ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5676 ผมให้ความกล้าหาญแก่เธอ! (3)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5676 ผมให้ความกล้าหาญแก่เธอ! (3)
“เธอจะต้องอย่างรู้แน่ ๆ ว่าแท้จริงแล้วใครเป็นคนนำรูปวาดอาจารย์ของเธอออกมาใช่ไหม?”
“และเธอก็ยิ่งอยากรู้เข้าไปอีกว่า คนที่นำภาพวาดออกมา มีความสัมพันธ์อะไรกับอาจารย์ของเธอ? ใช่ลูกศิษย์ที่อาจารย์ของเธอรับไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่า? ถ้าหากใช่ อีกฝ่ายก็น่าจะมีอายุมากกว่าห้าร้อยปีแล้ว และได้รับยาวงเวียนพันจักรไว้ในครอบครอง เกรงว่าความแข็งแกร่งคงมากกว่าเธอไม่น้อย!”
“เธอจะต้องอยากรู้ ว่าเพราะอะไรกองกำลังในบังคับบัญชา ท่านเอิร์ลทั้งสองของเธอ คนหนึ่งเสียชีวิตในเมืองจินหลิง อีกคนหนึ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอย พอวันรุ่งขึ้นภาพวาดอาจารย์ของเธอก็ปรากฏออกมาในเมืองจินหลิงอย่างเปิดเผย?”
“และเธอก็น่าจะอยากเข้าใจเป็นอย่างมากว่าคนที่นำรูปภาพนั้นออกมา กับคนที่บีบให้สวี่ฉางชิงต้องระเบิดตัวเอง เป็นคนเดียวกันหรือไม่? หากเป็นคนเดียวกัน ทำไมถึงไม่ตายไปพร้อมกับตอนที่สวี่ฉางชิงระเบิดตัวเอง?”
“และเธอจะต้องอยากเข้าว่าทำไมอีกฝ่ายถึงรอดชีวิตจากการระเบิดตัวเองของสวี่ฉางชิงมาได้ และทำไมจะต้องเผยแพร่รูปภาพของอาจารย์ต่อสาธารณะทันทีหลังจากนั้น”
“นอกจากนี้ เกรงว่าเธอคงอยากจะทำให้เรื่องราวทุกอย่างชัดเจน ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาอย่างไรกันแน่? เป็นการแจ้งเตือนหรือเปล่า ต้องการที่จะใช้สิ่งเหล่านี้ในการบอกเธอว่า อีกฝ่ายรับรู้พลังที่แท้จริงของเธอตั้งนานแล้ว รู้ว่าเธอเป็นศิษย์ของเมิ่งฉางเชิง?!”
“เมื่อเธอตระหนักถึงจุดนี้ เธอก็จะรู้ได้ทันทีว่า อีกฝ่ายรับรู้ถึงภูมิหลังของเธออย่างหมดจดแล้ว!”
“เมื่อถึงเวลานั้น ผู้หญิงที่ชอบใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงตอนคุยโทรศัพท์คนนั้นก็คงจะรู้สึกตื่นตระหนกราวกับมดแตกรัง ขณะเดียวกันก็คงรู้สึกทรมานอย่างมาก และไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อไปดี”
“และนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่รังควานใจของเธอมากที่สุด! ปัญหาที่รังควานใจเธอมากที่สุดจะต้องเป็นเรื่องที่คนผู้นี้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ทำแบบนี้ก็เพื่อต้องการดึงดูดให้เธอมายังเมืองจินหลิงหรือเปล่า? หรือว่าเพื่อหลอกล่อให้เธอพาคนจำนวนมากมาตายที่เมืองจินหลิง?”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน “ผมเชื่อว่า ในตอนที่สมองของอู๋เฟยเยี่ยนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เธอจะต้องตกอยู่ในความกังวลและไม่กล้าทำอะไรกับเมืองจินหลิงอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นผมจะเป็นคนมอบความกล้าให้กับเธอ คิดว่าเธอจะกล้ามาหรือไม่?! ต่อให้ผู้อาวุโสทั้งสามมายังเมืองจินหลิง เธอก็ต้องเรียกทั้งสามคนกลับไปทันทีที่รับรู้!”
หยุนหรูเกอถามออกมาด้วยความสงสัยเล็กน้อย “คุณเย่ ฉันไม่เข้าใจวิธีการเกี่ยวกับทหาร และไม่เข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ ฉันสงสัยเกี่ยวกับ《กลยุทธ์เมืองว่าง》มาโดยตลอด คือสุมาอี้มีทหารอยู่ตั้งหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย จูกัดเหลียงเปิดประตูเมืองกว้าง ทำไมถึงไม่ส่งทหารเข้าไปสักหมื่นหรือสองหมื่นนายเพื่อค้นหาความจริง?”
เย่เฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ผมจะอธิบายให้คุณเข้าใจแล้วกัน หากคุณรับโทรศัพท์ของมิจฉาชีพ อีกฝ่ายพูดในโทรศัพท์ว่า ขอแค่โอนเงินทั้งหมดจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นให้กับเขา เขาจะโอนกลับมาให้สองเท่า แต่ในใจของคุณรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นคนโกหก ไม่มีทางโอนกลับมาให้นายเป็นแน่ แบบนั้นคุณจะโอนให้หนึ่งหมื่นหรือสองหมื่นของคุณให้อีกฝ่ายเพื่อลองดูหรือเปล่า?”
หยุนหรูเกอตะลึงงัน จากนั้นก็พูดออกมาด้วยความละอายใจ “ฉันเข้าใจแล้ว……ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณเย่ ดูเหมือนว่าหลายปีที่ผ่านมาฉันคงเอาแต่อุทิศตนให้กับการบำเพ็ญมากเกินไป กลยุทธ์จึงค่อนข้างล้าหลัง……”
หลินหว่านเอ๋อร์มองมาที่เย่เฉิน คิ้วของเธอขมวดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
เธอเริ่มสัมผัสได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเย่เฉินคนนี้น่าสนใจ มีความสามารถ มีน้ำใจ แข็งแกร่งและมีคุณธรรม และเป็นคนฉลาดในขณะเดียวกัน และสิ่งที่หายากมากกว่านั้นก็คือ เขายังเป็นคนตลกอีกด้วย
ดังนั้นเธอจึงยิ้มและพูดออกไปว่า “คุณชาย ถ้าวันไหนที่อู๋เฟยเยี่ยนรู้ว่าคุณชายวางแผนกับเธอเช่นนี้ เกรงว่าเธอคงโกรธจนอายุสั้นลงเป็นยี่สิบปี……”
ระหว่างที่พูด หลินหว่านเอ๋อร์ก็ยิ้มออกมา “ในเมื่อคุณชายเป็นคนดีถึงขนาดนี้ เช่นนั้นทำไมถึงไม่เขียนอักษรลงบนภาพสักสองสามคำ ไม่แน่ว่าอาจจะได้ผลดีกว่าเดิม”
เย่เฉินยิ้มและถามออกมา “เขียนว่าอะไร?”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มออกมา “ก็เขียนเกี่ยวกับคำแนะนำประวัติของบรรพอาจารย์เมิ่งโดยสังเขป! เมิ่งเชิง ชื่อเต็มคือฉางหมิง เป็นคนฉางอาน เกิดในปีแรกของราชวงศ์ถังหลินเต๋อ หลังจากนั้นเพื่ออายุที่ยืนยาว จึงเปลี่ยนชื่อเป็นเมิ่งฉางเชิง……”