ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~ - ตอนที่ 51 บท2ตอนที่22 มิวเฟย・เรนเรน・ลอเรไล :ผู้อยู่เหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์
- Home
- ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~
- ตอนที่ 51 บท2ตอนที่22 มิวเฟย・เรนเรน・ลอเรไล :ผู้อยู่เหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์
——ห้องวีไอพี ณ ที่จัดงานประลองยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์
“น่าเบื่อชะมัด คู่ต่อสู้รอบต่อไปคือคนโปรดของโรสจริงเหรอ?”
มิวเฟย・เรนเรน・ลอเรไล องค์หญิงลำดับสองแห่งอาณาจักรเอลฟ์—ลอเรไล หาวออกมาพร้อมกับกล่าวถามพ่อบ้านที่อยู่ด้านหลัง
“ขอรับ พิจารณาจากสภาพการณ์แล้ว เกรงว่าไม่ผิดแน่ขอรับ”
พ่อบ้านชราวางมือขวาทาบอกและตอบกลับอย่างนอบน้อม
สถาบันการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก—【บาเบล】ที่มิวเฟยเข้าศึกษาอยู่ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน เธอจึงลักลอบเข้ามาเที่ยวชมราชอาณาจักรอเมเลีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเพื่อนร่วมรุ่นอย่างโรสแมรี่ ที่อยู่ใกล้ๆ
ได้ยินจากโรสก่อนหน้านี้ว่า งานประลองยุทธ์ในตอนนี้คืออีเวนต์ที่ใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักรอเมเลียเพราะงั้น พอมาถึงลูซาฮัลแห่งนี้เพื่อชมการแข่งขัน ไม่นึกเลยว่าจะเจอกับโรสเข้า ตอนที่เจอกันโรสทำตัวน่าสงสัยสุดๆ เลยสั่งให้พ่อบ้านไปตรวจสอบ และหลังจากได้ข้อมูลว่า นักดาบที่โรสให้การสนับสนุนกำลังเข้าร่วมงานประลองครั้งนี้อยู่เลยรีบรุดมาดู
“นี่น่ะเหรอ งานประลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักรอเมเลีย บอกตามตรงนะ งานประลองศิลปะการต่อสู้ที่บาเบลเป็นเจ้าภาพระดับยังสูงกว่านี้ตั้งเยอะ”
เอลฟ์อย่างพวกมิลเฟยเป็นเผ่าพันธุ์ที่ได้รับกิฟท์ระดับพอๆกับเผ่ามนุษย์ และกิฟท์ของมิลเฟยคือ【ผู้รู้แจ้ง】เป็นกิฟท์ระดับพิเศษที่มีความสามารถในการมองทะลุความจริง ศิลปะการต่อสู้ระดับนี้สำหรับมิลเฟยแล้วก็เป็นได้แค่สิ่งบันเทิงสูงสุด ตามปกติแล้ว เธอจะตื่นเต้นไปพร้อมกับดูการต่อสู้
แต่ ทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้คงไม่ไหว ถึงจะดูการประลองไปไม่กี่รอบก็เถอะ แต่บอกว่าอยู่ระดับต่ำสุดก็ไม่ได้พูดเกินจริง โดยเฉพาะการประลองของอัศวินคุ้มกันองค์ชายกิลเบิร์ตนั่นเลวร้ายสุดๆ เอาแต่โจมตีคู่ต่อสู้ที่ไม่คิดจะสู้อยู่ฝ่ายเดียว อย่างกับการแสดง คงจะติดสินบนอีกฝ่ายไว้ละมั้ง
“ใกล้ได้เวลาแล้วสินะ”
พิธีกรชุดดำขึ้นลานประลอง จากนั้นพอได้เห็นเด็กหนุ่มผมเทาผู้นั้นออกมาจากทางเดิน—
“—อึก!!?”
แรงสั่นสะท้านน่าสะพรึงกลัวที่ไม่เคยประสบมาก่อนถาโถมใส่ร่างกาย ทำเอาตัวทรุดลงกับพื้นและอาเจียนออกมา
“อะ-องค์หญิง…… ?”
เมดประจำห้องเข้าลูบหลังมิวเฟยและพ่อบ้านยื่นแก้วที่ใส่น้ำให้
“อ、อะ、อะ、อะไรน่ะ! เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นーー!!”
พึ่งเคยเห็นออร่าน่าขนลุกแบบนั้นเป็นครั้งแรก ถึงจะอยู่ในรูปร่างมนุษย์แต่ นั่นไม่มีทางเป็นมนุษย์แน่นอน เป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่านั้นหลายขุม!ราชาวิญญาณ?ไม่สิ เคยเห็นจินราชาวิญญาณแห่งลมภายใต้สัญญาของพี่สาวมาก่อนแต่ เขาไม่ได้อยู่ระดับนั้น!ความต่างชั้นนั่นมากกว่ามังกรกับแมลงมีปีกซะอีก
(โรส นี่เธอทำสัญญากับตัวบ้าอะไรเนี้ย!!)
เริ่มสังเกตสัตว์ประหลาดนั่นพร้อมกับอาการคลื่นใส้รุนแรงที่แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่หาย
ดูเหมือนว่า สัตว์ประหลาดนั่นจะถูกยอมว่าเป็นมนุษย์ แถมยังถูกกล่าวว่าเป็นผู้ไร้ความสามารถที่ถือครองกิฟท์ ที่มีชื่อว่า【ไร้ความสามารถที่สุดในโลก】อีกต่างหาก
จากนั้นสิ่งที่ออกจากปากมิลเฟยก็คือ
“หมายความว่ายังไง?”
ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความสงสัยอย่างแรงกล้านั่นเอง
ระหว่างนั้น ก็รับรู้ถึงความโกรธของผู้เหนือธรรมชาติคนนั้นพุ่งเป้าไปที่เด็กเมื่อวานซืนที่ชื่อดิ๊กนั่น ทั้งที่เป็นแบบนั้นทำไมเขาถึงปล่อยให้ขยะไร้ค่าที่ทำตัวลบหลู่พรรค์นั้นมีชีวิตรอดล่ะ?ความเมตตา?ไม่สิ ถึงจากบอกว่าความเมตตาแต่กับมนุษย์พรรค์นั้นจะมองยังไงก็มากเกินไป
“เพื่อโรส?”
การฆ่าอีกฝ่ายโดยเจตนาถูกห้ามอย่างเคร่งคลัดในงานประลองนี้ ถ้าเกิดทำแบบนั้นละก็ไม่ใช่แค่ตกรอบ แม้แต่โรสที่ให้การสนับสนุนก็จะโดนบทลงโทษไปด้วย
พอรู้แบบนั้นแล้ว ก็อยากจะเข้าไปบีบคอโรสให้มันรู้แล้วรู้รอด
“ตลอด ทำไมต้องเป็นโรสตลอดเลยล่ะ!!?”
ตะโกนแบบนั้นออกมา
ใช่แล้ว สิ่งนี้คือความอิจฉาอันน่ารังเกียจ สำหรับเอลฟ์แล้ว การทำสัญญากับตัวตนเหนือธรรมชาติถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด คุณค่าของเอลฟ์นั้นจะขึ้นอยู่กับตัวตนที่ทำสัญญาด้วย เพราะแบบนั้น เหล่าเอลฟ์จึงได้ตามหาผู้เหนือธรรมชาติเพื่อขอให้ทำสัญญากับพวกตนไปตลอดชีวิตนั่นเอง
เขาคือตัวตนเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาของเอลฟ์ไม่ผิดแน่ ผู้ที่จะทำสัญญากับตัวตนเช่นนั้นต้องเป็นเอลฟ์เท่านั้น ทั้งที่เป็นแบบนั้นกลับไปทำสัญญากับโรสแมรี่ซึ่งเป็นเผ่ามนุษย์ที่ปกติน่าจะรังเกียจตัวตนเหนือธรรมชาติแท้ๆ ไม่มีอะไรไร้เหตุผลไปมากกว่านี้อีกแล้ว
แต่ จริงอยู่ว่าโรสเป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว อย่างวิญญาณที่อัญเชิญออกมาในคาบเรียนความเข้ากันเข้าขั้นเลวร้ายจนไม่มีใครสามารถทำสัญญาด้วยได้ ทั้งที่เป็นแบบนั้นวิญญาณนั่นกลับผูกพันกับโรสที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆแค่คนเดียวซะงั้น
“องค์หญิง ท่านผู้นั้นไม่ใช่มนุษย์สินะขอรับ?”
“สตีเฟ่น คุณเห็นเขาเป็นมนุษย์งั้นเหรอ?”
“ช่างน่าละอายยิ่งนักแต่……ขอรับ”
งั้นเหรอ แม้แต่เอลฟ์เหมือนกันอย่างสตีเฟ่นยังไม่รู้สึกถึงความกดดันจนอยากจะอาเจียนนั่น งั้นก็หมายความว่า มนุษย์ที่ประสาทสัมผัสทื่อกว่าเอลฟ์อย่างโรสแมรี่ก็น่าจะรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน หรือบางทีโรสแค่ยังไม่ได้ตรวจสอบระดับความแข็งแกร่งของเผ่าอื่นนอกจากเผ่ามนุษย์
“สตีเฟ่น ทำทุกวิถีทาง! ไปตรวจสอบเรื่องของเขามาอย่างละเอียดซะ‼”
“น้อมรับบัญชา”
พอเอามือขวาทาบอก สตีเฟ่นก็ออกจากห้องไป
ไม่ว่ายังไงก็จะทำสัญญากับเขาให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม ถ้าหากการทำสัญญาประสบความสำเร็จละก็ มิลเฟยก็จะถูกจารึกชื่อว่าเป็นผู้ทำสัญญากับตัวตนเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัตติศาสตร์ของเอลฟ์
“โรส ครั้งนี้แหละฉันไม่แพ้แน่!”
มิลเฟย ประกาศกร้าวเช่นนั้น