้ พวกเธอดื่มอะไรซึ่งคล้ายกับชารัสเซียหือ
“อืม อร่ออย ไม่มีอะไรเหมือนสวัสดียามเช้าได้เท่ากาแฟเพื่อเริ่มวันแล้ว”
“แต่นายใส่นำตาลกับนมเยอะเลยนะ นายมีรสนิยมเหมือนเด็กๆเลยไม่ใช่เหรอ ฮิโระ?”
“ฉันไม่ได้เก่งกับของขมๆ ดังนั้นฉันไม่เก่งกับความขมผสมกับความเปรี้ยวของกรดเข้าไปอีก”
เพราะทั้งหมดมันเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัว มีหลายคนผู้ชอบกาแฟดำ แต่อย่างที่เอลม่าพูด ผมมีรสนิยมเหมือนเด็ก ดังนั้นการแฟดำเป็นไปไมม่ได้สำหรับผม ผพบว่ามันอร่อยมากกว่าที่ได้ยกินกาแฟนมกับน้ำตาลเยอะๆ
“ไม่ว่ายังไง เกิดอะไรขึ้นกับยานอวกาศตรีเซเรน่าล่ะ?”
“โอ้ ยังไงซะ มันค่อนข้างแปลก เธอถามฉันว่าฉันเรียนรู้วิชาดาบอย่างถูกต้องกับมารยาทอย่างเป็นทางการมั้ย เธอยิกฉันให้ทำเต็มที่ในการเชี่ยวชาญพวกมัน”
“…….นั่นทั้งหมด?”
“ใช่ นั่นทั้งหมด ทุกคนจะรำคาญถ้าพวกเขาตื่นเร็วตอนเช้าเพื่อจะถูกยิกเรื่องแบบนั้น”
ผมมไม่เข้าใจจริงๆ แม้ว่าผมไม่ได้อยู่ในกะกลางคืน มันยังไม่ใช่บางอย่างซึ่งคุ้มค่าที่จะมากวนผมในตอนเช้า บางทีเอลม่ากับพี่น้องช่างมีความคิดเกี่ยวกับเจตนาของยานอวกาศตรีเซเรน่าเพราะพวกเธอแลกเปลี่ยนการชำเลืองเล็กๆ
“อืม บางที่เธอแค่อยากเจอบอสแหละนะ บอส?”
“นั่นความคิดน่ากลัวเลยล่ะ”
“มุ? น่ากลัวเหรอ……?”
ริมฝีปากวิสเกอร์ขดสู่รอยยิ้มเกร็งๆ
“เอาน่าไม่คิดเหรอว่าการได้รับสายตอนเช้าจากยานอวกาศตรีกองทัพจักรวรรดิแค่สำหรับเหตุผลนั้นมันน่ากลัวน่ะ?”
“ไม่ใช่บอสคิดมากไปเหรอนั่น?”
“ตอนนี้ดูนี่นะทีน่า ฉันไม่มมีเจตนาอย่างแน่นอนที่สุดในการจะเข้าไปในความสัมพันธ์แบบนั้นกับยานอวกาศตรีเซเรน่า และฉันบอกเธอตรงๆเกี่ยวกับมันแล้วด้วยเหมือนกัน และแม้ว่าอย่างนั้น เธอยังโทรมาเรียกฉันในตอนเช้าด้วยเหตุผลนั้น นั่นค่อนข้างน่ากลัวนะ”
“บ-บอสเกลียดมันมากขนาดนั้น……? แต่ทำไมล่ะ? ยานอวกาศตรีเซเรน่าเป็นคุณนายขุนนางและเป้นนเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งประสบควาามสำเร็จ ถูกไหม? บอสจะได้แต่งงานเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปถ้าบอสเลือกเธอ ถูกมั้ยนะ?”
เข้าใจแล้ว แต่งงานเลื่อนตำแหน่งขึ้นไป หือ แน่นอนว่านั้นก็จริงด้วยเหมือนกัน แต่คำถามยังคงเป็นครอบครัวของยานอวกาศตรีเซเรน่าจะยอมรับผมหรือไม่อยู่ดี
“เมื่อคิดเกี่ยวกับมัน อีกฝ่ายเป็นคุณนาขุนนางขอองแท้จากตระกูลมาร์ควิส ด้วยกันกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ถ้าทหารรับจ้างจากที่ไหนก็ไม่รู้ไปลงมือสกปรกกับคุณหนูผู้เลอค่า ก็จะมีโอกาสสงที่ป่าป๊าและปู่จะจับดาบเพื่อส่งมอบทหารรับจ้างคนนั้นสู่ความเวิ้งว้าง หรือ ถ้าฉันเป็นพวกเขา ฉันจะฆาตกรรมไอ้คนโชคไม่ดีนั้น ไม่ปรานี”
“ยังไงซะ ฉันก็ว่า แต่นายไม่รู้หรอกว่านั้นจะเกิดขึ้นจริงๆมั้ย รู้มั้ยล่ะ”
เอลม่าพึมพำอย่างนั้นแล้วมองไปทางอื่น อืม ใช่ ผมว่า
“นั่นเรอะปัญหา? แตไม่ใช่ทุกอย่างจะไม่เป็นไรแล้ว ถ้ายยานอวกาศตรีเซเรน่ารับรู้ถึงบอสนะ บอส?”
“มืม ฉันล่ะสงสัย? ไม่ใช่ขุนนางยุ่งกับอะไรเหมืออนการแต่งงานการการเมืองกับหมั้นในวัยเด็กเหรือ พี่? ถ้าพีี่คิดเกี่ยวกับมันแบนั้น ยังมีโอกาสดีที่จะเข้าไปมีปัญหา ถูกมั้ยนะ?”
“เข้าใจแล้วนะ เธอฉลาดนะ วิสเกอร์”
“มันแค่ความคิดสมมุตินะ”
ผมสสัยนิดหน่อยว่าทำไมเอลม่าไม่พูดขึ้นมาขณะพี่น้องดวอร์ฟคุยเกี่ยวกับหัวเรื่องต่อ เมื่อมาคิดดูแล้วประวัติต้นกำเนิดของเอลม่ายังคงเป็นความลึกลับอันยิ่งใหญ่กับที่เหลือของลูกเรือทั้งหมด…… เพาะเธอทำตัวแปลก บางทีมันมีบางอย่างในการคุยกันนั้นซึ่งกวนใจเธอ
“……”
“อ-อะไร……?”
เอลม่าสะดุ้งแล้วถอยกลับเล็กน้อยมื่อสังเกตผมจ้องมองเธอ
“ไมม่ มันไม่มีอะไร ฉันแค่ชื่นชมความสวยของเธอน่ะ เอลม่า”
“อ-อะไรของนายน่ะ…? ฉันจะไม่บริการอะไรอื่นอีกแล้วล่ะ เห็นมั้ย”
หน้าเอลม่าแดงขึ้น แล้วเธอหันหน้าไปอีกครั้ง
“ว้าว ดีจัง– ถ้าอย่างนั้น หนูล่ะบอส? แล้วหนูล่ะ?”
“อา จ้ะ จ้ะ เธอก็น่ารักด้วยเหมือนกันทีน่า เธอก็ด้วยวิสเกอร์ ฉันหมายถึงมันจริงๆนะ
“อ่ะฮ่าฮ่า ขอบคุณมากๆนะ”
“มันฟังดูเหมือนไม่ได้จริงจังเต็มที่เลยนะ”
ผมจิบกาแฟซึ่งเย็นแล้วของผม หรือ กาเฟโอแลของผม ขณะทีน่าตีแขนผมเพราะเธอยังไม่พอใจกับคำชื่นชมแบบเมินเฉย
—————————————
พฤติกรรมของเอลม่าซังแปลกไปเหรอ?”
“นั่นอะไรที่พี่คิด มีความคิดอะไรมั้ย มีมิ?”
หลังจากเหตุการเล็กๆในห้องกินข้าว ผมดำเนินการกินข้าวเช้าเบาๆ แล้วไปต่อห้องฝึกสำหรับการฝึกรายวัน อาบน้ำเพื่อล้างเหงื่อ แล้วมุ่งหน้ามาห้องมีมิทันทีหลังจากนั้น
ห้องของมีมิค่อนข้างจะออกสาวๆ… โอ้ ผมล้อเล่นกับใครกันนี่?
มันค่อนข้าง เอ่อ ทันสมัยและมีแนวของตัวเอง
ห้องของผมค่อนข้างสปาร์ตัน แต่ห้องมีมิเติมเต็มด้วยสติกเกอร์ดูเท่ๆและโปสเตอร์ ด้วยกันกับเครื่องประดับเป็นโซ่และเข็มขัดปืนอยู่ตามกำแพง ปืนเลเซอร์ซึ่งผมซื้อให้เธอกลับไปเมื่อนานมาแล้ก็แสดงอยู่บนชั้นวางปืนพกบ้นชั้นวางของโต๊ะเคียงเตียง มีมิเก่งกับการตกแต่งอะไรหลายๆอย่างมันดูเหมือนว่า
“มืม……เมื่อมาคิดดูแล้วเธอดูเหมือนอารมณ์ไม่ดีเมื่อเราตัดสินใจจะไปเมืองหลวงจักรวรรดิกัน”
มีมิประกาศอย่างนั้นแล้วเอียงหัวสงสัย
สาวน้อยผู้น่วมทั้งทางกายและทางใจเมื่อผมได้เจอเธอครั้งแรกเปลี่ยนร่างเป็นสาวน้อยค่อนข้างกระฉับกระเฉง มันจะเป็นเพราะเธอได้รับอาหารและออกกำลังกายมากพอ
บางทีงานรายวันของเธอในฐานะโอเปอร์เรเตอร์ก็ทำให้มันดีสำหรับสภาพจิตใจกับสภาพอารมณ์ของเธอด้วย
“ถ้าอย่างนั้นน้องก็ไม่มีความคิดว่าทำไมด้วยเหมือนกันเหรอ หือ”
“หนูขอโทษ แต่หนูคิดถึงเหตุผลเป็นไปได้ว่าทำไมเธออเป็นแบบนั้นไม่ได้เลย”
“ไม่ มันไม่ใช่อะไรซึ่งหนูต้องขอโทษ มันเป็นบางอย่างซึ่งพี่ต้องรับผิดชอบในฐานะกัปตัน แต่ จริงๆนะ… แค่เกิดอะไรขึ้น? ฉันเดาว่าฉันจะถามเมย์……”
“บางทีเมย์ซังรู้บางอย่าง”
“เพราะทั้งหมดมั้นคือเมย์แหละเนาะ……”
ผมรู้เพราะผมคือหนึ่งคนนั้นซึ่งออกแบบเธอ แต่คุณสมบัติขอองเมย์มันอยู่ ณ เส้นขีดจำกัดของการเหนือความปรกติไปเยอะๆ ผมจะรู้สึกว่ามันไม่น่าแปลกที่สักวันหนึ่งเราจะพบว่าจริงๆแล้วเธอรู้มากกว่าเราด้วยตัวเอง พูดจากใจ เมย์ส่งมอบความรู้สึกเหมือนเธอสามารถทำอะไรก็ได้และทุกอย่างเลย
“แต่ในทางกลับกัน เอลม่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว…… หนูไม่คิดว่ามันเป็นความคิดดีที่จะขุดคุ้ยปูมหลังจากเธอโดยไม่บอกอะไรกับเจ้าตัวเอง”
“นั่นก็จริงด้วย……”
เอลม่าต้องมีเหตุผลว่าทำไมเธอเก็บสิ่งต่างๆไว้เป็นความลับระหว่างเรา บางทีเธอรู้สึกว่ามันจะไม่ได้ทำอะไรดีถ้าเธอแค่เลิกโกหก หรือ เราอาจจะเข้าไปมีปัญหาเมื่อรู้วว่าเธอซ่อนอะไร สองเหตุผลเหล่านั้นเกิดขึ้นง่ายมาก
“แต่หนูสงสัย พื้นฐานจากนิสัยขอเธอ มันเป็นไปได้สูงว่าเธออาจตัดสินใจหายไปจากข้างเราแทนการพาเราเข้าไปมีปัญหา ถูกมั้ย?”
“เพราะทั้งหมดเธอทำอะไรเร็วด้วยใจของตัวเองเร็วๆและรีบๆ นั่นแหละเอลม่าซัง”
มีมิกับผมชำเลืองมองให้กันแล้วพยักหน้าให้กัน
—————————————
“ถ้าอยางนั้น นั่นนำไปสู่การมาถามหนูว่าอะไรเกิดขึ้น?”
“นั่นถูกแล้วมีความคิดเกี่ยวกับว่าอะไรเกิดขึ้นมั้ย?”
มีมิกับผมมุ่งหน้าไปแล้วตัดสินใจไปเยือนห้องนักบิบัวดำ เรามาที่นี่เพื่อพบเมย์; เมดดรอยด์คุณสมบัติสูงสุดยอดผู้ที่ผมเทงานอดิเรกและความหลงใหลเข้าไปข้างในเมื่อออกแบบเธอ เธอมีหน้าอกใหญ่ ผมดำยาว และใส่เสื้อผ้าเมดคู่มากับแว่น แล้วเธอก็มีสมองโพซิตรอนสมรรถนะสูงซึ่งเป็นนักบินหลักกับผู้ดูแลบัวดำ
“หนูไม่รู้ว่าเอลม่ากังวลเกี่ยวกับเรื่องอะไรตรงๆ”
“เข้าใจแล้ว……”
ผมผิดหวังนิดหน่อย ถ้าอย่างนั้นแม้แต่เมย์ก็มีสิ่งที่เธอไม่รู้หือ
“อย่างไรก็ตามม หนูมีการคาดเดาจากข้อมูลซึ่งไม่ตรบเกี่ยวกับเหตุผล หนูเชื่อว่าันมีโอกาสสูงที่มันจะตรง
“โอเค? พูดต่อเลย”
“ค่ะ ครอบครัวของเอลม่าน่าจะอยู่ในเมืองหลวงจักรวรรดิบางทีเรื่องที่เธอกังวลเกี่ยวกับนั่น”
“ถ้าอย่างนั้นบ้านเธอคือเมืองหลวงหือ”
“ยังไงซะหนูมีลางสังหรณ์ เธอรู้เยอะเมื่อมันเป้นเรื่องขุนนางและสังคมขุนนาง”
ผมสงสัย ณ จุดหนึ่งจริงว่าเเธอเป็นคุณนายหนีออกจากบ้าน ขณะสำหรับครอบคัวเธออยู่ในเมืองหลวง เธอเริ่มทำตัวแปลกจริงเมมื่อเธอได้ยินว่าเราจะไปที่นั่น ดังนั้นมันไม่ได้คาดไม่ถึง
“เอลม่าซามะน่าจะเป็นลูกสาวของตระกูลวิสเคานต์ผู้ดูแลในเมืองหลวง”
“วิสเคานต์ผู้ดูแลเหรอ?”
มีมิส่งเสียงตกใจเมื่อเธอได้ยินการยืนยันอันกล้าหาญของเมย์
ตระกูลววิสเคานต์ผู้ดูแล พูดอีกอย่าง พวกเขาเป็นขุนนางที่ไม่มีดินแดนและรับหน้าที่ทางการบางอย่างในเมืองหลวงจักรวรรดิ ตอนแรกผมคิดว่าจักรวรรดิกรากันเป็นชาติซึ่งมีแค่มนุษย์ได้รับอำนาจสูงสุดด แต่มันดูเหมือนว่าผมผิดในแง่หนึ่ง จักรวรรดิเป็นตัวอย่างตามหนังสือของชาติต่างเชื้อชาติ
“ถ้าอย่างนั้นมันจบที่การอยู่ในรูปแบบซึ่งมีปัญหามากที่สุดหือ”
“เอ๋? เอ๋? ถ้าอย่างงนั้นจริงๆแล้วเอลม่าซังเป็นคุณนายขุนนาง?”
“ทางวิธีการน่ะเธอเป็นอย่างไรก้ตามเธอดูเหมือนมีพี่ชายผู้อยู่ในตำแหน่งที่จะสืบทอดตำแหน่งเป็นหัวหน้าของตระกูล และเธอก็มีพี่สาวด้วยเหมือนกัน ดังนั้นมีโอกาสน้อยมากที่เอลม่าจะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลวิสเคานต์ผู้ดูแล”
“เข้าใจแล้ว”
ถ้าพี่ชายแต่งงานแล้วมีลูกของตัวเอง พวกเขาจะยิ่งได้โอกาสสืบทอดตระกูลยิ่งมากขึ้นเมมื่อเทียบกับเอลม่า และแม้ว่าพี่ชายคนโตได้รับอุบัติเหตุโชค้ายอะไรสักอย่าง เธอก็จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งผู้สืบทอดอยู่ดีเพราะเธอมีพี่สาวคนโตและที่เหลือของตระกูลเธอก็ยังไม่ไปไหนด้วยเหือนกัน
“ถ้าเธอประกาศสละสิทธิ์ขอสืบทอดตำแหน่ง เอลม่าซามะจะถูกปฏิบัติเป็นชนชั้นกลาง แม้ว่าทางวิธีการแล้วเธอเป็นชนชั้นกลางเธอยังได้รับสิทธิ์พิเศษเป็นพลเมืองจักรวรรดิชั้นหนึ่ง จากผลลัพธ์ของการสืบสวนของหนูเธอไม่ได้ดำเนินการขอสละสิทธิ์สืบทอด และเธอไม่ได้ถูกตัดออกจากครอบครัวด้วยเหม้อนัน เธอยังมีสิทธิ์เป็นขุนนางจักรวรรดิอยู่”
“เข้าใจแล้ว……”
เพราะผมพูดไม่หยุดเกี่ยวกับว่าไม่อยากยุ่งอะไรกับคนซึ่งมาจากตระกูลขุนนางหลังจากทั้งหมดดังนั้นเธอกังวลเพราะจริงๆแล้วเธอมาจากตระกูลขุนนางผู้ดูแลด้วยตัวเธอเอง
“เธออาจกังวลในการที่เธอต้องอธิบายความสัมพันธ์กับท่านกับครอบครัวของธอและการทำอย่างไรให้พวกเขายอมรับมันด้วยเหมือนกันประกอบพร้อมไปกับการสารภาพเบื้องหลังของเธอและกังวลกับท่านวาท่านจะตอบสนองอย่างไรเมื่อรู้เข้า”
“ใช่ ฉันเข้าใจ ฉันจะคุยกับเอลม่าก่อนนเรามุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง”
ยิ่งอะไรแบบนี้แก้เร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ผมไม่มีรสนิยมอ้อมๆค้อมๆคอยมาเดาว่าอีกคนรู้สึกอย่างไรและการพัฒนาหวานขมซึ่งจะตามผลลัพธ์การกระทำนั้นมาด้วย
“โอเคถ้าอย่างนั้น ทุกอย่างที่เราวางแผนไว้วันนี้จะยกเลิก ฉันจะไปคุยกับเอลม่าทันที”
“รับทราย หนูจะปรับแต่งกำหนดการและเลื่อนพวกมันไปสู่พรุ่งนี้ ยังไงก็ตาม หนูจะทำให้แน่ใจว่าชดเชยมันอย่างทั่วถึงดังนั้นได้โปรดเตรียยมตัวเองด้วย”
“……ใจเย็นกับฉันหน่อยนะ ผู้ฝึกสอน”
โชคดี ฉันในวันพรุ่งนี้
อะไร? มันโอเคตราบใดที่ผมไม่ตาย ใช่ไหม? เมดพอดซึ่งติดตั้งอยู่ในบัวดำเป็นตัวรุ่นล้ำสมัยสุดนะรู้ไหม! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าาาา……
แปลโดย: wayuwayu
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl