มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1516
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1516
“ฉันเข้าใจ… นั่นก็พอจะอธิบายได้!” เพอร์ลาตอบด้วยการพยักหน้า
“…อะไรนะ? แฮนสัน ลูอี้? เขาเป็นใครกัน? เขาเป็นคนมีอำนาจเหรอ? เพอร์ลาคงไม่รู้จักใครที่มีอำนาจหรอกใช่ไหม?” เจนนี่พึมพำด้วยความประหลาดใจ
“เงียบก่อน! เขาคือประธานแฮนสัน ลูอี้ อดีตคนขับรถของนายท่านยาโต้ จากตระกูลยาโต้แห่งเมืองเจนน่า! ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ที่มีความสามารถพิเศษเท่านั้น แต่ปัจจุบันเขายังเป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งอีกด้วย!” เบนสันกระซิบ เขารู้สึกตกใจไม่แพ้เจนนี่
ถึงกระนั้น อย่างน้อยนั่นก็ช่วยอธิบายได้ว่าทำไมบอดี้การ์ดของประธานลูอี้จึงแข็งแกร่งมาก!
ในขณะนั้น แฮนสันถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “คุณช่วยเล่ารายละเอียดให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ก่อนหน้านี้ คุณเชอร์วิน?”
ใครก็ตามที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในกะลาต้องรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้กองกำลังทั้งหมดในเมืองเจนน่าอยู่ภายใต้การควบคุมของท่านอาจารย์คลอฟอร์ดผู้เหลือเชื่อและลึกลับ แฮนสันก็เป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้ดี และเขาก็รู้ด้วยว่าเพอร์ลาเป็นศิษย์รักของอาจารย์คลอฟอร์ด
เมื่อคำนึงถึงสิ่งนั้น แม้เขารู้ว่าเพอร์ลาจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะเสี่ยงทำให้เธออับอายขายหน้าแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในอาณาเขตความรับผิดชอบของเขา นอกจากนี้ นี่เป็นโอกาสสำคัญสำหรับเขาในการพิสูจน์ความจงรักภักดีที่เขามีต่ออาจารย์คลอฟอร์ด และแสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังเพียงใด
แฮนสันยังกลัวว่าหากเขาไม่ก้าวเข้ามา ข่าวนี้อาจจะดังไปถึงหูหัวหน้าครอบครัวของเขาที่ยังคงพยายามจะประจบประแจงอาจารย์คลอฟอร์ด หากเป็นเช่นนั้น เขาจะต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน! ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะช่วยเพอร์ลาระบายความคับข้องใจของเธอในวันนี้
“ก็… ผู้หญิงคนนี้น่ะคอยตามรังควานฉันตลอด! เธอยังเรียกกำลังเสริมมา เพื่อที่พวกเขาจะได้บังคับอาจารย์ให้มารับฉัน หลังจากที่ทำร้ายฉันแล้ว! หลังจากที่ฉันได้ยินว่าพวกเขาต้องการจะฉีกอาจารย์เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฉันก็โกรธทันที และตบหน้าเธอเป็นการตอบโต้! เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ!” เพอร์ลาตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
แฮนสันตกตะลึงชั่วขณะ ก่อนจะตะโกนว่า “อะไรนะ? แก… แกกล้าดูหมิ่นอาจารย์คลอฟอร์ดถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?!”
เจนนี่พบว่าตัวเองกำลังกลืนน้ำลายลงคอ และรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ไม่เพียงเพราะตำแหน่งอันสูงส่งของแฮนสัน แต่ยังเป็นเพราะดวงตาสีแดงก่ำของเขาที่ตอนนี้จ้องตรงเข้าไปในจิตวิญญาณของเธอ…
แม้แต่เบนสันก็ยังตกตะลึงกับคำตอบของแฮนสัน และเขาก็กลัวมากจนต้องรีบตอบกลับไปว่า “ทะ ท่านประธานลูอี้ครับ! ต้องมีการเข้าใจผิดอะไรบางอย่างแน่นอน! ลุงของผมชื่อ ฟินเนแกน เลดเลอร์ คุณรู้ไหม?”
แม้ว่าเขาจะยกเรื่องเส้นสายขึ้นมาอ้าง แต่แฮนสันก็ไม่แม้แต่จะสนใจในขณะที่เขาสั่งว่า “พวกนาย! คนเหล่านี้กล้าพอที่จะสร้างปัญหาในห้างสรรพสินค้าของเรา! ว่าแล้วก็หักขากันตามระเบียบ! นอกจากนี้ ผู้หญิงคนนั้นยังดูหมิ่นลูกค้าวีไอพีของเราอีกด้วย! ปากเสียขนาดนี้ การลงโทษที่สมเหตุสมผลเพียงอย่างเดียวคือการตบเธอจนเธอพูดไม่ได้อีกต่อไป!”
วินาทีที่ประโยคของเขาจบลง บอดี้การ์ดของเขาหลายคนก็ลงมือทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือ เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและความสยดสยองที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้าง…
เมื่อมองไปที่ขาที่หักของเบนสัน รวมถึงลูกน้องของเขาที่ตอนนี้กำลังนอนชักกระตุกอย่างผิดปกติอยู่บนพื้น เจนนี่ผู้หวาดกลัวก็เริ่มถอยหนีไปหนึ่งก้าว… ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อที่จะหลบหนี!
ด้วยความตกใจสุดขีด เธอรู้สึกว่าผมของเธอถูกกระชากกลับไปยังตำแหน่งที่เธอยืนอยู่ในตอนแรก!
เมื่อหันกลับมา เธอก็ตระหนักได้ว่าหนึ่งในบอดี้การ์ดได้ถือแผ่นไม้หนาไว้ในมือของเขา และตอนนี้เขาก็กำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ…!
หนึ่งครั้ง สองครั้ง และสามครั้ง ไม้กระดานฟาดลงบนใบหน้าของหญิงสาวผู้หยิ่งผยองอย่างต่อเนื่องและไร้ความปราณี ไม่นาน ใบหน้าของเจนนี่ก็เต็มไปด้วยเลือด และแก้มทั้งสองข้างของเธอบวมมาก จนใบหน้าของเธอแทบจะดูผิดรูป
เมื่อถึงจุดนั้น แม้แต่เพอร์ลาเองก็ไม่สามารถที่จะทนดูได้อีกต่อไป มันโหดร้ายเกินไป!
ขณะที่เปลือกตาของเขากระตุก แฮนสันก็รู้ว่าความจริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะกระทำการอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้ ท้ายที่สุด การทำให้ขาของใครบางคนหักก็ถือเป็นการลงโทษที่หนักหนาสาหัสมากพอแล้ว
ถึงกระนั้น เขาก็ได้สั่งให้คนของเขาเฆี่ยนตีคนเหล่านี้จนเกือบตาย และเขาก็รู้ว่าคำสั่งของเขานั้นฟังดูโหดร้ายเพียงใด
อย่างไรก็ตาม คงไม่มีทางอื่นที่จะใช้จัดการกับคนชั่วพวกนี้ได้ ท้ายที่สุด คนเหล่านี้เลือกที่จะรุกรานอาจารย์คลอฟอร์ดอันเป็นที่เคารพของทุกคน ถึงขั้นขู่จะฉีกเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
หากพวกเขาไม่พูดอย่างนั้น พวกเขาคงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้
การสอนบทเรียนที่ไร้ความปรานีแก่คนเหล่านี้ ถือเป็นวิธีการแสดงความเมตตาของเขาเองก็ว่าได้ ถ้าเขาไม่ทำในตอนนี้ เขากังวลว่าในอนาคตคนเหล่านี้อาจจะต้องพบกับความตายแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ…