มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1182
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1182
คุณกรอสอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมาอย่างได้ใจ
“จัดการเขาซะ!”
คุณกรอสหันไปตะโกนใส่บอดี้การ์ดของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง
พวกบอดี้การ์ดที่เหลือรีบพุ่งเข้าไปหาเจอรัลด์ในทันที หมายจะจัดการเขาให้สิ้นซากตามคำสั่งของเจ้านาย
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้นเอง บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำสองคนก็เดินเข้ามาและหยุดพวกเขาไว้
“พวกแกเป็นใครกัน!” คุณกรอสตะคอกพร้อมกับมองไปที่พวกเขา
“ตระกูลสมิท” บอดี้การ์ดตอบ
“ว่าอย่างไรนะ?”
คุณกรอสตัวสั่นไปทั้งตัว แล้วรีบวางปืนลงในทันที
“หมายความว่า ครอบครัวสมิทมาที่นี่จริง” แอปเนอร์พูดพร้อมกับยิ้มเจื่อน
ตระกูลสมิทถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ตระกูลที่มีอำอาจและมีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองลูเกา เมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลกรอส
ถึงแม้ว่าแอปเนอร์จะร้ายกาจเพียงใด แต่เขาก็รู้จักโลกนี้เป็นอย่างดี เขารู้ว่าต้องปฏิบัติตามกฏเกณฑ์อย่างเคร่งครัด และเขารู้อยู่แก่ใจว่าใครที่เขาสามารถตอแยได้ หรือว่าใครที่เขาไม่ควรจะตอแยด้วยเป็นอันขาด
“นายห้ามแตะต้องผู้ชายคนนี้ และห้ามยุ่งกับเด็กคนนั้นกับพ่อของเธอเป็นอันขาด! เพราะว่าพวกเขาทั้งสามคนอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหนูคนใหญ่ของตระกูลสมิท!” บอดี้การ์ดในสูทสีดำพูด
“เชอะ! คุณหนูใหญ่ของตระกูลสมิทอย่างนั้นเหรอ?! ฉันเป็น…”
คนรักของแอปเนอร์เกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เธอกำลังจะลุกขึ้นยืน แต่พอเธอเห็นสายตาของแอปเนอร์ที่ส่งมาเป็นคำเตือน เธอก็ต้องหยุดทันที
“ก็ได้ ในเมื่อคุณหนูใหญ่ของตระกูลสมิทเป็นคนพูดเอง ฉันก็จะเห็นแก่หน้าเธอ อีกอย่าง คนพวกนี้ก็เหมือนหมาข้างถนน ฉันจะปล่อยพวกมันไป ถ้าเธอต้องการ!”
แอปเนอร์พูดพร้อมกับพยักหน้า และยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
หลังจากนั้น เขาก็เข้าไปพยุงคนรักของเขา ก่อนที่พวกเขาจะเตรียมตัวกลับ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะกลับ แอปเนอร์ก็เดินเข้าไปหาเจอรัลด์ แล้วกระซิบข้างหูของเขา “น้องชาย! แกระวังตัวเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน รอก่อน สักวันฉันจะให้แกชดใช้สิ่งที่แกทำกับพวกเราในวันนี้!”
จากนั้นแอปเนอร์ก็กลับออกไปพร้อมกับแฟนของเขา
“คุณลุง นี่เงินหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ครับ คุณหนูใหญ่เป็นคนให้มาให้คุณลุง คิดซะว่าเธอซื้อหยกชิ้นนี้จากคุณลุงก็แล้วกันนะครับ!”
บอดี้การ์ดยื่นกล่องที่เต็มไปด้วยเงินหนึ่งหมื่นหน้าพันดอลลาร์ให้กับชายวัยกลางคน “นำเงินนี้ไปรักษาลูกสาวของคุณลุงก่อน ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณกรอส เขาจะไม่มายุ่งกับพวกคุณอีก!”
“ขอบคุณครับ! ฝากขอบคุณคุณหนูสมิทสำหรับความมีน้ำใจของเธอด้วยนะครับ!”
ชายวัยกลางคนรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เขาทำท่าเหมือนกำลังจะก้มลงกราบ แต่บอดี้การ์ดก็รีบห้ามเขาในทันที
เจอรัลด์เองก็รู้สึกซาบซึ้งใจ และเกิดความรู้สึกประทับใจในตัวคุณหนูคนโตของตระกูลสมิท
ในขณะนั้น หญิงสาวที่สวมหน้ากากสองคนก็กำลังยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากระยะไกล
เด็กสาวสองคนนั้น ก็คือเด็กสาวที่เดินลงมาจากขบวนรถหรูก่อนหน้านั้นนั่นเอง
ในขณะนั้นเอง ขบวนรถหรูก็กลับมารับพวกเธอ
ความจริงแล้ว ตอนที่คุนดรี้เดินมาถึงตรงนั้นกับน้องสาวของเธอ เธอไม่มั่นใจว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่ เธอแค่เห็นตอนที่คนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์พากันถอยกระจัดกะจายออกมาจากบริเวณนั้น
กลายเป็นว่าแอปเนอร์ได้ควักปืนของเขาออกมา และเล็งไปที่เด็กหนุ่มคนนั้น
หลังจากที่เธอสอบถามเหตุการณ์ที่เกินขึ้นจากผู้คนที่เดินผ่านไปมา เธอก็ดีรู้ว่าเหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร
ดังนั้นคุนดรี้จึงรีบส่งบอดี้การ์ดของเธอเข้าไปหยุดยั้งแอปเนอร์
จึงทำให้เรื่องราวออกมาเป็นอย่างที่เห็น
เธอเป็นคนที่มีจิตใจดี ด้วยเหตุนั้น เมื่อเธอเห็นใครกำลังประสบปัญหา เธอก็จะรีบยื่นมือเข้าไปช่วยอย่างไม่ลังเล
เจอรัลด์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกซาบซึ้งกับความยุติธรรมของหญิงสาว
เมื่อเขาได้ยินบอดี้การ์ดพวกนั้นพูดบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลสมิท เจอรัลด์ก็รีบหันไปมองทันที จากนั้นเขาก็เห็นคุนดรี้กำลังเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชน
คุนดรี้กำลังสวมหน้ากาก และเธอก็ยังพยักหน้าให้เจอรัลด์เล็กน้อยตอนที่หันมาสบตากับเขา
จากนั้นเธอก็หันกลับไป และขึ้นรถไปกับน้องสาวของเธอ
เธอไม่ได้สังเกตเลยว่า ตอนนี้เจอรัลด์กำลังอยู่ในอาการตกละลึง สมองของเขาว่างเปล่าทันทีที่เขาเห็นเธอ
ขณะนั้น เจอรัลด์กำลังตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
นั่นก็เพราะว่า เจอรัลด์ได้เห็นดวงตาของหญิงสาวและเขาก็รู้ในทันที มันเป็นดวงตาที่เขาคุ้นเคย และเขาก็ไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต
“มิล่า!”
เจอรัลด์ตะโกนชื่อของเธอออกมาด้วยความประหลาดใจ
เพราะว่าหญิงสาวคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากมิล่า
แต่หญิงสาวกลับไม่ได้ยินเสียงเรียกของเขา รถกำลังเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว
“มิล่า!”
เจอรัลด์รีบวิ่งตามรถที่กำลังแล่นห่างออกจากเขาไปเรื่อย ๆ…