มังกรซ่อนเล็บเนี่ยฟง - ตอนที่ 101
นิยาย มังกรซ่อนเล็บ เนี่ยฟง
บทที่ 101
สายลมทะเลพัดผ่าน รอบกายมีแต่พื้นทะเลสีฟ้าเช่นเดียวกับท้องฟ้าชายหนุ่มสองคนนั่งพิงตัวของพยัคฆ์สายฟ้าตัวใหญ่อยู่บนเรือสินค้าลําหนึ่งกําลังมุ่งหน้าไปที่ตั้งสํานักอักขระเต่าดําการเดิ นทางเป็นไปอย่างราบรื่นเกือบสองชั่วยามก็เห็นเกาะขนาดใหญ่ด้านหน้ามีเมืองขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าท่าเรือด้านหลังมีเขาและป่าไม้ มีพื้นที่ทํานาชาวบ้านทําการประมงคล้ายแผ่นดินใหญ่ที่แยกตัวออกไป
ทันทีที่ลงจากเรือสินค้าชายหนุ่มทั้งสองและพยัคฆ์สายฟ้าก็ออกหาข้อมูลในเมืองสินค้าสมุนไพรจํานวนมากถูกกว้านซื้อจากเนี่ยฟง ส่วนบรรดาอาหารเป็นหยางเวยดูแลทั้งสองเดินเข้าออกหลายสิบร้านได้ของติดมือไม่มากก็น้อยหลังจากสอบถามข้อมูลจากเสี่ยวเอ้อก็มุ่งหน้าออกจากเมืองขึ้นเขาด้านหลังทั้งสองเดินไปตามทางตลอดทางพบเจอกับชาวบ้านและศิษย์สํานักอักขระเต่าดําเช่นกัน ไม่นานทั้งสองก็ขึ้นเขามาได้สําเร็จด้านหน้ามีลานกว้างมองเข้าไปด้านในเป็นหมู่ตึกขนาดใหญ่หลายสิบหลังอาคารเรียนที่สําคัญมีลานประลองขนาดใหญ่
เมื่อขึ้นมาทั้งสองก็ถูกตรวจด้วยศิษย์สํานักอักขระเต่าดําเนี่ยฟงโบกสะบัดมือนําจดหมายยื่นให้แก่คนผู้หนึ่งไม่นานคนผู้หนึ่งก็พาชายหนุ่มทั้งสองเข้าไป ด้านในที่นี่ต้อนรับทั้งสองเป็นอย่างดีมี ห้องโถงมีขนมและน้ําชาให้ทานรอเวลาชั่วน้ําเดือดเจ้าสํานักอักขระเต่าดําก็เดินเข้ามาติดตามด้วยผู้อาวุโสสองคน
คน
“คารวะเจ้าสํานักและผู้อาวุโสสํานักอักขระเต่าดําขอรับ
“เชิญนั่งเถอะ”
“ขอรับ”
ทันทีที่ทั้งสองนั่งลงบนเก้าอี้เจ้าสํานักอักขระเต่าดําก็เอ่ยวาจาออกมา
“น่าเสียดายที่เจ้าจางหลิงไม่ได้มาด้วยแต่ก็ดีที่ส่งเจ้าที่เป็นศิษย์เอกเช่นเจ้ามาแทนว่าแต่เจ้าจางหลิงแจ้งต่อเจ้าหรือไม่ว่าภารกิจของพวกเจ้าคือสิ่งใด”
“ท่านอาจารย์เพียงแต่แจ้งว่าช่วยแก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นขอรับ”
“เพียงแค่นั้นจริง”
จากน้ําเสียงที่กล่าวถามออกมาทําให้ทั้งสองคนขมวดคิ้วหันมามองกันและกันแน่นอนว่าการกระทําของทั้งสองทําให้เจ้าสํานักอักขระเต่าดําถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ต้องแปลกใจ ข้าจะเล่ารายละเอียดให้ฟังก็แล้วกัน เมื่อสี่ปีก่อนพวกเจ้าคงทราบดีของการเกิดหอคอยปีศาจขึ้นมา และตอนนี้ทุกอย่างก็ทุกจัดการหมดแล้วมีหลายที่หอคอยปีศาจถูก ทําลายลงสัตว์อสูรที่เคยล่าเมื่อครั้งอดีตถูกหลงลืมไปแน่นอนว่าตอนนี้ระดับของสัตว์อสูรนั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ”
เจ้าสํานักอยู่ๆก็หยุดกล่าวหยางเวยจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ภารกิจของพวกข้าคือสังหารสัตว์อสูรหรือขอรับ”
เจ้าสํานักยกยิ้มให้แก่หยางเวย
“ใช่ ภารกิจของพวกเจ้าคือสังหารสัตว์อสูรแต่เป็นสัตว์อสูรระดับสีแดงขั้นกลางมันเป็นสัตว์อสูรใต้ทะเลส่วนเรื่องแก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์หลังจากจบงานนี้”
“พวกข้าทั้งสองคงไม่ต้องลงไปทะเลใช่หรือไม่ขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวของหยางเวยเจ้าสํานักและผู้อาวุโสอีกสองคนหัวเราะออกมาดังลั่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ต้องทําถึงขนาดนั้นก็ได้เจ้าเพียงแค่อยู่บนเรือแล้วโจมตีมันก็พอแต่ที่ต้องให้เจ้าสํานักของเจ้ามาเพราะว่าต้องการใช้ชุดอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องจับตัวปีศาจไว้”
“เราจะเดินทางกันวันไหนขอรับ”
“เหตุใดเจ้าถึงใจร้อนยิ่งนัก”
“กล่าวตามตรงขอรับท่านเจ้าสํานักเหตุที่ท่านต้องส่งจดหมายเชิญท่านอาจารย์เหตุการณ์มันคงสาหัสไม่น้อยข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่
เสียงถอนหายใจออกมายาวๆดังมาเจ้า เจ้าสํานักอักขระเต่าดํา
“เห้อ หากข้ามีศิษย์เช่นเจ้าข้าคงเบาใจมากกว่านี้เอาเถอะในเมื่อเจ้ารีบร้อนเราก็ออกเดินทางกันได้เลยข้าเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ที่พวกเจ้าจะไปมันอยู่ห่างจากที่นี่ไกลพอสมควรสัตว์อสูรที่พวกเจ้าต้องไปจัดการก็คือสัตว์อสูรหมึกยักษ์ระดับสีแดงขั้นกลางมันยึด เส้นทางเดินเรือของเรือสินค้าเข้าโจมตีทําลายและกินผู้คนเป็นอาหารพวกข้าสังหารพวกมันมากกว่าสิบตัวแล้วแต่ไม่มีท่าทีว่าจะหมดลงพวกมันยังคงออกมาทําลายเรือสินค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีสัตว์อสูรหลายสายพันธุ์เริ่มออกมาสร้างความวุ่นวาย”
ชายหนุ่มทั้งสองมองหน้ากันแล้วก็ยกยิ้ม
“สัตว์อสูรของเจ้าคงต้องอยู่ที่นี่หากเกิดสิ่งใดขึ้นมาข้าเกรงว่า”
เนี่ยฟงหันไปมองผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่กล่าวออกมา
“เช่นนั้นข้าฝากคนดูแลหลันเซ่อด้วยขอรับ”
หลังจากนั้นไม่นาน เนี่ยฟงและหยางเวยก็เดินตามผู้อาวุโสท่านหนึ่งไปทั้งสามเดินออกจากห้องโถงมุ่งหน้าไปทางซ้ายลัดเลาะไปตามทางออกไปทางด้านหลังของสํานักไม่นานพบลานกว้างด้านหลังของลานกว้างเป็นหน้าผาขนาดใหญ่มีกระเช้าเหล็กกล้าขนาดใหญ่วางอยู่ด้านหน้ารอบข้างมีสัตว์อสูรแรดเขาดําระดับสีส้มขั้นต้นนอนอยู่สี่ตัวเมื่อทั้งสามมาถึงผู้อาวุโสก็นําทั้งสองเข้าไปยืนอยู่ในกระเช้าเหล็ก ไม่ถึงห้าลมหายใจกระเช้าเหล็กก็ค่อยๆขยับลงไปช้าๆทั้งสองจ้องมองภาพบรรยากาศด้านหน้าอย่างไม่วางตา
เกือบหนึ่งเค่อทั้งสามก็ลงมาถึงพื้นด้านล่างเป็นท่าเรือขนาดใหญ่อีกที่หนึ่งใช้สําหรับเดินทางทําภารกิจของสํานักโดยเฉพาะทั้งสองถูกนําขึ้นไปบนเรือขนาดใหญ่ด้านบนมีศิษย์สํานักอักขระเต่าดําจํานวนหลายสิบคนเดินกันไปมาบนเรือเนี่ยฟงและหยางเวยถูกเชิญ เข้าไปพักข้างในเพียง การเดินทางเป็นไปอย่างรวดเร็วมันถูกขับเคลื่อนด้วยอักขระศักดิ์สิทธิ์ธาตุลมเกือบสองชั่วยามเรือขนาดใหญ่ของสํานักอักขระเต่าดําก็แล่นเข้ามาในอาณาเขตของสัตว์อสูรหมึกยักษ์ตูม ตูม ตูมเกิดการระเบิดขึ้นน้ําทะเลแตกกระจายด้วยบางอย่างภายใต้ทะเล
หนวดปลาหมึกขนาดใหญ่สามเส้นโผล่ขึ้นมาเหนือน้ําหลายคนจ้องมองด้วยความตื่นตัวเสียงร้องตะโกนดังลั่นไปทั่วทั้งเรือ เนี่ยฟงและหยางเวยรีบออกมาจากห้องพักอย่างรวดเร็วทั้งสองรีบโบกสะบัดมือนําอาวุธคู่กายออกมาทันทีผู้อาวุโสที่นําชายหนุ่มทั้งสองมารีบโบกสะบัดมืออย่างรวดเร็วปรากฎวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่กลายเป็นเกราะสีขาวขุ่นออกมาคลุมเรือไว้ในจังหวะนั้น เองหนวดปลาหมึกทั้งสามเส้นก็ฟาดลงมาที่เรืออย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ตัวเรือเพียงสันไปมาเพราะแรงกระแทกแต่หาได้เป็นสิ่งใดเพราะถูกป้องกันด้วยเกราะสีขาวขุ่นอย่างทันท่วงที
ชายหนุ่มทั้งสองยังไม่กระทําสิ่งใด เพียงแต่ยืนจ้องมองการต่อสู้อันดุเดือดด้านหน้า เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยงหนวดทั้งสามยังคงฟาดลงมาอย่างไม่ลดละปราณดาบและกระบี่ปลิวว่อนเถาวัลย์สีแดงพุ่งเข้ายึดหนวดปลาหมึกเอาไว้อย่างแน่นหนาชั่วน้ําเดือดหนวดทั้งสามก็ถูกจัดการทําลายลงเลือดสีแดงสดย้อมทะเลสีฟ้าน้ําทะเลค่อยๆดันสูงขึ้นเรือของสํานักอักขระเต่าดําพุ่งไหลไปจามกระแสน้ํา ตูม ตูม ตูม ตูม ตูม ร่างสัตว์อสูรปลาหมึกยักษ์ปรากฏกายขึ้นมาตัว ของมันมีสีเทาส่วนหัวใหญ่กว่าปกติดวงตาสีแดงกําจ้องมองผู้คนบนเรือ หนวดทั้งห้าที่เหลืออยู่ฟาดกระหน่ําลงมาอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง
วงเกราะสีขาวขุ่นเริ่มถูกทําลายผู้อาวุโสรีบส่งพลังปราณไปที่วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ส่วนคนอื่นก็ยังคงทําหน้าที่ของตนได้เป็นอย่างดี เนี่ยฟงหันไปมองหยางเวย
“เจ้าพร้อมแล้วใช้หรือไม่”
“แน่นอน”
สิ้นเสียงกล่าวของหยางเวยทั้งสองก็พุ่งทะยานออกไปจากเรือ ศิษย์สํานักอักขระเต่าดําถึงกับขมวดคิ้วถึงการกระทําของทั้งสอง ไม่นานปราณดาบสีฟ้ามีประกายสายฟ้าล้อมรอบพุ่งเข้าหา ปลาหมึกยักษ์อย่างรวดเร็วพร้อมกับปราณมีดสีม่วงเปรี้ยง เปรี้ยง เสียงร้องคํารามด้วยความเจ็บปวดเลือดสีแดงสดไหลออกจากบาดแผลที่หัวพลังปราณธาตุสายฟ้าส่งผลให้สัตว์อสูรปลาหมึก ยักษ์ได้รับความเสียหายที่รุนแรงปราณดาบสีฟ้าที่มีประกายสายฟ้าล้อมรอบพุ่งปลิวว่อนพร้อมกับปราณมีดสีม่วง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงการปะทะของปราณดาบและปราณมีด เลือด สีแดงย้อมทะเลจนเป็นสีแดงขยายเป็นบริเวณกว้าง
หนวดทั้งห้าถูกทําลายจนหมดลําตัวมีแต่บาดแผลเสียงร้องคํารามด้วยความหวาดกลัวดังออกมาจากปลาหมึกยักษ์เนี่ยฟงแสยะยิ้มรีบเก็บดาบในมือโบกสะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมาไม่นานเถาวัลย์สีฟ้าที่มีประกายสายฟ้าก็พุ่งเข้าไปรัดตัวของปลาหมึกยักษ์เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดมันพยายามดึงด้วยแรงทั้งหมดจึงทําให้เกิดคลื่นซัดเข้าหาเรือเสียงดังสนั่น