ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5777 ดีมาก็ดีตอบ(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5777
“ดังนั้น ในส่วนนี้ ผมคิดว่าถ้าอะเฉินไม่รู้ จะต้องไม่พูดคำนี้ออกมาแน่”
ซูหลานได้ยินเขาพูดจบ ก็เข้าใจทันที พึมพำไปว่า:“คุณพูดมีเหตุผลดี!พอคุณพูดแบบนี้ ฉันก็คิดว่าอะเฉินไม่ล้อพวกเราเล่นแน่”
พูดจบ เธอก็เหงื่อออกที่มือด้วยความตื่นเต้น พูดว่า:“งั้น……งั้นพวกเรามีโอกาสได้ทดลองทางคลินิกของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนจริง ๆ ใช่ไหม?!ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเราก็มีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อ?”
หูเล่อฉีพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม พูดว่า:“ผมว่าเรามีโอกาสสูงครั้งนี้!”
พูดไป หูเล่อฉีก็หยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อหาข้อมูลตั๋ว โพล่งออกมาว่า:“มีเที่ยวบินจากต้าหลี่ไปจินหลิงตอนบ่ายสอง ผมจะจองตั๋วตอนนี้ พวกเรารีบกลับไปลาทุกคนกันเถอะ แล้วไปสนามบินกัน!”
……
เย่เฉินและหลินหว่านเอ๋อร์ลงจากภูเขาแล้ว ก็มารับรถที่โซโร ออกเดินทางจากโซโร และขับไปที่ผูเอ่อร์
ผูเอ่อร์คือที่อยู่ของพ่อแม่หลินหว่านเอ๋อร์ และก็เป็นจุดแรกในการหนีของหลินหว่านเอ๋อร์ครั้งนี้ เย่เฉินมาเตียนหนานกับหลินหว่านเอ๋อร์ จุดประสงค์หนึ่งคือการร่วมเดินทางกับเธอเพื่อเยี่ยมชมสถานที่เก่า ๆ ดังนั้นครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เดินทางไปผูเอ่อร์กับหลินหว่านเอ๋อร์เท่านั้น แต่ยังไปที่สิบสองปันนาจากผูเอ่อร์ เพื่อตามหาสระสวรรค์ในภาพวาดหลินหว่านเอ๋อร์ด้วย
ส่วนเบาะแสของอู๋เฟยเยี่ยน ตอนนี้เย่เฉินก็ไม่สนใจอีกต่อไป
เพราะเขารู้ดีว่า ในเมื่ออู๋เฟยเยี่ยนปรากฏตัวภูเขาหลังเต่าแล้ว นั่นหมายความว่าคราวนี้เธอได้เข้าสู่โลกอย่างสมบูรณ์แล้ว และเมื่อเข้าสู่โลกโดยสมบูรณ์ ก็จะถูกบันทึกโดยกล้องต่าง ๆ แน่นอน อู๋เฟยเยี่ยนจะถูกติดตามและถ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แค่ให้ซุนจือต้งช่วยเอากล้องบันทึกออกมา ก็สามารถค้นหาการเคลื่อนไหวของอู๋เฟยเยี่ยนในประเทศได้แล้ว
ดังนั้น เย่เฉินจึงรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไม่ต้องไปสนใจสถานการณ์ของอู๋เฟยเยี่ยนแล้ว จากความแข็งแกร่งของอู๋เฟยเยี่ยน ตัวเองเข้าไปใกล้มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง สู้ให้เธอไปในที่ที่ตัวเองอยากไปก่อน พอเธอไปในที่ที่ตัวเองอยากไปแล้ว ค่อยติดตามเบาะแส ตามรอยเธอไป
แค่สุดท้ายสามารถล็อกว่าเธอเข้าไปในภูเขาแสนลี้จากไหน ซึ่งปกติแล้วสามารถไปถึงตำแหน่งเมิ่งฉางเชิงในตอนนั้น โดยแม่นยำในระยะร้อยไมล์ หรือในระยะที่เล็กกว่าก็ตาม
ตอนที่ทั้งสองขับรถไปผูเอ่อร์ หูเล่อฉีกับซูหลานก็ไปด้วยกัน นั่งไฟล์ทบินตอนบ่ายเพื่อไปจินหลิง
ครั้งที่แล้วที่มาจินหลิง แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้มาด้วยกัน แต่ก็คาดหวังเหมือนกัน
แต่ว่า ทั้งคู่ต่างล้มเหลวการคัดเลือกการทดลองทางคลินิกของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน เมื่อทั้งสองไปจากจินหลิง อารมณ์นั้นผิดหวังเป็นพิเศษ
และพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่า ตัวเองจะกลับมาที่จินหลิงอีกครั้ง ก่อนที่จะตาย
ระหว่างทาง ทั้งสองต่างไม่แสดงความคิดเห็นว่าการเดินทางครั้งนี้จะสมหวังหรือไม่
ทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินจินหลิงอย่างปลอดภัย หูเล่อฉีก็โทรหาเจมส์ สมิธทันที
เพราะว่าทั้งสองคนมาจากสหรัฐอเมริกา คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยมะเร็ง อีกคนหนึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยมะเร็ง ดังนั้นเขากับสมิธจึงแลกเบอร์กัน หนึ่งเพื่อแสดงความชื่นชมและเคารพเจมส์ สมิธ และอีกอย่าง เพื่อช่วยเหลือกันและกัน
เวลานี้เครื่องบินยังคงแล่นอยู่ หูเล่อฉีได้โทรไปที่เบอร์ของเจมส์ สมิธในหัวเซี่ยแล้ว
โทรติด เจมส์ สมิธที่อยู่ปลายสาย ถามอย่างแปลกใจว่า:“เสี่ยวหู โทรหาผมมีอะไรหรือเปล่า?”
หูเล่อฉีรีบถามว่า:“คุณสมิธ ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
เจมส์ สมิธพูดว่า:“ผมกำลังช่วยเหลือคนไร้บ้านที่โบสท์เก่าในจินหลิง และก็จะแบ่งอาการที่ซื้อ ทำไมเหรอ?มีอะไรหรือเปล่า?”
หูเล่อฉีรีบพูดว่า:”คุณสมิธ รบกวนคุณช่วยจัดการงานให้เสร็จ พาจิมมี่ไปรอผมที่หน้าประตูบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ผมกับเสี่ยวหลานจะไปจากสนามบิน แล้วเรารวมตัวกันที่นั่นครับ!”