ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~ - ตอนที่ 42 บท2ตอนที่13 การประลองชิงชนะเลิศรอบคัดเลือก
- Home
- ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~
- ตอนที่ 42 บท2ตอนที่13 การประลองชิงชนะเลิศรอบคัดเลือก
การประลองรอบคัดเลือกรอบรองก็มาในรูปแบบชิงปลอกแขนเหมือนกัน ไร้อันตราย ชนะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้อย่างง่ายดายไม่สะดุดตา
ตั้งแต่ตอนนั้น มีผู้สอนของสำนักไฮเนมัน ไปร้องเรียนเรื่องทุจริตแต่ก็โดนคณะจัดงานประลองตีกลับโดยไม่แม้แต่จะตรวจสอบ คงเพราะมีผู้เข้าแข่งขันจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถรับคำร้องที่มาอย่างไม่จบไม่สิ้นระหว่างการประลองรอบคัดเลือกได้ คงลงความเห็นไว้แบบนั้น
จนถึงตอนนี้ เป็นไปตามที่โรสคาดการณ์ไว้รึเปล่านะ อ๊ะ—ใช่ คืออันที่เขาเรียกว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนนั่นแหละ
เพราะฉันเอาแต่ทำตัวผลุบๆโผล่ๆ ทำให้ฟาฟอารมณ์เสียสุดๆ แต่ก็มีโรสคอยช่วยดูแลเอาใจใส่ถึงขั้นพอลูบหัวปุ๊บสงบปั๊บเลยล่ะ
“ถ้าชนะรอบนี้ก็จะได้3ล้านโอลด์ เกินจำนวนที่วางแผนไว้อย่างง่ายดายเลยค่ะ”
“นั่นสินะ”
เอาเป็นว่า หลังการประลองชิงชนะเลิศรอบคัดเลือกจบ ก็ตั้งใจจะยอมแพ้ไม่ก็ถอนตัว แล้วกลับบัลเซ่
“โอ้ย ไค! คือว่า……”
แอนนาส่งเสียงเรียก พร้อมกับเบียนหน้าหนีทำมืออยู่ไม่สุข
“มีอะไร?”
ยัยนี่ เติบโตขึ้นมากตั้งแต่เหตุการณมนุษย์สัตว์นั่น
“พยายามเข้าล่ะ”
แก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงละเรื่อ และพูดคำที่เหนือความคาดหมายออกมา
“แอนนาก็ซื่อตรงขึ้นเยอะเลยนะคะ”
โรสพูดอย่างพอใจและพยังหน้า อืมอืม
“ทะ-ท่านโรส! ซื่อตรงขึ้นอะไรกัน—”
แอนนาหน้าแดงแปร๊ด พร้อมกับส่งเสียงเรียกชื่อโรส ที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวเองอย่างไม่ไว้หน้า
“ถ้าอย่างนั้น พยายยามเข้านะคะ เพราะแอนนากับฟาฟ ค่อยให้กำลังใจอยู่ค่ะ”
โรสเมินแอนนา และหันมาบอกฉันอย่างสงบเสงี่ยม
แล้วอีกอย่าง ตั้งแต่ทำธุระเสร็จแอสต้าก็เอาแต่หมกตัวอ่านหนังสืออยู่ในห้องของตัวเองที่โรงแรม พึ่งมารู้ก่อนหน้านี้นี่แหละว่าเจ้านั่นเป็นหนอนหนังสือขั้นสุด กลายเป็นว่าพอเอาหนังสือที่ฉันเจอในเขาวงกตให้ก็เอาแต่จดจ่อกับการอ่าน จนไม่ย่างเท้าออกจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว พอทุกอย่างจบ คงต้องไปลากคอให้ออกมาสูดอากาศบริสุทธ์นอกห้องซักหน่อยแล้วล่ะ ถ้ามากกว่านี้มันจะเป็นการรบกวนคุณพี่สาวเจ้าของโรงแรมเอา
ให้ตายสิ ต่อจากมังกรขี้อ้อนก็เป็น ปีศาจฮิคิโคโมริงั้นรึ นี่มันอย่างกับเป็นแม่ของเจ้าพวกนี้เลยไม่ใช่รึไง ให้มันเพลาๆลงหน่อยเถอะ ขอร้องล่ะ
“ฟาฟ ฝากคุ้มกันยัยพวกนี้ด้วยล่ะ!”
ฉันลูบหัวฟาฟที่กำลังเอาแก้มแนบแขนอยู่เบาๆ
“เชื่อมือได้เลยเจ้าค่ะ!”
ฟาฟถอยห่างจากฉัน ขานรับอย่างร่าเริงพร้อมกับชูหมัดขวาขึ้นฟ้า และฉันก็มุ่งสู่สถานที่จัดงานประลอง
ผู้เข้าแข่งขันชิงชนะเลิศรอบคัดเลือกกลุ่มD ค่อยๆทยอยขึ้นสนามประลอง ณ ใจกลางที่จัดงาน เมื่อทั้ง30คนมาอยู่กันพร้อมหน้า หญิงสาวผมเงินที่น่าจะเป็นพิธีกร เดินเข้ามาใกล้สนามประลองและเริ่มพูดอธิบายด้วยเสียงยืดยาดแปลกประหลาด
“ทู—กคน ผู้เข้าแข่งขันชิงชนะเลิศรอบคัดเลือกทั้ง30ท่าน มาอยู่กันพร้อมหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่—า พวกเราจะเลือก4คนจากในนี้ค่—า กฎก็แสนจะง๊ายง่าย ถ้าหมดสติหรือออกนอกสนามก็เท่ากับตกรอบ หรือก็คือ—แบตเทิลรอยัลที่ต้องบทขยี้อีกฝ่ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะเหลือ4คนสุดท้ายนั่นเองค่—า”
บดขยี้เนี่ย เป็นคุณพี่สาวที่เลือดร้อนจังนะ
“ยังไม่หมดเท่านั้น ผู้เข้าแข่งขันยังได้รับห้าหมื่นโอลด์ต่อหนึ่งคนที่ตัวเองโค่นได้ด้วยค่–า ถึงแม้จะแพ้ถ้าโค่นได้เยอะ แค่นั้นก็ทำให้กระเป๋าตังอุ่นขึ้นแล้วค่—า”
งี้นี่เอง การต่อสู้นี้ใครเคลื่อนไหวก่อนจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เอาแต่จ้องหน้ากันการประลองก็จะไม่คลืบหน้า ไม่สนุกเลยซักนิด เป็นสิ่งที่ต้องดูการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ก่อนแล้วค่อยพลิกแพลงตามสถาณการณ์เอาสินะ
“ถ้าอย่างนั้น จะเริ่มทำการแนะนำผู้เข้าแข่งขันพอสังเขปนะคะ”
พิธีกรสาวเริ่มแนะนำชื่อไปทีละคนอย่างตื่นเต้น
ผู้ที่ถูกขานชื่อ มียกมือขึ้นนิดหน่อยบ้าง ชูแขนสองข้างขึ้นฟ้าบ้าง
“ต่อไปคือ ผู้ใช้วิชาดาบไฮเนมัน ริคุ ซัลวาโทเร่ จากสำนักดาบไฮเนมันอันโด่งดังของนักบุญดาบท่านเอล์ม หนึ่งในทีมของท่านผู้กล้าที่สามารถสังหารหนึ่งในสี่มหาจอมมารนั่นลงได้ค่—า จะมาแสดงวิชาดาบอันแพรวพราวแบบไหนให้พวกเราได้เห็นกันนะ !!”
หนุ่มหล่อผมทองยิ้มร่า ยกแขนทั้งสองขึ้นฟ้าพร้อมกับเสียงเชียร์ดังสนั่น
ตามคาดสำนักของปู่ ความนิยมนั้น แม้แต่ในราชอาณาจักรอเมเลียก็เปรียบดั่งปราการเหล็กไม่มีใครเทียบ
ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ริคุงั้นเหรอ จังหวะไม่ดีเลยนะ ตั้งแต่ออกจากดันเจี้ยนมา ยังไม่เคยเห็นหมอนั่นจับดาบ
ก่อนจะถูกดูดเข้าไปในดันเจี้ยน ฉันไม่เคยโจมตีหมอนั่นโดนแม้แต่ครั้งเดียว นับแต่นั้นมาคงจะได้ความสามารถอะไรซักอย่างเพิ่มมาแน่ เหมือนกับจักรพรรดิดาบนั่น หมอนั่นอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับความรักจากเทพแห่งดาบก็ได้
“คนสุดท้ายคือ ไคผู้ใช้วิชาดาบไคริว ไค ไฮเนมัน เอ—โตะ เขา……น่าจะมีสายเลือดของไฮเนมันสินะคะ เขา……เอ๊ะ?ผู้ถือครองกิฟท์ ไร้ความสามารถที่สุดในโลก !?”
เสียงตกใจเหมือนกับคุณหนูพนักงานต้อนรับกิลด์ฮันเตอร์ที่บัลเซ่ หลุดออกจากปาก ทำให้ทั่วสถานที่จัดงานปกคลุมไปด้วยเสียงอึกกะทึก
อืมๆ ความไร้ความสามารถของฉันแพร่สะพัดแล้ว รู้สึกดีไม่เบา เท่านี้ถ้าพวกที่อยู่ที่นี่ช่วยคัดสรรราชองค์รักษ์ของโรสให้ล่ะก็หน้าที่ของฉันก็จบ จะได้ออกเที่ยวรอบโลกอย่างสบายใจซักที
ผู้ที่จะมาเป็นราชองค์รักษ์งั้นเหรอ……ถึงจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหนแต่ขาดประสบการณ์สู้จริงอย่างพวกริคุก็อีกเรื่อง
เอาเถอะ ถึงจะเข้าไปทาบทามคงโดนพวกริคุโกรธใส่แหง เพราะงั้น คนที่จะมาแทนฉันได้ในตอนนี้ก็น่าจะมีแค่ เจ้าเด็กเลือดร้อน แซค สินะ
ความแข็งแกร่งก็เห็นอยู่ทนโท่ แถมดูเหมือนจะมีประสบการณ์สู้จริงมากพอตัวด้วย ถ้าตั้งเงื่อนไขว่า ฝ่ายที่แพ้จะต้องมาเป็นราชองค์รักษ์ ทุกอย่างก็จะเสร็จสมบูรณ์ ถ้าแหย่เล่นไปแบบนั้น บางทีหมอนั่นอาจจะมาเป็นด้วยตัวเองก็ได้
“โอ่ย พิธีกร งานของเธอคือดูถูกผู้เข้าแข่งขันงั้นเหรอ?ถ้างั้นเธอก็หมดหน้าที่แล้วล่ะ รีบไสหัวออกจากที่นี่ไปซะ !!”
ชายที่ดูเหมือนนักดาบสวมผ้าโพกหัวสีแดง ขึ้นเสียง
“นั่นสินะ ผมก็ไม่สบอารมณ์อยู่นิดหน่อยเหมือนกัน”
ชายชุดดำตาตี่ เห็นพ้อง พิธีกรพึ่งแนะนำไปเมื่อกี้ ชายสวมผ้าโพกหัวคือ—ฟราย ส่วนชายตาตี่คือ ซิกม่า ละมั้ง
“ขะ-ขออภัยค่—า !!”
พิธีกรผมทองก้มหัวกล่าวขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ที่คุณพิธีกรพูดก็คือเรื่องจริง!ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปโทษเธอซักหน่อย !!”
พอริคุขึ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์นักดาบผ้าโพกหัว เสียงเห็นพ้องก็ดังมาจากฝั่งที่นั่งผู้ชม
นั่นสินะ ในราชอาณาจักรอเมเลียแห่งนี้ ตัดสินคุณค่าจากการมีอยู่ของกิฟท์ไม่มากก็น้อย ถึงจะเป็นอย่างนั้น ดูเหมือนมี่ลามูร์จะเป็นไม่กี่แห่งที่สุดโต่งไปหน่อยล่ะนะ
“คือว่านะ ที่นี่เขาพูดกันด้วยดาบกับคทา ถ้าอยากใช้ปากโค่นคนอื่นล่ะก็ ไปเป็นค่าราชการโน่น ไอ้หนูไม่รู้จักโลก”
“บุ!”
ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยการดูถูกของนักดาบผ้าโพกหัวบราย ทำให้ชายตาตี่ซักม่า หลุดเสียงหัวเราะออกมา
“กะ-แก !!”
หน้าริคุแดงแปร๊ดด้วยความโกรธ
“ขอโทษด้วยค่—า !เพราะฉันไม่ระวังตัวเอง ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ! เพราะงั้นขอให้ได้ชดใช้แทนทั้งสองฝ่ายด้วยเถอะค่ะ !!”
พิธีกรก้มหัวและกล่าวขอโทษหลายต่อหลายครั้งด้วยเสียงที่ราวกับจะร้องให้
“ให้ตายสิ ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เพราะงั้นก็รีบๆเริ่มการประลองได้แล้ว”
เอาเป็นว่า เป็นการหลุดปากที่เข้าทางฉันสุดๆ
ชนะการประลองครั้งนี้อย่างไม่สดุดตา จากนั้นก็ไปชวนแซคให้มาเป็นราชองครักษ์ ถ้าเป็นหมอนั่นคงจะทุ่มเต็มที่ เท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายหน้าปวดหัวอีกแล้ว
“คะ-ค่ะ ทุกคนพร้อมรึยังคะ! ถ้างั้นขอเริ่มการประลองชิงชนะเลิศรอบคัดเลือกกลุ่มD ณ บัดนี้ค่ะ!!”
เสียงพิธีกรสาวดั้งก้องพร้อมกับเสียงระฆังเปิดการประลองชิงชนะเลิศรอบคัดเลือกกลุ่มDดังขึ้น