ผูกรักท่านประธานพันล้าน - ตอนที่ 9 มาร่วมงานแต่งงานของฉันเถอะ
ในทางตรงกันข้ามหลีเย่ว์ก็กอดแขนของเขาแน่นขึ้น ราวกับว่าเธออยากจะแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ เธอยิ้มเยาะและพูดกับเซิ่งอันหรานขึ้นว่า "อันหราน ดูเธอทำสิ กลับมาแล้วก็ไม่บอกฉันกับอาเจ๋อสักคำ?"
"มันไม่จำเป็นหรอก"
“ฉันได้ยินมาว่า ตอนที่เธอไปอยู่ต่างประเทศ เธอได้ตัดการติดต่อกับทางครอบครัวตระกูลเซิ่งไปแล้ว”
หลีเย่ว์พูดราวกับว่ามีห่วงใย แต่จริงๆแล้วเธอไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น "เธออยากจะกลับไปเยี่ยมบ้างตระกูลเซิ่งหรือเปล่าล่ะ?"
เมื่อเห็นว่าเซิ่งอันหรานมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดี เฉียวเจ๋อก็พูดเบา ๆ ขึ้นว่า "เสี่ยวเย่ว์ ไปกันเถอะ"
“จะรีบอะไรกันนักหนา ฉันไม่ได้เจออันหรานมานานแล้ว ฉันยังอยากจะคุยอะไรกับเธอก่อน!”
หลีเย่ว์พูดขึ้นพลางไม่ให้โอกาสเซิ่งอันหรานได้ปฏิเสธ เธอดึงเซิ่งอันหรานไปที่ลิฟต์
ริมฝีปากของเซิ่งอันหรานดูแห้งเล็กน้อย สายตาของเธอก็มองลงไปที่พื้นอยู่ตลอดเวลา
หลังจากประตูของลิฟต์เปิดออก หลีเย่ว์ก็พาเซิ่งอันหรานเข้าไปในลิฟต์ เซิ่งอันหรานมองแต่ทางด้านล่าง สายตาของเธอมองเห็นแค่เพียงว่ามีแขกคนอื่นเดินเข้ามาในลิฟต์ ทำให้เธอต้องขยับเอียงตัวหลีกทางเล็กน้อย
ทันทีที่แขกเดินเข้ามายืนอยู่ตรงด้านข้างของเธอ เสื้อสูทของเขาก็ได้บังเอิญมาถูกกับปลายจมูกของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ และได้นำเอาความเยือกเย็นผ่านเข้ามาจนทำให้ร่างกายของเธอสั่นอย่างขึ้นมาอย่างดื้อๆ เธอรู้สึกคุ้นเคยกับสัมผัสนี้อย่างบอกไม่ถูก
เซิ่งอันหรานเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตา แต่หลีเย่ว์กับยื่นขาที่สวมรองเท้าส้นสูงออกมาเพื่อขวางเธอ
“อันหราน ถึงตอนนั้นเธอจะมาได้ไหม?”
“อะไรนะ?” เซิ่งอันหรานไม่รู้ว่าหลีเยว์หมายถึงอะไร เธอจึงถามออกไป
“งานเลี้ยงวันหมั้นของฉันกับอาเจ๋อ”
หลีเย่ว์ยกมืออันเรียวเล็กของเธอขึ้นมา พร้อมกับแหวนเพชรที่ส่องประกายบนนิ้วนางข้างซ้าย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในชัยชนะ ริมฝีปากสีแดงของเธอขยับพร้อมกับเสียงที่เปล่งออกมาว่า "ก็วันที่ 18 เดือนหน้า ฉันหวังว่าเธอจะมาได้"
แหวนเพชรมีราคาแพงและดูคุ้นเคย ทำให้เซิ่งอันหรานรู้สึกเจ็บปวด
เธอจำได้ว่าเมื่อก่อนเธอกับเฉียวเจ๋อเคยไปที่ร้านขายเครื่องประดับมาก่อนหน้านี้ และได้จองแหวนเพชรวงนี้ไว้ พวกเขาตกลงกันว่าจะใช้แหวนวงนี้ในการแต่งงาน แต่นึกไม่ถึงเลยว่าในเวลาสั้นๆ หลีเย่ว์จะได้สวมแหวนเพชรวงนี้ไว้ที่นิ้วมือของเธอ
“ฉันเพิ่งจะได้เริ่มทำงาน อาจจะไม่ว่าง” เซิ่งอันหรานไม่หันไปมองมัน เพราะเกรงว่าจะทำให้ตัวเองรู้สึกอึดอัดมากขึ้น
"อันหราน มาเถอะนา!" หลีเย่ว์จับมือเซิ่งอันหรานอย่างกระตือรือร้นพร้อมทั้งยิ้มอย่างมีความสุข "ฉันตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันที่เธอจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับฉันสักวัน"
เซิ่งอันหรานยิ้มเยาะอยู่ภายในใจ เหอะๆๆ
ความหมายก็คือ ต้องการที่จะบีบเธอให้จนมุมตั้งแต่แรกแล้วสินะ?
เมื่อเห็นว่าเซิ่งอันหรานไม่พูดอะไร แววตาหลีเย่ว์ก็ดูเป็นประกาย เธอยิ้มและพูดต่อไปว่า “ฉันรู้ว่าเธอกลัว กลัวว่าจะไม่มีคู่ไปร่วมงานในวันนั้นด้วย แต่ไม่เป็นไรนะ ฉันรู้จักเพื่อนมากมายเลย เอาไว้จะแนะนำให้เธอได้รู้จักนะ”
“ฉันมีแฟน แต่ฉันไม่สะดวกที่จะไป”
เซิ่งอันหรานผลักมือของหลีเย่ว์อย่างใจเย็น "นอกจากนี้ สำหรับงานเลี้ยงวันหมั้นระหว่างแฟนเก่าและเพื่อนสนิทของฉัน ฉันเกรงว่าเขาจะไม่อนุญาตให้ฉันไป"
สีหน้าของเฉียวเจ๋อดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ส่วนใบหน้าของหลีเย่ว์ก็ดูแข็งทื่อเช่นกัน หลีเย่ว์รีบยื่นมือออกไปจับมือของเซิ่งอันหรานอีกครั้ง "อันหราน ทำไมเธอไม่โทรหาแฟนของเธอและเรียกให้เขามาหาพวกเราที่นี่ล่ะ ฉันอยากจะขอบคุณเขา ที่เขาดูแลเธอเป็นอย่างดี"
“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก เขางานยุ่งมาก”
ในระหว่างที่ทั้งสองฉุดกระชากกันไปมา เซิ่งอันหรานก็สะดุดเข้ากับเท้าของหลีเย่ว์ ทำให้เธอล้มลงไป ส่วนหลีเย่ว์ก็ดูเหมือนจะไม่ทำการช่วยเหลือหรือพยุงเธอแม้แต่น้อย เธอค่อยๆขยับตัวไปทางด้านข้าง อย่างเงียบ ๆ
เซิ่งอันหรานล้มพุ่งไปข้างหน้าชนหน้าอกแข็ง ๆ ทำให้หน้าผากของเธอเจ็บไปหมด
"หึๆ!"
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นจากเหนือศีรษะของเธอ และเป็นเสียงที่เธอรู้สึกคุ้นเคยมาก