ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 148 หยุนชาง จิ้งอ๋องทรงประพาสเทศกาลท่าชิง
จิ้งอ๋องไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า " หลังจากเทศกาลท่าชิงแล้ว ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่วังด้วยตัวข้าเอง สองสามวันนี้เจ้าก็อย่าได้ออกวัง เหตุการณ์หนึ่งคือในจดหมายของจางเจียชิงซูนั้นคนที่เขาประสงค์สมรสคือเจ้า และเขาไม่ทราบว่าได้ถูกเปลี่ยนเป็นหัวจิ้งแทนแล้ว ข้าเกรงว่าเขาจะประสงค์ร้ายต่อเจ้า ประการที่สอง ในเมื่อชางเจียชิงซูมาถึงที่เมืองหลวงแล้ว เราก็ไม่ทราบว่าแคว้นเซี่ยได้มีการเคลื่อนไหวใดๆหรือไม่ ช่วงเวลานี้เมืองหลวงอาจจะวุ่นวายเล็กน้อย"
"การที่หม่อมฉันอยากออกวังนั้น มิใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใดเพคะ" หยุนชางกล่าวจบ ก็หลับตาลงและไม่สนใจจิ้งอ๋องอีกต่อไป แม้ว่าเมื่อสักครู่นี้ด้วยเหตุของชางเจียงชิงซู ตนได้ปฏิบัติต่อจิ้งอ๋องดีขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่า ตนจะปฏิบัติต่อเขาอย่างดีจริงๆ
เกวียนม้าแล่นไปครู่หนึ่งจึงหยุดลง จิ้งอ๋องทรงเปิดประตูและกระโดดลงไปก่อน ขณะที่หยุนชางเดินออกไปก็พบว่าจิ้งอ๋องยืนอยู่ข้างๆและยื่นมือไปหาหยุนชาง
หยุนชางขมวดคิ้วและกำลังจะปฏิเสธ เพื่อที่จะกระโดดลงไปด้วยตนเอง และก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา "องค์หญิงเสด็จแล้วหรือ? พวกเรารออยู่นานแล้วนะเพคะ"
หยุนชางเงยหน้าขึ้นและเห็นหวังจิ้นฮวนในชุดสีแดงกำลังเดินเข้ามาหาตน โดยมีหญิงสาวหลายคนตามหลังมา
หยุนชางถอนหายใจ แล้วจึงวางมือไว้ในมือของจิ้งอ๋อง และให้เขาช่วยพยุงตนลงจากเกวียน หยุนชางเงยหน้าขึ้นและเห็นว่านี่เป็นเนินเขา สงสัยจะถูกใช้สำหรับเทศกาลท่าชิง เพราะฉะนั้นทางจึงเรียบและกว้างมาก
จิ้งอ๋องพยุงตัวหยุนชางไว้ แล้วหันไปขมวดคิ้วและเหลือบมองหญิงสาวที่ตามหลังหวังจิ้นฮวนมา พร้อมกล่าวด้วยความเสียดสีเล็กน้อย "เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ก็มีหญิงสาวมาล้อมรอบตัวเจ้าเช่นนี้ เจ้าช่างเนื้อหอมเสียจริง"
หวังจิ้นฮวนเงยหน้าขึ้นและลูบผม ยิ้มและกล่าวว่า " หึหึ เจ้าไปนานเช่นนี้ ข้าอยู่ที่นี่เดียวเหงาเหลือเกิน ข้าพบคุณชายสามเวินชิงจู๋ของรองเจ้ากรมมหาดไทยที่นี่พอดี จึงชวนท่านมาเล่นด้วยกัน แต่ไม่ทราบว่าท่านจะพาเหล่าสาวๆมาเยอะเช่นนี้ สุดท้ายจึงกลายเป็นแบบนี้"
เวินชิงจู๋? แสดงว่าหญิงสาวที่เย็นชาผู้นั้นก็อยู่ที่นี่ด้วยล่ะสิ? จึงเงยหน้ามอง และพบหญิงสาวผู้นั้นเอนกายอยู่ใต้ต้นไม้อยู่ที่ไกลๆและกำลังมองมาที่ตน พร้อมรอยยิ้มที่ดูเยาะเย้ยเล็กน้อย
ช่างเป็นสาวงามที่มีพิษภัยเสียจริง
"หม่อมฉันขอถวายบังคมจิ้งอ๋องเพคะ" หญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของหวังจิ้นฮวนกล่าวด้วยท่าทีเขินอาย แล้วโน้มตัวลง จิ้งอ๋องพยักหน้าอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "นี่คือองค์หญิงฮุ่ยกั๋ว พวกเจ้าก็คารวะพร้อมกันเลยแล้วกัน"
หญิงสาวหลายคนกำลังแอบมองหยุนชาง และแอบคาดเดาสถานะของนางอยู่ในใจ เมื่อเห็นจิ้งอ๋องกล่าวเช่นนี้ ต่างก็ตกตะลึงอย่างมากและรีบถวายบังคม " หม่อมฉันถวายบังคมองค์หญิงเพคะ"
หยุนชางพยักหน้าและกล่าวว่า "วันนี้เป็นวันเทศกาลอยู่แล้ว และข้าเองก็มาเที่ยวเล่นเช่นนี้ ทุกคนมิต้องพิธีรีตองมากนักก็ย่อมได้"
จิ้งอ๋องจ้องมองไปที่หยุนชางด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนอย่างมาก "เมื่อวานนี้ข้าทำว่าวกระดาษให้เจ้าด้วยมือของข้าเอง ข้าให้คนไปนำมาประเดี๋ยวนี้ เจ้าดูซิว่าโปรดหรือไม่?"
ว่าวกระดาษหรือ? หยุนชางแอบสะอื้นอยู่ในใจ อย่าเลย อายุของนางเมื่อนำทั้งชาติก่อนและชาตินี้มารวมกันก็เกือบจะสี่สิบแล้ว ยังจะเล่นว่าวกระดาษอยู่หรือ? ทันใดนั้นนางก็ส่ายหัวและกล่าวว่า "พระวรกายของหม่อมฉันมิค่อยแข็งแรง หรือว่า… " หยุนชางจ้องมองไปที่หวังจิ้นฮวนซึ่งยิ้มอย่างมีเล่ศนัย จึงยิ้มมุมปากและกล่าวต่อว่า "ให้คุณชายอ๋องเล่นให้พวกเราดูกันเถิด หม่อมฉันเห็นภาพที่คุณชายช่วยทุกคนปล่อยว่าวกระดาษ คุณชายดูช่ำชองอย่างมาก แม้ว่าหม่อมฉันจะไม่สามารถเล่นเองได้ แต่ก็ดีที่ได้เห็นเพคะ"
จิ้งอ๋องหัวเราะดังลั่นเมื่อได้ยินเช่นนี้ "เอาล่ะ เช่นนี้ก็ให้คุณชายเล่นให้เราดูแล้วกัน"
ทุกคนไม่เคยได้พบจิ้งอ๋องทรงหัวเราะอย่างมีความสุขเช่นนี้ ทันใดนั้นทุกคนต่างก็ตะลึง ผ่านไปอยู่นานหวังจิ้นฮวนจึงกล่าวว่า "เหตุใดจึงอยากให้กระหม่อมเป็นคนเล่นขอรับ? ลั่วชิงเหยียนก็เล่นได้มิใช่หรือ?"
จิ้งอ๋อง? หยุนชางหันไปมองที่จิ้งอ๋อง ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า "ช่างมันเถิด ท่านอายุมากแล้ว ให้ท่านมาวิ่งมากระโดดเล่นว่าวกระดาษเช่นนี้ คงจะตลกอย่างมาก"
เมื่อหวังจิ้นฮวนได้ยินเช่นนี้ ก็อดที่จะคิดภาพที่จิ้งอ๋องปล่อยว่าวขึ้นมาในหัวมิได้ ทันใดนั้นเขาก็ชะงัก และไอเบาๆไปสองที จึงได้กล่าวต่อหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังว่า า "สาวๆ เราไปปล่อยว่าวกระดาษกันเถิด!"
จิ้งอ๋องมองดูหวังจิ้นฮวนพาหญิงสาวเหล่านั้นออกไป เขาก็เอนตัวเข้าที่ข้างหูของหยุนชางและกล่าวว่า " ชางเอ๋อร์ชังที่ข้าอายุเยอะหรือ?"
หยุนชางขมวดคิ้วและมิได้สนใจเขา
"หม่อมฉันน้อมถวายบังคมท่านจิ้งอ๋องและองค์หญิงขอรับ" เสียงของชายผู้หนึ่งดังมาจากข้างหลัง
เมื่อ หยุนชางและจิ้งอ๋องหันกลับมา ก็เห็นชายคนชุดสีน้ำเงินยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา ริมฝีปากแดงอิ่ม ดูอ่อนโยนสง่าราวกับหยกขาว จึงนึกถึงสิ่งที่หวังจิ้นฮวนกล่าวเมื่อสักครู่นี้ แล้วทราบว่าชายผู้นี้คงเป็นเวินชิงจู๋
จิ้งอ๋อวพยักหน้า "ได้ข่าวว่าอีกไม่กี่วันใต้เท้าเวินก็จะสมรสแล้ว ข้าก็ขอแสดงความยินดีต่อใต้เท้าเวินแล้วกันนะ"
ท่าทีของเวินชิงจู๋ดูปลื้มปีติอย่างมาก จึงกล่าวอย่างรวดเร็ว "ขอบพระคุณท่านอ๋องขอรับ"
จิ้งอ๋องมิได้สนใจเขาอีกต่อไป เอาแต่พูดคุยกับหยุนชาง "เราไปดูพวกเขาเล่นกันบนเนินเขากันเถอะ ข้าได้สั่งให้คนนำผ้าไปปูไว้แล้ว ไปพักผ่อนบนนั้นก็ไม่เลวเหมือนกันนะ"
หยุนชางพยักหน้า และเมื่อจิ้งอ๋องเดินขึ้นไปบนเนินเขา เนินเขานั้นไม่สูงมากและลาดไม่ชันเท่าไหร่ ไม่ต้องใช้แรงในการเดินเยอะ อีกฝั่งหนึ่งของเนินเขาเป็นทะเลสาบที่มีเรืออยู่ไม่กี่ลำ
จิ้งอ๋องเห็นว่าหยุนชางกำลังมองดูที่เรือในทะเลสาบ จึงกล่าวอีกครั้งว่า "เครื่องคาวบนเรือนั้นก็มีรสชาติที่ดีเช่นกัน หากว่าหิวขึ้นมา เราเสวยพระกระยาหารที่นั่นแล้วกัน"
หยุนชางมองเห็นหวังจิ้นฮวนถือว่าวทรงผีเสื้ออยู่ในมือ ผีเสื้อที่อยู่บนว่าวนั้นดูสมจริงอย่างมาก แต่การใช้พู่กันนั้นแรงเกินไป ทำให้ความนุ่มนวลของผีเสื้อหายไป รูปแบบการวาดภาพค่อนข้างคุ้นเคย จึงนึกขึ้นได้ว่า จิ้งอ๋องทรงวาดว่าวให้นางกับมืออยู่หนึ่งอัน จึงรู้สึกขบขันในใจ หรือว่าตัวที่จิ้งอ๋องทรงวาดคือตัวนี้? แม้จะตลก แต่ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า คนอย่างจิ้งอ๋องยอมทำเช่นนี้เพื่อตน หากบอกว่าเขาทำเช่นนี้ไม่หวังกระไร ตนไม่เชื่ออย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าไม่ทราบว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้
ขณะที่คิด ก็ได้ยินเสียงขิมที่ไพเราะดังขึ้นจากเรือในทะเลสาบ ทันใดนั้นก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนไปมากมาย
หวังจิ้นฮวนก็วิ่งเข้าไปด้วยเช่นกัน แต่ว่าสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่ เขาขมวดคิ้วและพูดกับบ่าวใช้ที่อยู่ข้างหลังว่า "ไปสืบให้ข้าหน่อยว่าหนิงเย่อยู่บนเรือหรือไม่ ไอ้ชั่วช้านั้นยังกล้าที่จะโผล่หน้ามาให้ข้าเห็นอีกหรือ คอยดูข้าจะจัดการมันเอง เสียงขิมที่ไพเราะเช่นนี้ นอกจากเฉียนเฉี่ยนของข้าแล้ว ไม่มีใครสามารถบรรเลงได้อีก"
เมื่อบ่าวใช้ได้ยินเช่นนี้ จึงกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าโศกว่า "คุณชายขอรับ ข้าน้อยขอร้องนะขอรับ อย่าสร้างปัญหาเลยนะขอรับ วันก่อนท่านก็ลงมือกับท่านจวิ้นอ๋องเพราะแม่นางที่ชื่อเฉี่ยนเฉียนนั้น นายท่านก็ดุว่าท่านไป และไม่อนุญาตให้ท่านก้าวออกจากประตูจวนไป ถ้าหากนายท่านรู้ว่าท่านมาสร้างปัญหาอีกล่ะก็ นายท่านคงจะหักขาท่าน และเฆี่ยนข้าน้อยถึงตายอย่างแน่นอนขอรับ"
หวังจิ้นฮวนยกเท้าขึ้นเตะบ่าวใช้ผู้นั้นแล้วกล่าวว่า "ข้าสั่งให้ไปเจ้าก็ไป ลีลาอยู่ได้ หากว่าท่านพ่อสอบถามเรื่องนี้ ข้าจะรับโทษทั้งหมดไว้เอง"
แม้ว่าบ่าวใช้นั้นจะไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องเดินลงไปด้วยสีหน้าที่ขมขื่น
"ใครคือหนิงเย่หรือ?" หยุนชางหันไปถามหวังจิ้นฮวน
หวังจิ้นฮวนตอบอย่างไม่สบอารมณ์ "เป็นลูกชายคนสุดท้องของซุ่นชิ่งอ๋องขอรับ หากนับตามลำดับรุ่นแล้ว เขาเป็นรุ่นอาของท่านขอรับ เขาก็เป็นแค่ชายไร้ยางอาย ก่อนหน้านี้ข้าชอบ หลิ่วเอ๋อร์ของหอลั่วฮัว เขาก็มาแย่งชิงกับกระหม่อม หลังจากนั้นข้าโปรดปรานเฟ่ยของหอจงชิงหยุน เขาก็ยังมาแย่งกับกระหม่อมอีกครั้ง ตอนนี้กระหม่อมโปรดปรานเฉี่ยนเฉียน เขายังจะแย่งกับกระหม่อมอีก! ไม่ทราบเช่นกันว่าเขาใช้เล่ห์กลอะไร เฉี่ยนเฉียนถึงยอมออกมาเที่ยวเล่นกับเขาในวันนี้"
ขณะที่กล่าว ดวงตาของหวังจิ้นฮวนก็เป็นประกายขึ้น "องค์หญิงขอรับ แม่นางเฉี่ยนเฉียนกับองค์หญิง เอิ่ม มีความเกี่ยวข้องเล็กน้อย หรือว่าองค์หญิงสั่งให้นางคุยกับกระหม่อม และออกไปเที่ยวเล่นกับกระหม่อมได้หรือไม่ขอรับ?"
หยุนชางเลิกคิ้ว สองสามวันก่อนตนได้สั่งให้หนิงเฉี่ยนไปตรวจสอบเรื่องจิ้งอ๋อง เมื่อฟังจากคำพูดของหวังจิ้นฮวนแล้ว ดูเหมือนว่านางจะคุ้นเคยกับท่านจวิ้นอ๋องของจวนซุ่นชิ่งอ๋องอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าหยุนชางไม่ได้ตอบ หวังจิ้นฮวนก็กังวลอย่างมาก และรีบคว้ามือของหยุนชางไว้ กล่าวด้วยความอ้อนวอนว่า "องค์หญิงขอรับ ได้โปรดเถอะขอรับ พระเชษฐนีขอรับ … โปรดเห็นแก่ มิตรภาพหลายปีของกระหม่อมและลั่วชิงเหยียน ช่วยให้กระหม่อมได้สมหวังเถอะขอรับ "
หยุนชางขมวดคิ้วและถอดหายใจ แต่เห็นว่าแววตาของหวังจิ้นฮวนนั้นเบิกกว้างอย่างกะทันหัน
หยุนชางหันกลับไปมอง ก็เห็นว่ามีเรือเข้าฝั่ง และมีคนหลายคนเดินลงจากเรือ ผู้ที่เดินนำเป็นชายในชุดคลุมสีน้ำเงิน ชายผู้นั้นได้โอบไหล่ของหญิงสาวไว้ และมีหญิงสาวที่งดงามตามหลังไป
"หนิงเย่ เจ้าจริงๆด้วย!" หวังจิ้นฮวนกัดฟัน
ไม่นาน คนกลุ่มนั้นก็เดินมาอยู่ตรงหน้า ชายที่เดินนำมานั้นมีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาอย่างมาก แต่ดูเย่อหยิ่งไปหน่อย หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนนั้นปิดหน้าตนไว้ แม้จะเห็นแค่ดวงตา ก็เป็นเพียงดวงตาที่น่าหลงใหล หญิงสาวคนนั้นคือแม่นางเฉี่ยนเฉียนจริงด้วย
รูปลักษณ์ของหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังก็โดดเด่นอย่างมาก ดวงตาของพวกนางดูมีเสน่ห์ แค่มองก็ทราบว่าหญิงสาวเหล่านี้คงไม่ใช่หญิงสาวของตระกูลผู้ดี
"หนิงเย่ ไอ้สารเลว …" ดวงตาของหวังจิ้นฮวนเบิกกว้าง และเขาก็ยกกำปั้นขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่ชายคนนั้น