ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5775 บอกลาชั่วคราว(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5775
หูเล่อฉีถามอย่างแปลกใจว่า:“เรื่องอะไรเหรอถึงต้องมีลับลมคมในขนาดนี้?”
เย่เฉินอธิบายว่า:“บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนที่คุณพูด ผมมีคอนแทคเล็กน้อย ผมสนิทกับผู้รับผิดชอบสองสามคน ถ้าพวกคุณอยากต่อสู้เพื่อโอกาสในการทดลองยาเกิดใหม่เก้าเสวียน ผมช่วยเร่งให้คุณได้”
หูเล่อฉีและซูหลานตกใจอย่างมาก หูเล่อฉีโพล่งถามไปว่า:“อะเฉิน คุณไม่ได้ล้อเล่นกับผมใช่ไหม?คุณรู้จักคนรับผิดชอบของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนจริงเหรอ?!”
เย่เฉินพูดอย่างจริงจังว่า:“เรื่องสำคัญแบบนี้ ผมจะล้อเล่นกับพวกคุณได้อย่างไร”
หูเล่อฉีรีบถามว่า:“คนที่คุณรู้จัก เป็นผู้รับผิดชอบงานด้านไหน?”
เย่เฉินพูดว่า:“ผมรู้จักผู้รับผิดชอบทั้งบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ชื่อว่าเว่ยเลี่ยง การทดลองทางคลินิกของยาเกิดใหม่เก้าเสวียน ก็เป็นเขาที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ จากมิตรภาพของผมกับเขาแล้ว คงไม่ใช่ปัญหาที่จะเอาสองรายชื่อให้พวกคุณ”
ทั้งสองดูเหลือเชื่อ
ชื่อของเว่ยเลี่ยง พวกเขาคุ้นหูเป็นอย่างดี
ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนที่แท้จริงคือใครกันแน่ แต่แทบทุกคนที่รู้จักบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ต่างเคยได้ยินชื่อเว่ยเลี่ยง
ทุกคนต่างรู้ว่า เว่ยเลี่ยงคือ CEO ของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ทุกอย่างของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนต่างเป็นเขาที่ตัดสินใจ และโควตาการทดสอบยาเกิดใหม่เก้าเสวียนครั้งนี้ก็เกี่ยวข้องกับเขาด้วย
ว่ากันว่าคน ๆ นี้ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หลายคนที่คุกเข่าขอโควตาด้วยเงินจำนวนมหาศาล แต่เขาก็ยังไม่ไหวติง และยังสามารถดำเนินตามคะแนนตามที่เย่เฉินบอก มาประเมินเลื่อนตำแหน่ง
คนธรรมดาอยากเจอเขาก็ดูเพ้อฝัน ปัจจุบันเว่ยเลี่ยงไม่ได้ออกไปพบใครแล้ว นอกจากร้านค้าตัวแทนและซัพพลายเออร์ คนส่วนใหญ่อยากพบเขา ก็ไม่มีโอกาส แล้วนับประสาอะไรกับการขอความช่วยเหลือจากเขา
ดังนั้น หูเล่อฉีจึงไม่อยากจะเชื่อในทันทีว่า เย่เฉินจะรู้จักกับเว่ยเลี่ยง
เขาถามโดยไม่รู้ตัวอย่างตื่นเต้นไปว่า:“อะเฉิน……คุณไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหม?คุณรู้จักประธานเว่ยจริง ๆ เหรอ?”
“รู้จัก”เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า:“พวกคุณสองคนอยู่ในสถานการณ์พิเศษ พวกคุณคิดว่าผมจะเอาเรื่องสำคัญมาล้อเล่นกับพวกคุณเหรอ?”
หูเล่อฉีรีบโบกมือพูดว่า:“ไม่ใช่ ๆ อะเฉิน ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้น ผมแค่ตกใจมากไปหน่อย ……”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ตกใจไม่เป็นไร อย่าถ่วงเรื่องสำคัญก็พอ ถ้าเชื่อผม ผมแนะนำให้ตอนนี้คุณใช้มือถือเช็กตั๋วเครื่องบินจากต้าหลี่ไปจินหลิง หลังจากถึงจินหลิง ก็ไปที่หน้าประตูโรงงานบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนทันที แล้วเดี๋ยวคุณเมมเบอร์ผมไว้ พอถึงแล้วโทรหาผม ที่เหลือผมจัดการเอง คุณไม่ต้องห่วง”
หูเล่อฉีและซูหลานต่างมองหน้ากัน และมองเห็นความไม่เชื่อในสายตาของกันและกัน
แต่หูเล่อฉียังคงตัดสินใจเชื่อเย่เฉิน ดังนั้นจึงโพล่งไปว่า:“โอเค!ผมจะดูตั๋วเครื่องบิน!อะเฉิน ไม่ว่าเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ พวกเราขอขอบคุณคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ!”
เย่เฉินยิ้ม พูดว่า:“ไม่ต้องเกรงใจ พอได้โควตาแล้ว ค่อยขอบคุณผมก็ยังไม่สาย”
พูดไป เขาก็พูดอีกว่า:“เอาล่ะ พวกคุณไม่ต้องไปส่งพวกเราแล้ว พวกเราไปก่อน ถ้าพวกคุณอยากบอกลาทุกคน ก็กลับไปสิ แล้วก็จะได้เก็บของด้วย”
หูเล่อฉีพยักหน้าอย่างแรง พูดว่า:“เราสองคนไปลาทุกคนก่อน”
เย่เฉินเตือนว่า:“อย่าบอกละเอียดว่าจะทำอะไร เพราะนี่ก็เป็นการใช้เส้นสาย ไม่เหมาะที่จะเปิดเผย”
“ครับ!”หูเล่อฉีพูดโดยไม่คิด:“ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่เอาไปพูดแน่!”
เย่เฉินคิดอะไรได้ จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ใช่สิ พอคุณถึงจินหลิงแล้ว ถ้าหาเจมส์ สมิธเจอ ก็ให้เขาพาลูกชายเขา ไปบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนกับพวกคุณด้วย ถึงตอนนั้นเว่ยเลี่ยงจะจัดการเอง!”