ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 77 เรื่องราวที่เพิ่มขึ้น(สอง)
"เป็นถึงนายแล้ว ทำไมถึงยังแทนตัวว่าหม่อมฉันตลอดล่ะ?" หยุนชางไม่ตอบรับต่อคำพูดของนาง แต่ถามเกี่ยวกับเรื่องอื่น
ฉินเมิ่งยิ้มอย่างชะงัก "หม่อมฉันคุ้นเคยกับมันแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนได้อย่างกระทันหัน"
หยุนชางพยักหน้าและตอบแค่ "อืม" โดยไม่ได้พูดอะไร
ฉินเมิ่งดูประหม่ามากยิ่งขึ้น ร่างกายของนางก็สั่นเล็กน้อย เป็นเวลานานก่อนจะพูดว่า "หลายวันมานี้องค์หญิงไปไหนมาหรือเพคะ?"
หยุนชางคิดว่ามันตลกเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงหัวเราะออกมาจริงๆ "หรือว่า ข้าจะไปไหนก็ต้องขอคำแนะนำจากเมิ่งฉางจ้าย"
ฉินเมิ่งรีบส่ายหัว "องค์หญิงโปรดยกโทษให้ หม่อมฉันด้วยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้หมายความว่าเช่นนี้…"
"โอ๋ แล้วหมายความว่าอย่างไร" เมื่อเห็นฉิน เมิ่งไม่ได้พูดเป็นเวลานาน หยุนชางเอนหลังนอนบนฟูกนุ่มอีกครั้ง และเงยหน้าขึ้นมองฉินเมิ่งพูด
ฉินเมิ่งกัดริมฝีปากของนาง เงียบครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "ฉินเมิ่งขอบพระทัยองค์หญิงสำหรับพระคุณที่ช่วยชีวิตหม่อมฉันเมื่อครั้งก่อน ฉินเมิ่งเคยพูดแล้วว่า ต่อจากนี้นายของฉินเมิ่งคือองค์หญิง ฮองเฮาและองค์หญิงหัวจิ้งต้องการคิดร้ายกับองค์หญิงจริงๆ องค์หญิงควรป้องกันไว้เป็นดีที่สุด"
หยุนชางส่งเสียง "อืม" อย่างแผ่วเบา
ฉินเมิ่งเห็นว่าหยุนชางไม่ตอบรับใดๆ จึงรีบกล่าวว่า "องค์หญิง ท่านต้องระวังฮองเฮาและองค์หญิงหัวจิ้ง ถ้าหากว่า ถ้าหากว่ามีอะไรที่ต้องการใช้ฉินเมิ่ง องค์หญิงก็รับสั่งได้เลยเพคะ"
ยุนช้างมองที่ฉินเมิ่ง ถามว่า "หลังจากที่เจ้าได้กลายเป็นเมิ่งฉางจ้าย เป็นยังไงบ้าง? ยังมีคนรังแกเจ้าอีกหรือไม่?"
ฉินเมิ่งกัดริมฝีปากของนางและก็เงียบไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้น นางแค่ส่ายหัว "หม่อมฉันสบายดีเพคะ หยิงเจี๋ยยวี๋เป็นคนตรงไปตรงมา และนางก็ยัง… เข้ากับคนง่ายมาก…"
"เข้ากับคนง่ายมาก?" หยุนชางยิ้มเล็กน้อยและไม่เปิดโปง พูดเพียงว่า "ฉินเมิ่ง ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นคนฉลาดมาตลอด แต่ในวังนี้ ความฉลาดเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ฉลาดยิ่งตายเร็ว มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเจ้าต้องการอะไร แต่ว่า ทำอย่างไรจึงจะได้สิ่งที่เจ้าต้องการ หวังว่าเจ้าจะรู้บางสิ่งเช่นกัน หากเจ้าตัดสินใจไม่ได้ หากเจ้าไม่สามารถทำตามขั้นตอนนั้นได้ เจ้าจะต้องอยู่ในที่ตรงจุดนั้นตลอดไป หรือแม้แต่ เดินลงเนิน…"
ใบหน้าของฉินเมิ่งบูดบึ้งและนางไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ดูเหมือนกำลังจะร้องไห้ หลังจากเงียบไปนาน นางก็คุกเข่าลงและพูดว่า "องค์หญิง หม่อมฉันขอความช่วยเหลือจากองค์หญิง หยิงเจี๋ยยวี๋คิดเสมอว่า หม่อมฉันคือคนของฮองเฮา และนางก็ไม่ฟังคำอธิบายเลย นางมุ่งเป้ามาที่หม่อมฉันทุกอย่าง ทุบตีและดุว่าหม่อมฉัน หม่อฉันทนมากพอแล้ว ขอร้ององค์หญิง หม่อมฉันจะยอมทำทุกอย่าง หม่อมฉันรู้ว่า องค์หญิงจะต้องมีวิธี มีทางช่วยหม่อมฉันได้เพคะ"
หยุนชางยิ้ม "เจ้ายินดีจะทำทุกอย่างจริงหรือ"
ฉินเมิ่งรีบคำนับอย่างรวดเร็ว "หม่อมฉันเต็มใจ หม่อมฉันเต็มใจที่จะทำ"
หยุนชางพยักหน้าและพูดว่า "ข้าทราบแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรอยากให้เจ้าทำ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ทางหยิงเจี๋ยยวี๋ข้าจะช่วยเจ้าจัดการเอง แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะทำตามคำพูดของเจ้า และข้ามีอะไรจะบอกเจ้า นั่นคือ… พึ่งพาผู้อื่นมิสู้พึ่งพาตนเอง เจ้าอยากจะก้าวไปข้างหน้า เจ้าต้องโหดร้าย ไม่ใช่แค่โหดร้ายกับคนอื่น แต่ก็โหดร้ายกับตัวเองด้วยเหมือนกัน"
ฉินเมิ่งได้ฟัง ก็ตกตะลึงและพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า "หม่อมฉันทราบแล้ว หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ"
หยุนชางยิ้ม นางโบกมือแล้วพูดว่า "ถอยไปเถอะ อย่าให้ใครเห็นว่าเจ้ามาที่นี่ ถ้ามีคนเห็นเจ้า เจ้าก็จะยากที่จะแก้ตัว"
"ไม่เป็นไร ทุกคนต่างไปที่พระราชวังชีอู๋ ไม่มีใครสนใจหม่อมฉัน หม่อมฉันทูลลาเพคะ" ฉินเมิ่งกล่าว แล้วคำนับหยุนชางอีกครั้งแล้วถอยกลับ
ฉินยีเดินไปหาหยุนชางและพูดว่า "ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ก็ไม่จำเป็นทำเช่นนั้นตั้งแต่ต้น ถ้าฉินเมิ่งไม่ได้ช่วยฮองเฮาปองร้ายองค์หญิงในตอนต้น ตอนนี้นางจะไม่จบลงแบบนี้"
หยุนชางยิ้ม "ในตอนนั้น ข้าเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพลังและไม่มีอำนาจใดๆ ในโลกนี้ มีคนไม่กี่คนที่ให้ความช่วยเหลือในยามที่คนคับขัน และคนประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลนั้น มีอยู่ไม่ขาดสาย ฉินเมิ่งเพียงแค่เลือกเส้นทางที่หลายคนจะเลือกเท่านั้นเอง"
หยุนชางถอนหายใจ มองไประยะไกล ฉินยี่ก็พบว่านั่นคือทิศทางของพระราชวังชีอู๋ และพูดเบาๆว่า "องค์หญิงยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้หรือเพคะ? ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่จำเป็นต้องคิดแล้วเพคะ วันหนึ่งความจริงจะปรากฏเอง"
หยุนชางส่ายหัว "ข้าไม่ใช่ไม่เข้าใจ ข้าแค่เป็นห่วง เป็นห่วงเสด็จแม่…" เสด็จแม่ถูกเสด็จพ่อทำให้เสียพระทัยเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว นางขังตัวเองอยู่ในตำหนักเย็นชั่วขณะหนึ่ง แต่ตอนนี้นางออกมาเพราะข้า และยังทรงตั้งครรภ์อยู่ แต่นางกำลังจะโดนทำร้ายอีกครั้ง แม้ว่าเสด็จแม่จะพูดเสมอว่าท่านหมดหวังกับเสด็จพ่อมานานแล้ว และไม่มีความรู้สึกใดๆเลย แต่ว่า ท่านก็คงจะมีความกังวลอยู่เป็นแน่
ฉินยีพยักหน้า "นายหญิง…" หลังจากนั้นไม่นานก็พูดว่า "ตอนต้นฝ่าบาทไม่ใช่ได้ยินที่หมอหลวงบอกว่าฮองเฮาตั้งครรภ์ และพระองค์ก็ทรงรีบเสด็จไปหรือเพคะ? หม่อมฉันได้ยินว่าฝ่าบาทไปพระราชวังชีอู๋ ฮองเฮาอยู่ในห้องโถงด้านข้างของตำหนักฉินเจิ้ง แต่ฝ่าบาทไปที่พระราชวังชีอู๋ ซึ่งอธิบายได้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือ ฝ่าบาทไปพบนายหญิง สันนิษฐานว่า ฝ่าบาทใส่ใจนายหญิงมาก กว่าเพคะ"
หยุนชางตอบรับ "อืม" คำเดียว โดยไม่พูดอะไรอีก
ข่าวที่ฮองเฮาตั้งครรภ์ทำให้เกิดคลื่นในวังหลัง และผู้ที่ไปแสดงความยินดีตลอดไม่ขาดสายจนถึงตอนเย็น หยุนชางหงุดหงุดในใจ เมื่อเห็นว่ารอบนอกเงียบสงบลงแล้ว ก็แอบฉินยีและเฉี่ยงอินออกจากตำหนักชิงซินอย่างเงียบๆ
หลังจากเดินไปรอบๆ ทะเลสาบครู่หนึ่ง หยุนชางก็พิงต้นไม้พักผ่อน แต่ได้ยินเสียงจากระยะไกล
"นายหญิง นี่ฮองเฮา ทำไมถึงบอกว่าตั้งครรภ์ก็ตั้งครรภ์แล้วเพคะ? หม่อมฉันจำได้ว่าฮ่องเต้ไม่ได้ไปตำหนักของฮองเฮานานแล้วนะเพคะ" น้ำเสียงมีความสงสัยเล็กน้อย ฟังน้ำเสียงนี้ คงเป็นนางกำนัลของตำหนักใดสักแห่ง
จากนั้น เสียงหญิงสาวผู้หนึ่งก็ดังขึ้น "ในวันที่ 15ของเดือนที่แล้ว ฝ่าบาทได้ไปพักอยู่ในตำหนักของฮองเฮา"
เสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย หยุนชางครุ่นคิดในหัว และล็อคเป้าหมาย คือสนมซู่
"แต่อย่างไรก็ตาม พระสนมจิ่นก็อาศัยอยู่ในพระราชวังชีอู๋เช่นกัน หม่อมฉันได้ยินจากคนในพระราชวังชีอู๋ว่าในเดือนที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ฝ่าบาทไปที่พระราชวังชีอู๋ พระองค์จะไปเยี่ยมพระสนมจิ่นตลอดนะเพคะ…"
หยุนชางได้ยินสนมซู่ถอนหายใจอีกครั้ง มีความดูถูกเล็กน้อยในคำพูดของนาง "ฮ่าฮ่า ใครจะรู้ว่านางมารเฒ่าได้ใช้แผนการใดให้ฝ่าบาทอยู่บนเตียงของนางหรือไม่ แม้แต่นางกำนัลของนางก็สามารถถวายให้ได้ และอะไรอีกที่นางทำไม่ได้"
นางกำนัลที่พูดในตอนต้นลดเสียงลง "นายหญิง ท่านว่า เด็กคนนี้ ท่านอ๋องจะยอมให้นางเอาไว้หรือไม่"
ท่านอ๋อง? หยุนชางตกตะลึง นางกำนัลผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? อะไรคือเด็กคนนี้ท่านอ๋องจะยอมให้นางเอาไว้หรือไม่? หยุนชางเพียงรู้สึกตกใจ และตั้งใจฟังคนทั้งสองพูดอย่างตั้งใจมากขึ้น
สนมซู่ไม่ตอบรับเป็นเวลานานว่า ผ่านไปสักพักค่อยพูดว่า "ข้าก็ไม่รู้ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ตั้งแต่หลังจากที่ข้าเข้าวัง เมื่อใดก็ตามที่มีนางสนมตั้งครรภ์ อีกไม่กี่วัน ข้าก็จะได้รับคำสั่งจากท่านอ๋อง ให้ข้าพยายามกำจัดเด็กในท้องของนางสนมที่ตั้งครรภ์อย่างเงียบๆ ข้าก็ทำได้ดีมาโดยตลอด ครั้งเดียวที่เกือบพลาดคือเมื่อตอนลงมือกับหยิงเจี๋ยยวี๋ แต่ข้าก็ประสบความสำเร็จที่ทำให้หยิงเจี๋ยยวี๋หันไปสงสัยเรื่องทั้งหมดในตัวฮองเฮา อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้สนมจิ่นได้ตั้งครรภ์ แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวจากท่านอ๋อง คราวนี้ฮองเฮากำลังตั้งครรภ์ ข้าก็ไม่รู้ว่า ท่านอ๋องจะต้องการให้ข้าลงมือหรือไม่ แต่ข้าเดาว่า ในวังนี้ มีคนไม่น้อยที่ต้องการให้เด็กคนนี้หายไป คนแรกในแถวคือหยิงเจี๋ยยวี๋ แม้ว่าข้าจะไม่ได้ลงมือ เด็กคนนี้ก็อาจจะไม่สามารถอยู่รอดได้…"