ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5798 ความจริงใจยังไม่มากพอ(1)
ด้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5798
หลูจื้อเฉิงก็รู้เช่นกันว่า อีกฝ่ายจะต้องเป็นของจริง
คุณลักษณะ สำเนียงในการพูดจาของอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ทางนั้น นั่นเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นของปลอม
ตอนนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจจากการได้รับความสนใจอยู่หน่อยๆ ทั่วทั้งตัวเริ่มกระสับกระส่ายนั่งไม่ติด
จางจื่อฉีเลขาประธานของซูจือหยู เห็นว่าหลูจื้อเฉิงไม่พูดจาอยู่นาน จึงลองถามเขา: “คุณหลู ไม่ทราบว่าได้ยินที่ฉันพูดไหมคะ?”
นี่หลูจื้อเฉิงถึงได้สติกลับคืนมา รีบกล่าวอย่างลนลาน: “ได้ยินครับได้ยิน! คุณจางใช่ไหมครับ! สวัสดีครับสวัสดีครับ!”
จางจื่อฉีพยักหน้าเบาๆ กล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ: “คุณหลู ฉันจะไม่พูดจายืดเยื้อกับคุณมากเกินไป พวกเราเข้าประเด็นหลักเลย ที่ติดต่อคุณครั้งนี้ หลักๆแล้วประธานซูของพวกเรามีความตั้งใจจะเทคโอเวอร์จื้อเฉิงกรุ๊ป ดังนั้นอยากจะขอความเห็นจากคุณหลูหน่อยว่ามีความคิดที่จะขายไหมคะ ถ้าหากมี พวกเราสามารถหารือเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องการเทคโอเวอร์ได้ทันที”
หลูจื้อเฉิงตั้งหน้าตั้งตารอคอย ก็คืออยากจะให้มีใครสักคนมาเทคโอเวอร์อุตสาหกรรมที่เดินหน้าไม่ได้ถอยหลังก็ไม่ได้ของตนเองไป สามารถทำให้ตนเองสามารถถอนเงินออกจากตลาดหุ้นและถอนตัว ใช้ชีวิตวัยชราอย่างสงบสุขได้อย่างสบายใจ คิดไม่ถึงว่าจะโชคดีมาก คาดไม่ถึงว่าตระกูลมหาอำนาจชั้นนำระดับประเทศอยากจะเทคโอเวอร์อุตสาหกรรมของตนเอง นี่เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่กล้าแม้แต่จะฝัน
ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเล่นกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ กล่าวอย่างไม่ลังเล: “ผมมีความคิดที่จะขาย ก็ดูว่าซูซื่อกรุ๊ปจะเสนอราคาให้พวกเราแบบไหน!”
จางจื่อฉีกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ: “ในเมื่อคุณหลูมีความตั้งใจที่จะขาย ถ้าอย่างนั้นให้ประธานซูของพวกเรามาเจรจาปัญหาเรื่องราคากับคุณ ฉันจะเชิญประธานซ่งเข้าร่วมประชุมเดี๋ยวนี้ รายละเอียดพวกคุณคุยกัน ฉันจะจดสรุปบันทึกสำคัญของการประชุม”
หลูจื้อเฉิงถามอย่างตกตะลึง: “ประธานซู? เป็นประธานของพวกคุณเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”จางจื่อฉีกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ: “คุณซูซูจือหยูเป็นประธานของพวกเรา”
ในใจของหลูจื้อเฉิงรู้สึกประหลาดใจจากการได้รับความสนใจ
โชคดีอะไรอย่างนี้ กิจการใบชาเล็กๆของตนเอง คาดไม่ถึงว่าจะสามารถได้รับความชื่นชอบของผู้นำตระกูลตระกูลซู?
ในจณะที่เขากำลังตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ซูจือหยูต่อเข้าห้องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ทันทีที่เธอเข้ามา ก็กล่าวอย่างมีมารยาท: “สวัสดีค่ะคุณหลู ฉันคือซูจือหยูประธานของซูซื่อกรุ๊ป”
เสียงของหลูจื้อเฉิงสั่นเครือด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย: “สะ……สวัสดีครับคุณหนู……ได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของคุณมานานแล้ว”
ซูจือหยูกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “คุณหลูไม่ต้องเกรงใจ สถานการณ์คร่าวๆจื่อฉีน่าจะพูดกับคุณไปแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากจะเสียเวลามาก พวกเราเข้าประเด็นหลักเลยค่ะ ฉันรู้ว่าคุณหลูเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีอำนาจควบคุมอย่างเด็ดขาดของจื้อเฉิงกรุ๊ป ดังนั้นวันนี้พวกเรามาเจรจาเรื่องราคากันตรงๆ ถ้าเหมาะสมละก็ วันพรุ่งนี้ฉันก็จะให้ทีมทนายไปตรวจสอบสักหน่อย พวกเราก็เซ็นสัญญากันเลย”
หลูจื้อเฉิงถามอย่างตื่นตะลึง: “ประ……ประธานซูนี่จะรีบร้อนไปหน่อยไหมครับ? จะเซ็นสัญญาพรุ่งนี้เลย”
ซูจือหยูกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ: “ไม่ปิดบังคุณหลู การซื้อขายราคาไม่กี่ร้อยล้านถ้าไม่รีบหน่อบ ถ้าอย่างนั้นเกรงว่าฉันจะยุ่งมากทุกวัน พวกเราใช้โอกาสเวลาก่อนเลิกงานนิดๆหน่อยๆนี้ รีบเจรจาถึงความมุ่งหมาย ทำได้ก็รีบผลักดัน ไม่ได้ก็ไม่เสียเวลาของทุกคน”
ซูจือหยูอธิบายเล็กน้อย แล้วก็ให้อธิบายข้อมูลสำคัญสองสามเรื่องให้แก่หลูจื้อเฉิง
อย่างแรก การซื้อขายนี้ราคาแค่ไม่กี่ร้อยล้าน พูดอีกนัยหนึ่งคือ เธอเสนอราคาให้จื้อเฉิงกรุ๊ปไม่มีทางเกินหนึ่งพันล้าน ขจัดความคิดโลภมากของหลูจื้อเฉิงทิ้งไปทันที
อย่างที่สอง ธุรกิจเล็กๆเช่นจื้อเฉิงกรุ๊ปนี้ สำหรับเธอแล้ว ก็เหมือนกับฮ่องเต้ในสมัยโบราณอ่านสาน์สที่ไม่เกี่ยวกับความทุกข์ยาก เรื่องไม่นับว่าใหญ่โต ดังนั้นรีบทำธุระให้เสร็จ ถ้าหากยุ่งยากเกินไปก็ช่าง
หลูจื้อเฉิงรู้ว่า ฐานะทางสังคม อำนาจ ภูมิหลัง ความมั่นใจของเธอนั้นแข็งแกร่งกว่าตัวเองมากนัก ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีความสะอึกสะอื้นในใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่อารมณ์ด้านลบอะไร
แต่ว่า เขายังเอ่ยถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย: “ประธานซู ธุรกิจของซูซื่อกรุ๊ปใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมถึงได้ถูกใจบริษัทเล็กๆของพวกเราแบบนี้ละครับ?”
ซูจือหยูยิ้มกล่าว: “คุณหลูไม่จำเป็นต้องดูถูกตัวเองมากจนเกินไป ขนาดของธุรกิจไม่ใช่เป็นมาตรฐานเพียงอย่างเดียวในการพิจารณามูลค่าของธุรกิจ ดังนั้นทำไมซูซื่อกรุ๊ปถึงอยากจะเทคโอเวอร์จื้อเฉิงกรุ๊ปของพวกคุณ พูดตามตรง หลักๆแล้วเป็นเพราะคุณปู่ของฉันค่อนข้างชื่นชอบชาผูเอ่อร์ ตอนนี้อุตสาหกรรมอาหารมีปัญหาด้านความปลอดภัยบ่อยครั้ง ฉันในฐานะที่เป็นหลานสาว จึงอยากจะเทคโอเวอร์ธุกิจแหล่งต้นน้ำสักแห่ง แบบนี้สามารถแน่ใจได้ว่าเขาจะได้ดื่มชาผูเอ่อร์ที่ปลอดภัยที่สุด อย่างไรก็แค่เงินไม่กี่บาท เพื่อซื้อความสบายใจ”
หลูจื้อเฉิงได้ฟังจบก็อึ้งไป แอบบ่นในใจ: “ให้ตายซิ นี่ถึงเรียกว่าคนรวยจริงๆซินะ! ชอบดื่มชาผูเอ่อร์ ก็เทคโอเวอร์บริษัทที่ผลิตชาผูเอ่อร์ซะเลย? เงินของคุณคงหามาได้ง่ายๆซินะ?”
จากนั้น เขาก็เปลี่ยนทิศทางความคิด ก็โล่งใจในทันที
“ทรัพย์สินของตระกูลซูเขาเกินแสนล้าน เอามาซื้อธุรกิจชาผูเอ่อร์สักไม่กี่ร้อยล้าน ก็เท่ากับคนหนึ่งมีเงินหมื่นกว่าหยวน เอาไปซื้อเครื่องดื่มสักเจ็ดแปดสิบหยวน นี่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเหรอ? อยากจะดื่มชาจริงๆ ต่อให้มีแค่หนึ่งร้อยหยวน ก็กล้าที่จะจ่ายออกไปเจ็ดแปดหยวนนี่นา!”