ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 149 เวียนศีรษะอยากจะอ้วก
ซุ่ยซุ่ยถูกคำพูดของทั้งสองคนทำให้ตื่น ลืมตาขึ้นมา เรียกเสียงเบา“ปะป๊า…”
ลี่เย่ถิงสีหน้าค่อยๆอบอุ่นขึ้น โน้มตัวลง ลูบแก้มเล็กของซุ่ยซุ่ย และพูด“พ่ออยู่ตรงนี้”
“พี่สาวล่ะ?”ซุ่ยซุ่ยมองไปรอบๆ มองไม่เห็นเฉียวเหวยอี ถามด้วยความงงงวย
“เธอไปถ่ายละครแล้ว”เอ่ยถึงเฉียวเหวยอี ลี่เย่ถิงก็สีหน้ามืดครึ้มลง
ซุ่ยซุ่ยสายตากะพริบความผิดหวัง
เวลาที่พี่สาวอยู่ปะป๊าก็ไม่อยู่ ปะป๊ากลับแล้ว พี่สาวก็ไปแล้ว
ดูเหมือนว่า สวนสนุกไปไม่ได้แล้ว
“มีตรงไหนที่ไม่สบายไหม?บอกพ่อ”ลี่เย่ถิงจับมือของซุ่ยซุ่ยไว้ พูดถาม
“ไม่มี”ซุ่ยซุ่ยส่ายหน้า
หลังจากนั้น ใบหน้าฝังลงไปที่เฉียวเหวยอีนอนเมื่อคืน อืม หอม เฉียวเหวยอีมักจะมีกลิ่นหอมบนตัว หอมมาก
“พี่สาวเมื่อคืนกอดซุ่ยซุ่ยนอนหลับด้วยกัน”หลังจากนั้นซุ่ยซุ่ยก็พูดโม้อิ่มอกอิ่มใจยังช่วยซุ่ยซุ่ยขูดหลัง สบายมากเลย!”
ฟู่หลี่หางตามองเห็นรอยแดงเล็กๆบนหลังคอของซุ่ยซุ่ย
เขาเดินเข้าไป เปิดเสื้อของซุ่ยซุ่ยออก มองด้านหลังของเขา มีจุดสีแดงและสีม่วงที่กระดูกสันหลังของซุ่ยซุ่ย ดูเหมือนว่า เป็นเฉียวเหวยอีที่ทำกัวซาให้ซุ่ยซุ่ย
พูดตามหลัก ซุ่ยซุ่ยยังมีไข้นิดหน่อย น่าจะท่วมตัวไม่สบาย แต่เขาพูดว่าตัวเองไม่เป็นไร น่าจะเป็นเพราะขูดกัวซา
“ท่านอารมณ์เสียใส่ทุกคนตอนเช้าตรู่ คงจะไม่ใช่เพราะว่าเฉียวเหวยอีไม่อยู่หรอกนะ?”ฟู่หลี่จ้องมองลี่เย่ถิงด้วยอารมณ์ซับซ้อน พูดถามหยั่งเชิง
“ครั้งนี้นายไม่ถูก ซุ่ยซุ่ยไข้เธออยู่เป็นเพื่อนตลอด ยังใช้แรงกายแรงใจหาวิธีทำให้ลูกดีขึ้น ก็เพราะว่าเธอต้องทำงานจึงต้องออกไป นายก็อารมณ์เสียแล้ว ไม่มีเหตุผลเกินไปหรือเปล่า?”
ลี่เย่ถิงเป็นคนที่ไร้เหตุผลมาโดยตลอด
“นายคิดดู เมื่อวานฉันสั่งให้เธออย่าหยุดให้ลูกกินยา ฉันเดาว่าเมื่อคืนเธอก็ยังไม่ได้นอนหลับสนิท เธอ…”
ฟู่หลี่ไม่ได้พูดจบ ลี่เย่ถิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น “ทำไมนายพูดเยอะแบบนี้?”
“พอแล้ว ฉันปากต่ำช้า”ฟู่หลี่พูดตอบด้วยความโกรธ
ฟู่หลี่ถึงแม้จะดูออกว่า ลี่เย่ถิงก็เป็นผู้ชายเลวที่ไร้ความรู้สึก!
เขาถือว่าเป็นหมอประจำตระกูล โดยปกติเขามีหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาทุกประเภทกับลี่เย่ถิง เป็นเพื่อนที่รู้ใจ น้าชายที่ใกล้ชิดที่สุด เงินก็ไม่ได้เพิ่มให้เขา สู้ไปที่ฟู่ฉือดีกว่า
ถึงแม้ว่าจะอันตราย แต่ว่าเงินเดือนสูง และไม่มีใครกล้าหักหน้าเขา
……
เฉียวเหวยอีถ่ายสองฉากยาว เวลาที่นั่งพักผ่อน สีหน้าไม่ค่อยดี
ถังหยวนเป่าเดินเข้ามาส่งน้ำให้เธอ มองไปที่เธอ ถามเธอ“ไม่สบาย?”
เฉียวเหวยอีส่ายหน้า พูดตอบ“เปล่า อาจจะเมื่อคืนไม่ได้นอนหลับสนิท”
“ทำไมนอนหลับไม่สนิท?”
เฉียวเหวยอีไม่เคยพูดเรื่องลี่เย่ถิงกับถังหยวนเป่า และไม่เคยเอ่ยถึงซุ่ยซุ่ย ก่อนหน้านี้เวลาที่ยืมรถของถังหยวนเป่า เพียงแค่พูดว่าไปรับลูกของญาติเลิกเรียน
“ก็เมื่อคืนท่องบทพูดของนักแสดง ท่องอย่างบ้าคลั่ง ก็นอนไม่หลับแล้ว”เฉียวเหวยอีหัวเราะ พูดตอบ
“งั้นฉันไปซื้อกาแฟให้เธอ”ถังหยวนเป่าหลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน
เฉียวเหวยอีกำลังจะพูดว่าไม่ต้อง ถังหยวนเป่าก็ออกไปแล้ว
เฉียวเหวยอีก็ไม่รู้เป็นเพราะว่าตัวเองติดไข้จากซุ่ยซุ่ยไหม ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เวียนศีรษะอยากจะอ้วกตลอด แต่ว่าลูบหน้าผากก็ไม่ร้อน และไม่ได้คัดจมูก
แต่อาจจะเป็นเพราะว่านอนหลับไปสนิท
ฝืนใจดื่มกาแฟที่หยวนเป่าไปซื้อให้เธอ รู้สึกว่าดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นเวลาที่ถ่ายละคร ก็เกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมาทันใด
เธอยังคงห้อยอยู่ในอากาศด้วยสลิง ส่งสัญญาณมือหยุดไปทางผู้กำกับโดยตรง