ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5694 งั้นนายยอมไหม?(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5694 งั้นนายยอมไหม?(2)
เมื่อทุกคนเห็นเขาหยิบภาพวาดออกมาจริง ๆ ก็พุ่งเข้ามาหาเขาทันที
แต่ว่า ทุกคนมาตรงนี้ไม่ได้เพื่อมาดูความสวยงามของภาพวาดสมัยราชวงศ์ถัง แต่มาดูว่าครั้งนี้เซียวฉางควนจะเล่นตลกอะไรอีก
เพราะยังไงแล้ว เซียวฉางควนก็ทำตัวตลก ได้ทุกวัน วันละหลายรอบจ
แต่ว่า เมื่อเซียวฉางควนกางม้วนภาพออก ทุกคนที่เตรียมจะขำเขา ก็เบิกตาโตทันที
ไม่มีใครคิดว่า ภาพวาดจะมีชีวิตชีวาได้ขนาดนี้
แต่ว่า คนส่วนมากมีความคิดต่อเซียวฉางควน ดังนั้นจึงตั้งข้อสงสัยขึ้นมาในตอนนี้
“นี่ไม่ใช่สไตล์การวาดภาพของราชวงศ์ถังนี่?ไม่แน่อาจจะถูกวาดขึ้นโดยจิตรกรในยุคนี้ก็ได้ จิตรกรที่เรียนรู้การร่างภาพแบบตะวันตกพวกนั้น วาดภาพเสมือนจริงได้เก่งที่สุด”
“ฉันว่าไม่เหมือนสไตล์การวาดภาพของราชวงศ์ถัง สไตล์ของราชวงศ์ถังน่าจะไม่เก่งขนาดนี้!”
“ใช่!ถ้ามีจิตรกรที่มีเจ๋งขนาดนี้ในราชวงศ์ถัง คงมีชื่อเสียงไปนานแล้ว!”
เมื่อทุกคนสงสัย ชายชราที่ก่อนหน้านี้ล้อเลียนเซียวฉางควนก็โพล่งออกมาด้วยความประหลาดใจ:“พระเจ้า นี่……นี่มันฝีมือวาดภาพของจิตรกร นั้นยอดเยี่ยมมาก!พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นมัน!อย่าว่าอะไรเลย ทักษะการวาดภาพนี้แข็งแกร่งเกินไป ทุกลายเส้นนั้นสมบูรณ์แบบ รายละเอียดก็เยอะมาก จิตรกรที่วาดภาพมาทั้งชีวิตพวกนั้น ไม่อาจมีทักษะการวาดแบบนี้ได้!”
คน ๆ นี้พูดเป็นความจริง
คนธรรมดา ยากมากที่จะฝึกพู่กันแบบนี้
ยังไงแล้ว บรรพอาจารย์ตระกูลเจียงก็อยู่มาถึงหนึ่งร้อยสิบสามปี คนโบราณอย่างนี้ แทบจะไม่มีข่าวที่ไม่เคยได้ยิน และบรรพอาจารย์ตระกูลเจียงก็ไม่รู้วิธีฝึกฝนตนเอง ดังนั้นจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนวาดภาพ แค่ทักษะนี้เพียงอย่างเดียว จิตรกรส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถไล่ตามพวกเขาได้
ยิ่งไปกว่านั้น บรรพอาจารย์ตระกูลเจียงก็รอให้เมิ่งฉางเชิงกลับมาตลอด หลายทศวรรษผ่านไปวันแล้ววันเล่า ภาพเสมือนจริงของเมิ่งฉางเชิง ก็มีฝีมือดีมากจนไม่มีใครเทียบได้ และนี่คือภาพที่เขาพอใจที่สุด การวาดที่จำนวนมากแบบนี้ ไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ สักนิด ช่างสมบูรณ์แบบที่สุด!
อีกคนเข้ามาใกล้ ใช้แว่นขยายมองดูอย่าละเอียด พูดอย่างตื่นเต้นว่า:“ภาพนี้……เป็นภาพบนผ้าไหมสมัยราชวงศ์ถังจริง……พื้นผิวนี้ แค่มองก็รู้ว่าเป็นของโบราณ ไม่ได้ปลอมกันได้ง่าย ๆ!และก็ ท่านหม่าพูดถูก!ทักษะการวาดเจ๋งมาก นับว่าเห็นแค่ครั้งเดียวชีวิตผมเลย ……”
ท่านหม่า เป็นหนึ่งในบุคคลยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดในงสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดจินหลิง และเป็นสมาชิกที่ค่อนข้างมีชื่อในสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดตอนนี้ ตลอดมา เสียงที่เชียร์ให้เขาเป็นรองประธานเซียวของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดก็เยอะมาก ดังนั้นเขาก็เป็นศัตรูที่ใหญ่ที่สุด ในสายตาเซียวฉางควน
แม้แต่บุคคลยิ่งใหญ่ก็ยังบอกว่าเป็นภาพของราชวงศถังจริง ทุกคนก็พากันตื่นเต้น
ทุกคนมองภาพวาดนี้อยู่นาน ยิ่งดูก็ยิ่งตกใจ ยิ่งดูก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น เพราะภาพวาดนี้ ในสายตาของพวกเขาแล้ว ทักษะการวาดดูเหนือกว่าจิตรกรทุกคนในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ถัง แนวความคิดทางศิลปะที่สื่อออกมา ก็น่าทึ่งจริง ๆ
บุคคลยิ่งใหญ่ถามเซียวฉางควนอย่างตื่นเต้น:“คุณเอาภาพวาดนี้มาจากไหน?!”
เซียวฉางควนเชิดใส่เขา แล้วพูดอย่างเหยียดหยาม:“เมื่อกี๊ผมบอกแล้วไง ภาพนี้เก็บมาได้แบบไม่ตั้งใจ!”
“ตลก!”บุคคลยิ่งใหญ่พูดอย่างดูถูก:“ผลงานตั้งแต่ราชวงศ์ถังมาจนตอนนี้ จะมาอยู่ในมือคุณนี่นะ?”
เซียวฉางควนเบะปาก:“ผมรู้ว่าคุณดูถูกผม มักจะรู้สึกว่าผมไม่มีความสามารถที่แท้จริงเหมือนคุณ แต่คุณต้องรู้ไว้นะ ในชีวิตนี้ บางครั้งจะมองแค่ความสามารถไม่ได้ ต้องมีโอกาสด้วย!”
พูดไป เซียวฉางควนก็พูดอีกว่า:“ภาพนี้ ที่จริงซ่อนอยู่ในภาพวาดที่ไม่สะดุดตานัก แต่ผมเซียวฉางควนมีตาดี มองเห็นว่ามีอีกภาพติดอยู่ที่ด้านล่างของภาพวาดนั้น ดังนั้นผมจึงซื้อภาพวาดนี้ กลับมาฉีกเพื่อเปิดดู และก็เป็นภาพวาดที่สวยงามของราชวงศ์ถังที่ซ่อนอยู่จริง”
“ผมไม่ได้โม้!คนในภาพนี้ แม้จะอยู่บนกระดาษ ก็เหมือนจริงมาก คุณเคยเห็นภาพวาดสมัยราชวงศ์ถังที่มีเสน่ห์แบบนี้ไหมล่ะ?”
บุคคลยิ่งใหญ่อุทานด้วยความตกใจ:“เซียวฉางควน คุณเก็บภาพนี้มาได้จริง ๆ เหรอ?!”
เซียวฉางควนเห็นเขายังไม่เชื่อ ก็ขึ้นไปม้วนภาพ ม้วนไป พูดไปว่า “ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่ต้องดู ผมเอาภาพผมมาให้คุณดู ยังต้องถูกสงสัยอีก ขี้เกียจมาไร้สาระด้วยแล้ว”
พอบุคคลยิ่งใหญ่เห็น ก็พูดอย่างสุภาพทันที:“เซียวฉางควน อ้อไม่สิ รองประธานเซียว ภาพวาดของคุณเจ๋งมากจริง ๆ ขอผมชื่นชมหน่อยได้ไหม?”
เซียวฉางควนถามย้อนว่า:“คุณบอกว่าภาพนี้เจ๋ง เจ๋งขนาดไหนเหรอ?”
บุคคลยิ่งใหญ่พูดโดยไม่ลังเล:“ทักษะการวาดที่ประณีตแบบนี้ เพิ่งเคยเห็นในชีวิตนี้!”
เซียวฉางควนถามอีกว่า:“งั้นนายยอมไหม?”
“ยอม ยอมอยู่แล้ว!”บุคคลยิ่งใหญ่พยักหน้าพูดอย่างไม่ลังเล:“ภาพวาดแบบนี้ทำลายการรับรู้ของผมในภาพวาดสมัยราชวงศ์ถัง ยอมเขาเลยจริง ๆ!”
เซียวฉางควนพยักหน้าอย่างพอใจ ยื่นภาพให้เขาแล้วพูดว่า:“ในเมื่อนายยอมแล้ว งั้นก็จะให้นายดู ดูให้พอเลย”
พูดจบ เขาก็มองไปที่คนอื่น ๆ อีกครั้ง พูดว่า:“เห็นไหม นี่คือวิธีที่คนสองคนที่มีความสามารถแท้จริงสื่อสารกัน!คนที่วัน ๆ เอาแต่นินทาคนอื่น พูดจาเหลวไหล หัวอ่อนไหวไปตามคำพูดคนอื่นอย่างคุณนี้ ที่จริงแล้วไม่เข้าใจอะไรเลยต่างหาก!หมาที่หน้าหมู่บ้านเห่า หมาทั้งหมู่บ้านก็เห่าตาม แต่คุณต้องถามก่อนว่าทำไมหมาถึงเห่า เพราะไม่มีหมาตัวไหนรู้หรอก!”