นิยาย มังกรซ่อนเล็บ เนี่ยฟง
บทที่ 93
การต่อสู้ยังคงดุเดือดเกือบหนึ่งเค่อ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงหมัดปะทะกับร่างกายเสียงดังสนั่น ผู้คนด้านล่างต่างโห่ร้องตะโกนเสียงดัง หยางเวยตะโกนเสียงดังลั่นกระโดดไปมาอยู่ด้านล่าง อันสูหยางศิษย์สำนักอักขระเต่าดำถูกทุบตีบาดเจ็บสาหัส ผู้อาวุโสสำนักอักขระเต่าดำรีบพุ่งเข้ามาดูอาการบาดเจ็บเนี่ยฟงเองหาได้สนใจพุ่งกลับขึ้นไปยังที่พักสำนัก หลังจากจัดการกับลานประลองเสร็จสิ้นเจ้าสำนักคชสารธรณีก็เอ่ยวาจาเสียงดังลั่น
“หยางเวยสำนักพยัคฆ์สายลม พบกับชิวซุนชางสำนักคชสารธรณี
สิ้นเสียงกล่าวของเจ้าสำนักคชสารธรณี ผู้คนด้านล่างโห่ร้องเสียงดังสนั่นหยางเวยพุ่งทะยานขึ้นมาบนลานประลองจากฝูงคนด้านล่าง ชิวซุนซางเองก็มาอยู่บนลานประลองแล้วเช่นกัน ทั้งสองยืนอยู่บนลานประลองไม่นาน เมื่อเสียงระฆังดังก็พุ่งทะยานเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ดาบและมีดถูกเรียกปรากฏกำชับไว้ในมือ ฟาดฟันเข้าปะทะกันตรงลานประลอง เครั้ง เครั้ง เครั้ง เครั้ง ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร หยางเวยเพิ่มพลังปราณไปถึงหกส่วนฟาดฟันมีดอันแปลกประหลาดเข้าปะทะ เคร้ง เครั้ง เครั้ง เมื่อมีจังหวะก็แอบกระจายพิษโดย ลมปราณพิษค่อยๆแทรกซึมเข้าร่างกาย
เกือบหนึ่งเค่อที่ทั้งสองเข้าปะทะกันชิวซุนชางเริ่มมีอาการแปลกๆออกมาออกกระบวนท่าช้าลงสายตาหันไปมองรอบด้านอยู่ตลอดเวลา หยางเวยแสยะยิ้มเพิ่มพลังเข้าไปอีกถึงแปดส่วน เครั้ง เครั้ง เครั้ง เคร้ง เครั้ง ทันทีที่ดาบกระเด็นหลุดออกจากมือ มีดอันแปลกประหลาดก็หายไป หมัดขวาต่อยเข้าที่หน้าท้องอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง พิษแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายโดยเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ทุกครั้งที่หมัดปะทะร่างกายรอยช้ำจากพิษก็ปรากฏออกมา หยางเวยต่อยเข้าไปที่ปลายคางอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง ชิวซุนชางกระเด็นออกไปด้านข้างเสียงผู้คนโห่ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง หยางเวยแสยะยิ้มกำลังจะเดินลงไปด้านล่างก็ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง
“เจ้าจะไปไหนกันไอ้หนู”
คิ้วทั้งสองข้างขมวดขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะน้ำเสียงที่กล่าวออกมาไม่มีแม้แต่เสียงเหนื่อยหอบเสียด้วยซ้ำ ทันทีที่หันไปมองก็ตื่นตกใจชีวซุนช่างหาได้เป็นสิ่งใดยืนกอดอกจ้องมองตนอย่างไม่วางตาไม่ถึงสองลมหายใจก็มีชิวซุนชางอีกคนเดินออกมาจากด้านหลังคนที่ยืนอยู่เสียงตะโกนโห่ร้องดังสนั่น หยางเวยตื่นตกใจไม่น้อย
“พี่ชายเสอไปมันเกิดสิ่งใดขึ้นขอรับ”
“หากข้าเดาไม่ผิดมันคงเป็นความสามารถของสัตว์อสูรประเภทจิ้งจอก เจ้าจะให้ข้าออกไปได้หรือยังข้าเบื่อเต็มที่แล้ว”
“เช่นนั้นก็เชิญท่านขอรับ”
เมื่อกล่าวสิ้นเสียง อสรพิษสีดำด้านหลังมีขนสีแดงขนาดใหญ่ระดับสีส้มขั้นต์ก็ปรากฏออกมา เลื่อยไปมารอบกายหยางเวย เป็นชิวซุนชางที่ต้องตกใจก้าวถอยหลัง เมื่อเห็นเช่นนั้นหยางเวยก็แสยะยิ้มพุ่งทะยานพร้อมกับซัดฝ่ามือออกไป ปราณฝ่ามือสีม่วงพุ่งทะยาน เข้าหาเช่นเดียวกับที่อสรพิษดำ ชิวซุนชางทั้งสองพุ่งเข้าปะทะเช่นกัน ผู้หนึ่ง ฟาดฟันดาบออกไปส่วนอีกผู้หนึ่งกลาย ร่างเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวสีขาวสองหาง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง การปะทะกันของทั้งสี่ดุเดือดไม่น้อย ปราณฝ่ามือและปราณดาบปลิวว่อน อสรพิษพ่นพิษทิ้งไว้เกลื่อนบนลานประลอง
หยางเวยเมื่อเห็นเช่นนั้นก็แสยะยิ้มไล่ต้อนชิวซุนชางถอยหลังไปอยู่กลางดงพิษที่อสรพิษของตนพ่นทิ้งไว้ หยางเวย หลอกล่ออยู่นานที่สุดก็ได้โอกาส ซัดฝ่ามือออกไป เปรี้ยง ปราณฝ่ามือสีม่วงพุ่งเข้าปะทะพื้นลานประลอง พิษที่เกลื่อนลานกระเด็นไปทั่ว แน่นอนว่าชิวซุนชางหาได้ทราบแผนร้ายของเด็ก หนุ่มด้านหน้าร่างกายชุ่มไปด้วยพิษ ทำได้เพียงรีบถอดชุดสำนักออก
“บัดซบนักไอ้เด็กเวร”
เด็กหนุ่มหาได้สนใจเดินวนไปมาเพื่อรอบางอย่าง ตอนนี้จิ้งจอกสองหางเองก็เสียท่าเช่นกัน ถูกอสรพิษดำรัดอยู่อย่างหนาแน่ ส่งเสียงร้องโหยหวน เป็นชิวซุนชางเองที่ละสายตาจากเด็กหนุ่มหันไปมองสัตว์อสูรของตน ไม่รอช้าหยางเวยถีบเท้าพุ่งทะยานออกไปด้านหน้า เมื่อชิวซันชางหันมามองอีกทีก็เห็นหมัดขวาพุ่งเข้ามาด้านหน้า แต่หาได้ตื่นตกใจสะบัดมือขวานำดาบออกมาถือไว้ในมือช่วงจังหวะนั้นก็ตวัดดาบในมือออกไปหยางเวยเองก็รับรู้ได้เช่นกันรีบก้มตัวหลบ คมดาบวาดผ่านศีรษะไปเพียงนิดเดียว เท้าทั้งสองถูกถีบอย่างแรง หยางเวยกระโดดขึ้นมา ต่อยหมัดขวาไปที่ปลายคางอย่างถนัดถนี่เปรี้ยง
ร่างกายกระเด็นออกไปทางขวา หยางเวยใช้มือซ้ายดึงแขนขวาของชายหนุ่มด้านหน้าเข้ามา พร้อมกับต่อยหมัดขวาออกไปอีกครั้ง เปรี้ยง หยางเวยปล่อยมือรีบพุ่งเข้ามาประชิดตัวกระหน่ำต่อยหมัดทั้งสองออกไป เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยงชิวซุนซางลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนลานประลอง เลือดสีแดงสดไหลออกจากปาก ไม่ถึงสามลมหายใจก็มีแสงพุ่งเข้าสู่ร่างของชีวซุนชาง อสรพิษดำกลายเป็นแสงพุ่งกลับเข้าสู่ร่างผู้เป็นนายเสียงตะโกนโห่ร้องเสียงดังสนั่น หยางเวยโบกสะบัดมือขวา วางขวดยาไว้ข้างกายชิวซุนซาง ไม่นานเมื่อเห็นว่ามีศิษย์สำนักคชสารธรณีขึ้นมาบนลานประลองหยางเวยก็กระโดดลงไปด้านลงหาได้กลับไปที่พักของสำนักด้านบน เดินหายเข้าท่ามกลางฝูงชนอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างนั้นเอง ด้านในส่วนลึกของสำนักศชสารธรณีที่เป็นเขตหวงห้าม มีชายผู้หนึ่งสวมชุดดำมีผ้าดำปกปิดใบหน้าแอบย่องเข้ามาด้านใน เมื่อเข้าไปด้านในชั่วน้ำเดือดก็พบกับลานกว้างขนาดใหญ่ มีศาลาเก่าแก่หลังหนึ่งตั้งอยู่ด้านหน้า ด้านหน้ามีวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงปรากฏขวางไว้ ด้านในศาลาเป็นเหมือนโลงศพไม้วางอยู่ ชายผู้สวมชุดดำเดินวนไปมาเพื่อรอบางอย่าง ไม่นานก็มีชายชุดดำอีกผู้หนึ่งเดินเข้ามายืนด้านหน้า
“ท่านมั่นใจแค่ไหนว่ามันจะช่วยเหลือลูกชายของข้าได้”
“แน่นอนพวกเราเผ่าปีศาจหาได้ไร้ซึ่งสัจจะเช่นพวกเจ้าเผ่ามนุษย์ไม่”
“เช่นนั้นเราจะทำอย่างไรต่อไป”
ขอเพียงข้าแก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ด้านหน้าได้ เจ้ามีหน้าที่เพียงเข้าไปเปิดฝาโลงนั้นก็พอ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วข้าจะช่วยเหลือบุตรชายของเจ้าเอง ชายผู้มา ใหม่พยักหน้าอย่างเร่งรีบ ไม่ถึงสามลม หายใจชายชุดดำที่อ้างว่าตนเป็นเผ่าปีศาจก็โบกสะบัดมือขวา ปราณสีเขียวพุ่งเข้าประสานกับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ด้าน
หน้าอย่างช้าๆ อักษรด้านในค่อยๆกลาย เป็นสีเขียว
การประลองรอบสุดท้ายกำลังเสร็จ สิ้นเป็นสีว์หยินยี่สำนักผาสวรรค์ใช้เสียง ขลุ่ยบังคับองค์ชายสี่กระโดดออกจากลานประลอง เมื่อการประลองเสร็จสิ้น ก็ถึงการแสดงโชว์จากผู้ปกครองเขตที่นำมาจัดแสดงส่วนสำนักที่ผ่านเข้ารอบล้วนแล้วแต่กลับที่พักของใครของมัน ส่วนที่เหลือยังคงเดินเที่ยวเล่นในงานเทศกาลเกือบหนึ่งชั่วยามมีผู้อาวุโสท่านหนึ่งรีบเข้ามายังที่พักของสำนักคชสารธรณี ไม่นานก็รีบเข้ามาคารวะเจ้าสำนักอย่างรีบร้อน
“เรียนเจ้าสำนักขอรับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ”
“มีสิ่งใดรีบแจ้งต่อข้าเถอะ”
“มีคนบุกรุกเขตหวงห้ามขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวของผู้อาวุโสท่านนั้นเจ้าสำนักคชสารธรณีถึงกับนั่งนิ่งเงียบ
“ท่านเข้าไปตรวจด้านในหรือไม่”
“ให้ผู้อาวุโสอีกสองคนเข้าไปแล้วขอรับข้าจึงรีบมาแจ้งข่าวต่อท่านก่อน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าสำนักครสารธรณีก็รีบลุกออกมาเก้าอี้ไม้ เดินออกไปจากที่พักอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสทั้งหมดก็ติดตามไปด้วยเช่นกัน เมื่อเข้ามาถึงทางเข้าเขตหวงห้ามก็ยังไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ทว่าเมื่อเข้าไปได้ในไม่ถึงสามลม หายใจกลิ่นเหม็นสาบและกลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายออกมา ผู้อาวุโสหลายคนไม่ทันตั้งตัวรีบพุ่งออกมาสำรอกด้านนอก เจ้าสำนักครุ่นคิดบางอย่าง ไม่นานก็หันไปมองผู้อาวุโสที่อยู่ด้านขวามือคน
“ชุนหยางคง รบกวนท่านรีบไปแจ้งต่อเจ้าสำนักทั้งหลายที่อยู่ในงานด้วยว่า เหตุการณ์ร้ายแรงในอดีตมันกำลังจะหวนก ลับมามีคนลักลอบปลดผนึกปีศาจร้ายที่ถูกจับขังเอาไว้เมื่อสามสิบปีก่อน รบกวนช่วยเร่งรีบเข้ามาสกัดกั้นก่อน หาไม่แล้วผู้คนด้านนอกต้องล้มตายกันหมดแน่”
สิ้นเสียงผู้อาวุโสที่ถูกกล่าวชื่อก็รับก้มคารวะแล้วพุ่งทะยานออกไป เจ้าสำนักเพียงจ้องมองผู้อาวุโสที่เหลืออยู่สิบสองคน
“เราทั้งหมดคงต้องเป็นฝ่ายรับหน้าก่อนที่พวกนั้นจะมา พวกเจ้าพร้อมหรือไม่”
“ขอรับท่านเจ้าสำ-นัก”
เสียงตอบรับของผู้อาวุโสทั้งสิบเอ็ดคนเสียงดังฟังชัดหลังจากนั้นทั้งหมดก็เดินเข้ามาด้านใน
MANGA DISCUSSION