มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1158
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1158
เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งบริเวณ ราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา และพื้นดินก็พร้อมที่จะแยกออกจากกันในไม่กี่วินาทีนี้
ในขณะที่เหตุการณ์ไม่คาดฝันกำลังเกิดขึ้น โลงศพแก้วก็ค่อย ๆ ลอยออกโดยมีมือข้างหนึ่งของเจอรัลด์ช่วยรองรับมันเอาไว้
ถึงแม้เจอรัลด์จะทำใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น…แต่เขาก็ไม่คาดคิดเลยว่า ประตูจะไม่ยอมเปิดออก! แต่มันกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย โซ่ที่มัดโลงศพใบใหญ่เอาไว้ก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรงเช่นกัน…
ทันใดนั้นเอง เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอีกเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น
พวกเขาเห็นโซ่เหล็กที่มัดโลงศพเอาไว้กำลังแตกออก ในขณะเดียวกันนั้น โลงศพแก้วก็มีท่าทีเหมือนอยากจะลอยออกไปจากที่นี่! แค่นั้นยังไม่พอ จู่ ๆ ดอกเด้ด แอนนี่ส์ จำนวนนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นมาตามกำแพง!
“นั่น…นั่นมันดอกเด้ด แอนนี่ส์ อีกแล้ว!” เชสเตอร์ตะโกนออกมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีด
ไม่นานดอกไม้พวกนั้นก็ขึ้นเต็มไปทั่วทั้งบริเวณ จากนั้นก็ค่อย ๆ มีเกสรโผล่ออกมาจากดอกไม้ทุกดอก
ทันใดนั้น อาการวิงเวียนก็กำเริบขึ้นอีกครั้ง
ก่อนที่ทั้งคู่จะทันคิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป กำแพงฝั่งหนึ่งของห้องก็แยกออกทันที ส่งผลให้น้ำทะเลปริมาณมากทะลักเข้ามาในห้องนั้นอย่างรวดเร็ว!
ถึงแม้ร่างกายของเขาในตอนนี้จะรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่เจอรัลด์ก็ยังคว้าโลงศพแก้วเอาไว้แน่น
จากนั้นไม่นาน เสาของพระราชวังก็เริ่มหักโค่นลงมาทีละต้น เศษซากของเสาแตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
ขณะนั้นเอง ขาของเจอรัลด์ก็เริ่มไร้ความรู้สึก เนื่องจากผลข้างเคียงจากพิษของเด้ด แอนนี่ส์ เขาทรุดเข่าลงบนพื้น และจ้องมองไปยังเชสเตอร์ที่กำลังถูกเศษซากของเสากระแทกร่าง
“ค คุณครับ!” เชสเตอร์ที่กำลังบาดเจ็บตะโกน ในขณะที่พยายามคลานเข้ามาเพื่อช่วยเจอรัลด์
แต่แล้วมวลน้ำขนาดใหญ่ก็พัดร่างของเขา ทำให้เขาไม่สามารถเข้ามาใกล้เจอรัลด์ได้
น้ำทะเลทะลักเข้ามาจนเต็มพื้นที่ของพระราชวัง เจอรัลด์รู้สึกได้ว่าตัวเองค่อย ๆ หมดสติลง พิษของเด้ด แอนนี่ส์ ได้เข้ามาควบคุมทุกส่วนของร่างกายเขา ทำให้เขาทนรับความเจ็บปวดไม่ไหวอีกต่อไป
แต่ก่อนที่เขาจะหมดสติ เขาก็เหลือบไปเห็นโลงศพสีดำใบนั้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้โซ่ตรวนที่มัดมันเอาไว้ได้หายไปแล้ว และฝาโลงก็ถูกเปิดออก จากนั้นก็มีแสงทึบสีดำพุ่งออกมาจากในโลง…!
ในขณะเดียวกัน ท้องฟ้าด้านบนเริ่มมืดลงแล้ว และกองทัพของครอบครัวคลอฟอร์ดก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอให้เจอรัลด์กลับขึ้นมา
ก่อนหน้านั้น คลื่นลมยังคงเงียบสงบ แต่จู่ ๆ เรือก็เริ่มโคลงเคลงอย่างแรง เนื่องจากมีคลื่นสูง จากนั้นก็มีสายฟ้าฟาดลงมา และพายุก็เริ่มโหมกระหน่ำเรือของพวกเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ด้วยคลื่นที่สูงและแรงมาก ที่ยังไม่ปรากฏให้เห็นก่อนหน้านี้ เรือของพวกเขาทำท่าเหมือนจะพลิกคว่ำจากแรงกระแทกที่รุนแรงของคลื่นยักษ์สึนามิ…
“เหตุการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? คุณคลอฟอร์ดยังอยู่ใต้นั้นไหม? ทั้งหมดนี้น่าจะเกิดจากกระแสน้ำที่ซ่อนอยู่ใต้ทะเลส่งผลให้เกิดคลื่นสูง! มีใครบอกฉันได้บ้างว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นใต้ท้องทะเลนั่น?!” พวกบอดี้การ์ดของเจอรัลด์ต่างพากันตะโกนอย่างเป็นกังวล
“เรือลำอื่นจับสัญญาณของเขาไม่ได้เลยครับ! สัญญาณเรดาร์ถูกบางอย่างรบกวนเช่นกัน!” หนึ่งในคนคุมเรือตะโกนขึ้นมา
และทันทีที่เขาพูดจบ จู่ ๆ แสงสีดำก็พุ่งขึ้นมาจากใต้ทะเล สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า!
“…นั่นมันบ้าอะไรน่ะ…?”
เหล่าบอดี้การ์ดยืนจ้องแสงสีดำที่กำลังพุ่งสูงเสียดฟ้าด้วยอาการตกตะลึง จากนั้นมันก็เริ่มร่วงกระจัดกระจายลงมา ราวกับฝนดาวตก!
“…นั่น…มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงใช่ไหม…?” บอดี้การ์ดคนหนึ่งถามด้วยความรู้สึกมึนงง
“พวกเราก็เห็นเหมือนกัน! นายไม่ได้คิดไปเองหรอก!”
“เดี๋ยว ทุกคน เร็วเข้า! ฉันเห็นสัญญาณ! เราเจอสัญญาณของคุณคลอฟอร์แล้ว!” บอดี้การ์ดตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ในขณะที่คลื่นในทะเลยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร่างของเจอรัลด์ที่ยังคงหมดสติก็ลอยขึ้นมาเหนือน้ำ แขนของเขายังคงกอดรัดโลงศพแก้วเอาไว้แน่น
สมองของเขาในตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า เนื่องจากอาการเจ็บปวดแสนสาหัส เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้เลย เขาจึงได้แต่กอดโลงศพเอาไว้โดยไม่ได้สนใจอย่างอื่นเลยแม้แต่น้อย…
พอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง และไม่แน่ใจว่าหมดสติไปนานแค่ไหนแล้ว จากนั้นเขาก็คิดกับตัวเอง ‘…ฉัน…ฉันรอดชีวิตจริงๆ เหรอเนี่ย…!’
“…จ เจอรัลด์…? ในที่สุด…เธอก็ฟื้นแล้ว!” เสียงหนึ่งตะโกนมาจากข้าง ๆ
เมื่อหันไปมอง เขาก็เห็นว่าแจสมินเป็นคนที่ตะโกนขึ้นมาเมื่อสักครู่นี้ เธอได้นั่งเฝ้าเขาอยู่ตรงนั้นมาเป็นเวลานานมากแล้ว และการที่เธอได้เห็นเขาฟื้นคืนสติขึ้นมาในที่สุด ก็ทำให้เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
สักพัก ท่านเฟนเดอร์สัน โจชัว และหัวหน้าบอดี้การ์ดก็พากันเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับตะโกน “คุณฟื้นแล้ว คุณเจอรัลด์!”
เจอรัลด์มองหน้าพวกเขา ก่อนจะถามว่า “…ผม…ผมหมดสิไปนานแค่ไหน…?”
“คุณหมดสติไปประมาณเดือนครึ่งได้แล้วครับ!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งตอบด้วยความเป็นห่วง
“…อะไรนะ? เดือนครึ่งเลยเหรอ? เดี๋ยวก่อนนะ แล้วโลงศพอมตะล่ะ หายไปไหน?” เจอรัลด์ถามด้วยความตกใจ
เมื่อได้ยินคำถามของเขา บอดี้การ์ดก็รีบตอบ “…คืออย่างนี้ครับ…เราคิดจะบอกเรื่องนี้กับคุณทันทีที่คุณฟื้นขึ้นมา…มันจริงที่คุณสามารถนำโลงศพนั้นขึ้นมาได้…ความจริงแล้ว มันน่าจะง่ายกว่า หากคุณไปดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ด้วยตาของตัวเอง…”