มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1353
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1353
“อย่าได้กังวลไปเลย ตราบใดที่เจ้าช่วยจับเจอรัลด์ ข้าจะต้องได้รับความสามารถในการเดินทางไปมาระหว่างโลกกับเจลเอลตรา เพราะเหตุนี้ ข้ามั่นใจว่าจะเปลี่ยนตระกูลของเจ้าให้มีพลังอำนาจมากที่สุดได้แน่นอนโดยไม่มีปัญหาอะไรเลย! อีกทั้งเจ้าก็รู้ภูมิหลังข้าแล้วไม่ใช่หรือ? ฮ่า ๆ ๆ! รู้สึกว่าการที่เจอรัลด์บังเอิญปลดปล่อยข้าออกมาในตอนนั้น… คงเป็นรางวัลที่พระเจ้าประทานให้ข้า สำหรับการที่ข้าต้องถูกกักขังมานานนับพันปีเป็นแน่!”
เมื่อหันกลับมา อีเร็ตมองชิ้นหยกที่ก่อนหน้านี้วางอยู่ใกล้กับกระถางธูป ขณะที่หยกเปล่งประกายแสงสีดำออกมา หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีดำก็เริ่มหมุนวนอยู่ในอากาศ ก่อนจะกลายร่างเป็นเงาเลือนรางคล้ายวิญญาณ
เมื่อมองดูใกล้ ๆ วิญญาณที่ปรากฏนั้นเป็นชายหนุ่มที่มีจมูกงองุ้ม และคิ้วเรียวโกงอยู่เหนือดวงตาที่ฉายแววชั่วร้ายออกมาเป็นครั้งคราว ใครจะไปคาดคิดว่าวิญญาณตนนี้ ซึ่งคาดว่าอยู่มานับหมื่นปีแล้ว จะยังคงรักษารูปลักษณ์ของชายหนุ่มเอาไว้ได้!
“ฉันขอพูดตรง ๆ ว่าฉันรู้สึกเสียใจที่ยอมตกลงให้ความร่วมมือกับท่านตั้งแต่แรก ท่านราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษา… แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ฉันไม่เคยเต็มใจในการตัดสินใจทำงานร่วมกับพรรคพวกของท่าน และเข้าไปพัวพันกับเรื่องทั้งหมดนี้ พูดกันตามจริงแล้ว ฉันรู้สึกว่าการตัดสินใจของฉันกำลังจะกลายเป็นต้นเหตุที่ทำลายตระกูลของเราในที่สุด! ถึงอย่างไรก็ตาม อย่างที่ฉันเพิ่งได้บอกยูเมะไป เจอรัลด์ชักจะเริ่มน่ากลัวมากเกินไปขึ้นอยู่กับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเขาเพียงอย่างเดียว!” อีเร็ตบอก ในตอนนี้ความรู้สึกหลากหลายสะท้อนอยู่ในแววตาของเธอ
“ถึงแม้ฉันจะเสี่ยงมากก็ตาม ท่าน ในบรรดาทุกคน ควรจะได้รู้ว่าเรื่องนี้แตกต่างไปมากสำหรับท่าน ท่านราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษา! เพราะในตอนนี้ท่านเป็นเพียงจิตวิญญาณเท่านั้น และนั่นหมายความว่าท่านสามารถใช้จิตวิญญาณของท่านในการควบคุมคนหลายคนได้อย่างง่ายดายในเวลาเดียวกัน ไม่ได้ต่างจากหุ่นเชิดของท่าน! ฉันเองก็เป็นหนึ่งในหุ่นเชิดของท่าน… ไม่ว่าอย่างไร แม้ทุกอย่างจะล้มเหลว ท่านก็ยังอยู่ต่อไปได้ และหาวิธีอื่นเพื่อกลับไปยังเจลเอลตราได้ในที่สุด เพื่อไปเป็นท่านชายเช่นที่ท่านเป็นต่อไป แต่พวกกันเทอร์อย่างเรา แทบจะไม่มีความสามารถได้เหมือนกับท่าน เมื่อถึงเวลาที่ต้องถอย ความจริงแล้วฉันรู้สึกว่าการตายโดยที่ร่างไม่บุบสลายหมดไป ยังเป็นไปได้ยากเมื่อถึงเวลานั้น! ท่านรู้บ้างไหมว่ากันเทอร์เรากำลังอยู่ในความเสี่ยงมากแค่ไหน?” อีเร็ตกล่าวเสริม
“ฮ่า ๆ ๆ! เจ้าเพียงแค่คิดมากไป! ข้ารู้ที่เจ้าหวาดกลัวถึงเพียงนี้ เพราะข้าบอกเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเจอรัลด์มากเกินไป… แท้ที่จริงแล้ว ในตอนนี้เจอรัลด์ยังห่างไกลจากความน่ากลัว เพราะในสายตาของข้า เขาในตอนนี้เป็นแค่มดเท่านั้น! ถึงกระนั้น ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ว่าจะไม่มีการถอยกลับอีกแล้ว เจอรัลด์รู้แล้วว่าเจ้าคือใคร เพราะฉะนั้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วสิ่งที่เราทุกคนทำได้ในตอนนี้คือทำตามแผนต่อไป!”
“ยิ่งไปกว่านี้ เจ้าเป็นคนหนึ่งที่ปรารถนาจะมีอายุยืนยาว! เมื่อรู้เรื่องนี้แล้ว ข้าให้คำสัตย์แก่เจ้าว่าจะพาเจ้าและครอบครัวของเจ้าไปที่เจลเอลตรา สถานที่ที่เจ้าจะมีที่ของเจ้าเอง โดยแลกเปลี่ยนกับการเสียสละเพียงเล็กน้อย… ลองไตร่ตรองดู เมื่อเจ้าไปถึงที่นั่น เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกอย่างน้อยนับพันปี…” ราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษาพูดเสริมพลางหัวเราะขึ้น
“นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ว่าทำไมตอนนี้ฉันถึงยังไม่ถอย! ไม่ต้องห่วง เพราะฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปจับเขาด้วยตัวเองเมื่อถึงยามจำเป็น!” อีเร็ตตอบสวนกลับไป น้ำเสียงของเธอในตอนนี้แฝงด้วยความเย็นชาและสิ้นหวัง
“ข้าดีใจที่ได้ยินคำพูดนี้! เจ้ารู้ไหมว่าการกลับชาติมาเกิดใหม่ของวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังคราที่แปดเมื่อย้อนกลับไปยามที่เจลเอลตรายังอยู่ในความโกลาหล เพื่อให้ได้วิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังมา ข้าพยายามข้ามผ่านเข้ามาในช่องว่างเพื่อมายังโลก แต่ข้าไม่คิดเลยว่า ข้าได้ดูแคลนพลังแห่งช่องว่างจนเกินไป เมื่อข้าข้ามมาแล้ว ทันใดนั้นข้าก็ถูกฟ้าผ่า แล้วร่างของข้าก็เหลือเพียงเถ้าธุลี ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่จิตวิญญาณของข้ายังถูกผู้อื่นกักขังเอาไว้อีกด้วย! นับตั้งแต่วันนั้น ข้าก็ต้องห่างกับครอบครัว… มาจนถึงบัดนี้ หากจะมีใครสักคนที่เป็นกังวล ก็ควรเป็นข้า!”
“ข้าอยากจะบอกเจ้าให้รู้ไว้ว่า ข้าเฝ้ารอโอกาสนี้มานานนับพันปี! เช่นที่กล่าวไปความช่วยเหลือของเจ้าเป็นกุญแจสำคัญของข้าในการทำทุกอย่างให้สำเร็จ! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าอย่าได้กังวลจนเกินไปเลย เพราะทุกอย่างยังคงควบคุมได้อยู่!” ราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษาตอบกลับมา
“…ก็ดี ฉันหวังว่าสุดท้ายแล้ววันที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จไปด้วยกันจะมาถึงโดยเร็วที่สุด!” อีเร็ตพูดพร้อมพยักหน้ารับ
“…ท่านคิดว่าท่านจะจัดการเขาได้อย่างนั้นหรือ…? ข้าบอกท่านหลายคราแล้วว่าให้รักษาชีวิตของท่านเอาไว้ เพราะท่านยังไม่ได้สูญสิ้นไป แม้สิ่งที่ท่านทำลงไปจะบรรลุผล… ได้โปรดอย่าได้ท้าทายเขาอีกต่อไปเลย… ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับเขา… นอกจากนั้น แผนการที่พวกท่านสมรู้ร่วมคิดกันมีอันต้องล้มเหลว!” เสียงที่พูดไพเราะน่าฟังเป็นอย่างมาก น้ำเสียงที่เปล่งออกมาฟังดูเหมือนนกขมิ้นดังขึ้นทันที
ไม่เพียงรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ฟัง แต่ยังทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกสบายใจ ราวกับถูกสวมกอดด้วยสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ
หลังจากนั้นอีเร็ตจึงหันไปมองหญิงสาวในชุดขาวที่เพิ่งลุกขึ้นจากโลงศพอมตะ…
ความงดงามดุจนางฟ้า แม้แต่ราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษารู้สึกตกตะลึง ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังในที่สุด “ในที่สุดเจ้าก็ยอมปรากฏตัวเสียที!”
“อย่าได้ตื่นเต้นจนเกินไปเลย ข้าเพียงออกมาเตือนท่านทั้งสองเท่านั้น จากที่ข้าได้เฝ้ามอง เหตุผลที่ว่าทำไมท่านทั้งสองผู้ไร้ซึ่งความคั่งแค้นและคับข้องใจต่อกัน มีเหตุจากการที่พวกท่านถูกกระตุ้นด้วยความโลภ! นี่คือความขัดแย้งของพวกท่าน และเป็นหนทางที่อาจจะจบลงโศกนาฏกรรม!” หญิงสาวในชุดขาวเอ่ยพูดขึ้นด้วยริมฝีปากสีแดงสวย ขณะที่เธอถอนหายใจออกมา
“ชั่วช้าสามานย์! อะไรทำให้เจ้ามั่นใจว่าเราทั้งคู่จะจัดการกับเจอรัลด์ไม่ได้? เขาก็แค่ตัวคนเดียว! ด้วยความสัตย์จริง เจ้าไม่คิดว่าเจ้าดูถูกข้าเกินไปหน่อยหรือ? ข้าคือราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษา! ข้าขอรับรองกับเจ้าว่าอีกไม่นานคน ๆ นี้ ผู้ที่เจ้าพึงใจรักชั่วนิรันดร์ ต้องมาคุกเข่าอยู่ต่อหน้าข้า อ้อนวอนขอให้ข้าไว้ชีวิตเขา แล้วปล่อยให้เขากลับไปเป็นนายน้อยเช่นที่เขาเคยเป็น! ฮ่า ๆ ๆ ๆ!” ราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษาขู่ นัยน์ตาของเขาฉายแววความโกรธและอิจฉาออกมา
เฉกเช่นหญิงสาวในชุดขาวที่เปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อเทพองค์นั้น ราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษาเองก็รักหญิงสาวในชุดขาวมากมาตลอด ถึงกระนั้น เขารู้ดีว่านางมีเพียงเทพองค์นั้นอยู่ในดวงใจเท่านั้น เทพองค์นั้นเป็นเพียงหนึ่งเดียวของนาง และในทางกลับกัน ดูราวกับว่าสำหรับหญิงสาวในชุดขาวแล้ว ไม่มีชายใดในโลกที่จะเทียบเขาได้ เมื่อรู้เช่นนั้น ราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษาก็ทำได้เพียงริษยาเท่านั้น
เขาขบฟันแน่น จากนั้นจึงเอ่ยพูดขึ้น “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อข้าได้รับวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังแล้ว ข้าก็จะได้เป็นปรมาจารย์! เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะทำให้เจ้ารักข้าจากใจจริง และเมื่อถึงตอนนั้น เจ้าก็จะเต็มใจเป็นผู้หญิงของข้าในที่สุด! ไม่ต้องกังวลไป เพราะข้าจะทำให้เจ้าเป็นหญิงสาวที่โชคดีที่สุดในโลก!”