ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5842 มีเขาแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น(2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5842
หลินหว่านเอ๋อร์จ้องมองนาง กล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่มีแฝงไปด้วยน้ำเสียงวิงวอน: “ซือไท่ ฉันขอร้องท่านให้พูดชัดเจนอีกหน่อย คุณชายเย่เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉัน ถ้าหากชีวิตเขามีชะตากรรมที่ถูกลิขิตเอาไว้แล้วจริง แม้ว่าฉันจะต้องเอาชีวิตของตัวเองเข้าแลก ก็จะพยายามขจัดแทนคุณชายเย่…..”
พูดจบ หลินหว่านเอ๋อร์งอขอทั้งสองข้างของเธอ กำลังจะคุกเข่าลงไปบนพื้น
เมื่อแม่ชีเฒ่าเห็นดังนี้ ก็รีบก้าวเท้าไปข้างหน้า ประคองร่างของเธอเอาไว้ก่อนหน้าที่หลินหว่านเอ๋อร์จะคุกเข่าลงบนพื้น เอ่ยปากกล่าว: “คุณหลินได้เห็นการเปลี่ยนของโลกมามากมายนับไม่ถ้วน แม่ชีอยู่ต่อหน้าคุณหลินไม่กล้าทำตัวอวดดี คุณหลินอย่าได้ทำความเคารพเป็นอันขาด”
พูดไป เธอประคองหลินหว่านเอ๋อร์ เอ่ยปากกล่าว: “คุณหลินก็น่าจะรู้ถึงความลับของโชคชะตาเช่นกัน ในอี้จิงปากั้ว แม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆก็ตาม ผลลัพธ์สุดท้ายที่แสดงออกมาอาจจะมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าหากว่าแม่ชีพูดมากเกินไป ในทางกลับกันอาจจะจะกลับกลายไปในทางตรงกันข้าม ถ้าหากคุณหลินอยากจะช่วยคุณเย่จริง นั่นก็อาจจะต้องพยายามลดตัวแปรในนั้นให้มากที่สุด แม่ชีสามารถบอกคุณได้ชัดเจนว่าทางข้างหน้ามีอันตรายต่อคุณเย่ และคุณหลินเพียงแค่ต้องแน่ใจว่าคุณเย่สามารถยอมละทิ้งที่จะเดินต่อไปข้างหน้าต่อไปได้ก็คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณหรือว่าคุณเย่ การรู้มากเกินไป ในทางกลับกันจะนำพาตัวแปรมาให้มากยิ่งขึ้น”
เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้นของแม่ชีเฒ่าได้เห็นการเปลี่ยนของโลกมามากมายนับไม่ถ้วน หลินหว่านเอ๋อร์ก็รู้ว่า แม่ชีเฒ่าตรงหน้าท่านนี้ มีความเข้าใจต่ออดีตที่ผ่านมาของตัวเองอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
และเธอก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วถึงการลืมตัวเสียมารยาทของตนเอง ที่แม่ชีเฒ่าพูดก็ไม่ผิด โชคชะตาประเภทนี้ อันที่จริงแล้วมีตัวแปรที่ละเอียดอ่อนอยู่มากมาย รู้มากแล้ว บางครั้งกลับไม่ใช่เรื่องดีอะไร
เธอในตอนนี้ ไม่ซักไซ้รายละเอียดกับแม่ชีเฒ่าไปมากกว่านี้แล้ว แต่ได้ชั่งน้ำหนักความเป็นไปได้ของคำพูดเหล่านี้ของแม่ชีเฒ่าภายในใจ
เธอกำจัดว่าแม่ชีเฒ่าเป็นศัตรูของตนเองออกไปก่อนเป็นอันดับแรก
เนื่องจากแม่ชีเฒ่าได้ดึงดูดตนให้มาที่อารามแม่ชีนี้ได้สำเร็จ ถ้าหากเธอเป็นศัตรูของตนจริงๆ เธอจะต้องลงมือกับตนเองแน่นอน
ต่อมา เธอก็ขจัดที่แม่ชีเฒ่าเป็นศัตรูของเย่เฉิน
แม่ชีเฒ่ารู้จักเย่เฉิน รู้จักตน รู้จักอู๋เฟยเยี่ยน รู้แม้กระทั่งวงโคจรการเคลื่อนไหวของทั้งสามคนอีกด้วย ถ้าหากเธอเป็นศัตรูของเย่เฉินจริง เธอไม่จำเป็นต้องแสร้งทำตัวเร้นลับที่นี่
เพียงแค่เธออยากจะคิดหาหนทางบอกกับอู๋เฟยเยี่ยน เย่เฉินก็คือลูกชายของเย่ฉางอิงกับอานเฉิงซี จากนั้นนำข้อมูลของเย่เฉินส่งมอบให้แก่อู๋เฟยเยี่ยน ถ้าอย่างนั้นอู๋เฟยเยี่ยนก็จะต้องลงมือสังหารเย่เฉินอย่างแน่นอน
ในเมื่อขจัดว่าแม่ชีเฒ่าเป็นศัตรูของตนกับเย่เฉินออกแล้ว ถ้าอย่างนั้นระดับความน่าเชื่อถือของคำพูดเหล่านั้นก่อนหน้านี้ก็สูงขึ้นไม่น้อย
หลินหว่านเอ๋อร์ยังวิเคราะห์อีกว่าแม่ชีเฒ่าจะมีความเกี่ยวพันที่มีประโยชน์และโทษอะไรกับเย่เฉินอีกหรือไม่ อย่างเช่น ถ้าหากแม่ชีเฒ่าอยากจะค้นหามรดกที่เมิ่งฉางเชิงทิ้งเอาไว้เช่นกัน ถ้าอย่างนั้นเธอกับเย่เฉินก็จะเป็นคู่แข่งกัน คิดหาหนทางเกลี้ยกล่อมให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ ก็มีผลดีต่อเธอเช่นกัน
แต่ว่า เมื่อคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ความเป็นไปได้ข้อนี้น้อยมาก
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายรอพวกเขาอยู่ที่นี่ แต่เธอกับเย่เฉินยังไม่รู้แม้กระทั่งว่าสถานที่ที่จะไปอยู่ที่ไหน
ถ้าหากทุกคนล้วนแย่งชิงสมบัติล้ำค่าที่เดียวกัน ถ้าอย่างนั้นก็คือผู้ที่มาก่อนย่อมต้องได้ก่อน เดิมทีอีกฝ่ายก็เดินนำหน้าอยู่แล้ว อีกทั้งรู้ตำแหน่งที่ซ่อนสมบัติล้ำค่า ตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คือรีบไปขุดเอาสมบัติล้ำค่าไป อีกทั้งสามารถพยายามไม่เปิดเผยตัวตนของตนเอง ร่ำรวยแบบเงียบๆก็ได้ จะปล่อยเอาไว้ไม่ไปขุดหาสมบัติ และยังคอยเฝ้าอยู่ที่นี่เพื่อคอยเกลี้ยกล่อมให้คู่แข่งที่พละกำลังตกเป็นรองที่มาตอนหลังให้ยอมแพ้ทำไมกัน?
ดังนั้น การอนุมานข้อนี้ไม่มีน้ำหนัก
ไม่ใช่ศัตรู แล้วก็ไม่มีความสัมพันธ์ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ขัดแย้ง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะจริงใจ ก็เพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น หลินหว่านเอ๋อร์จ้องมองเธอ กล่าวถาม: “ฉันยังมีคำถามสุดท้าย ทำไมซือไท่ถึงต้องการช่วยเหลือคุณชายเย่?”
แม่ชีเฒ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหนักแน่น: “เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน มีคนเปิดกล่องแพนดอร่า แต่ตอนนั้นเปิดกล่องแพนดอร่านี้เพียงแค่ครึ่งเดียว ถ้าหากไม่สนใจไยดี หลายปีต่อมา กล่องแพนดอร่าก็จะค่อยๆเปิดออกเอง จะต้องนำไปสู่หายนะที่คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน และตอนนั้น ผู้ที่สามารถนำกล่องแพนดอร่านี้ปิดไปอย่างสิ้นซาก หรือสามารถเปิดกล่องแพนดอร่าออกได้ทันที มีเพียงคุณชายเย่แค่คนเดียวเท่านั้น!”