ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~ - ตอนที่ 40 บท2ตอนที่11 อีกฟากหนึ่งของเบี้ยงหลัง
- Home
- ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~
- ตอนที่ 40 บท2ตอนที่11 อีกฟากหนึ่งของเบี้ยงหลัง
ณ ห้องที่มีแสงไฟสลัวในโรงแรมแห่งหนึ่งของบัลเซ่ หญิงสาวผมทองสวมชุดสีดำสนิททั้งตัว ปิดหนังสือที่กำลังอ่านและวางมันไว้ข้างๆจากนั้นก็หันสายตาไปยังมุมหนึ่งของห้อง
“มอบจี้ให้ตามที่สั่งแล้วครับ”
เสียงหนึ่งดังออกมา รายงานหญิงสาวผมทองด้วยความเคารพ
“ทำได้ดีมาก ที่เหลือก็ขอให้ตัวตลกโง่เง่าพวกนั้นเต้นตามที่พวกเราต้องการก็พอ”
หญิงสาวผมทอง เทไวน์ลงในแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วพูดกับตัวเองแบบนั้น
“……”
ชายชุดดำ ได้แค่กัดริมฝีปากก้มหน้าลงพื้น ไม่ตอบสนองต่อถ้อยคำนั้นของหญิงสาวผมทอง
หญิงสาวผมทองหรี่ตาลง ลุกขึ้นจากที่นั่งเดินเข้าหาชายชุดดำ
“อื-ม ทำหน้าเหมือนไม่พอใจเลยนะ?”
มองใบหน้านั้นและถามออกมา
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น……”
“ไม่ต้องกังวลไป ไม่ชอบใจการที่ต้องมอบสมบัติล้ำค่าของพวกเราให้มนุษย์ชั้นต่ำขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ชายชุดดำค่อยๆ ตรวจสอบสภาพของหญิงสาวผมทอง
“ไม่ได้มีปัญหากับการตัดสินใจของท่านแม้แต่น้อย เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดไม่ผิดแน่ เพียงแต่ วิญญาณดวงนี้มิอาจเห็นด้วยกับมันได้ขอรับ”
ทันใดนั้น ชายชุดดำก็เปล่งเสียงออกจากลำคอราวกับตัดสินใจได้แล้ว
“นั่นก็จริง ฉันก็ทำใจยอมรับไม่ได้เหมือนกัน แต่ว่านะ ถ้าไม่ทำแบบนั้นพวกเราได้แพ้สงครามครั้งนี้แน่”
“ผู้กล้าในตำนาน……”
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าได้ดูการต่อสู้ของพวกมัน ร่างกายก็จะเข้าใจเอง ว่านั่นน่ะคือ สัตว์ประหลาดในคราบมนุษย์ คงไม่มีใครต่อกรกับพวกมันได้นอกจากนายเหนือหัวของพวกเราแล้วล่ะ แล้วก็เรื่องที่อันตรายยิ่งกว่านั้น…”
“ปาร์ตี้ผู้กล้า”
เมื่อได้ยินถ้อยคำนั้นของชายชุดดำ หญิงสาวผมทองก็พยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกับแสดงสีหน้ารังเกียจ
“ถ้าแค่ผู้กล้า นายเหนือหัวของเราคงรับมือได้ไม่ยาก แต่ นักปราชญ์กับพาราดินก็แข็งแกร่ง หากเจ้าพวกนั้นเข้าร่วมสงครามด้วยล่ะก็สถาณการณ์จะพลิกกลับทันที แถมยังมี มหาปราชญ์ ราชาหอก ยิ่งไปกว่านั้น นักบุญดาบคนใหม่ ผู้ถือครองกิฟท์เหล่านี้ ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าปล่อยให้พวกมันเพิ่มกำลังรบไปมากกว่านี้ล่ะก็ พวกเราได้แพ้จริงๆแน่”
หญิงสาวผมทอง ประกาศแบบนั้นออกมา
“แล้วถ้าแพ้เผ่าปีศาจของพวกเราก็จะถูกถอนรากถอนโคน เป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์เลยนะขอรับ”
“ใช่ไหมล่ะ เพราะแบบนั้น ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทำมันให้สำเร็จ”
ประกาศคำนั้นออกมาด้วยสีหน้าจริงจังขณะที่ยิ้มอย่างขมขื่น
“นั่นคือคำพยากรณ์เหรอขอรับ?”
“อืม จริงๆแล้วในซักปรักหักพังนั่นมีสิ่งที่เรียกว่าพิธีกรรมพยากรณ์อยู่น่ะ เก้าในสิบ ถ้าบูชายัญมนุษย์มากกว่าสองคนขึ้นไปตามคำพยากรณ์ พระเจ้าแห่งผองเราก็จะมาจุติบนผืนโลกใบนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็…”
“ก็จะล้างบางพวกมนุษย์ให้สูญสิ้นได้!”
ลึกลงไปในดวงตาของชายชุดดำที่ตะโกนถ้อยคำนั้นออกมา เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อมนุษย์อย่างบ้าคลั่ง
“ไม่ว่าจะจนมุมสักแค่ไหน แต่การที่ยึดติดกับเทพที่มีแต่ในเทพนิยายแบบนี้ ก็ค่อนข้างน่าสมเพชเลยนะขอรับ”
ชายชุดดำ พึมพำพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า
“นั่นสินะ แต่ก็ไม่มีทางอื่นที่จะทำให้เรามีชีวิตรอดนอกจากทำตามคำพยากรณ์แล้วล่ะ ตามตัวอักษรเป็นแผน ที่จนมุมอย่างแท้จริง นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกเราต้องทำให้ปฏิบัติการนี้สำเร็จให้จงได้”
“ถ้าเกิดพวกนั้นทำล้มเหลวล่ะขอรับ?”
“แน่นอน เราก็จะเก็บกู้จี้นั่นกลับมาและหาตัวตลกกลุ่มต่อไป ขอฝากเรื่องนั้นให้เธอจัดการนะ”
“รับทราบ”
ชายชุดดำยืนหลังตรง หมัดขวาทาบอกพร้อมกับโค้งคำนับแล้วออกจากห้องไป
“ท่านอัช ไม่ว่ายังไงตัวข้าก็จะทำให้ความฝันของท่านเป็นจริงให้จงได้!”
หญิงสาวผมทองที่เหลืออยู่ในห้องเพียงลำพัง พึมพำถ้อยคำนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น