ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5663 คุณจำเป็นต้องรับเอาไว้ทั้งหมด(3)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5663 คุณจำเป็นต้องรับเอาไว้ทั้งหมด(3)
พูดไป เย่เฉินจึงนำเอาโอสถเม็ดนั้นยัดใส่มือของเธอโดยตรง หลังจากนั้นไม่รอให้เธอมีปฏิกิริยาตอบกลับ ก็หยิบยาอายุวัฒนะออกมาอีกเม็ดหนึ่ง ยัดใส่มือของเธออีกครั้ง พูดว่า:“ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ คนธรรมดาทานแล้ว สามารถรักษาได้ทุกโรค คนที่ไม่มีโรคทานแล้ว จะมีชีวิตยืนยาวอีกยี่สิบปี สรรพคุณแกร่งกว่ายาช่วยหัวใจ คุณทานละก็ ถึงแม้ว่าจะไม่มีสรรพคุณในการยืดอายุ แต่ว่าอาการบาดเจ็บทั้งหมดต่างรักษาหายได้ ถ้ายาช่วยหัวใจใช้ไม่ได้ผล ก็ทานสิ่งนี้!”
หลินหว่านเอ๋อร์มองโอสถสองเม็ดที่อยู่ในมือ วินาทีแรกไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี พูดออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูก:“คุณชาย……นี่……นี่ล้ำค่าเกินไปแล้ว……”
เย่เฉินไม่ได้สนใจเธอ นำเอายาก่อใหม่ยัดเข้าไปในมือเธออีกเม็ด บอกกล่าวว่า:“โอสถเม็ดนี้ยิ่งเก่งกาจ มันคือยาก่อใหม่ ต่อให้ร่างกายของคนจะถูกทุบตีจนแหลกละเอียด ขอเพียงส่วนสมองยังไม่ตาย โอสถเม็ดนี้ก็จะสามารถทำให้ร่างกายของเขาฟื้นฟูกลับมาได้อีกครั้ง ผมหวังว่าคุณจะไม่ได้ใช้มันตลอดไป แต่ว่าคุณก็ยังต้องรับมันเอาไว้ เพราะว่านี่ถือว่าเป็นน้ำใจจากผม”
หลินหว่านเอ๋อร์คาดไม่ถึง กระนั้นเย่เฉินนำเอาโอสถที่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้มอบให้ตัวเองแล้ว วินาทีแรกไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
ในเวลานี้ เย่เฉินหยิบยาเสริมชี่ปราณออกมาอีกหนึ่งเม็ดแล้ว ลังเลอยู่แวบหนึ่ง ก็ยังยัดใส่มือเธอ พูดออกมาอย่างจริงจังว่า:“สิ่งนี้ คือยาเสริมชี่ปราณ บำรุงพลังลมปราณ คุณน่าจะไม่ได้ใช้หรอก แต่ว่าเพื่อเป็นการแสดงถึงความซาบซึ้งใจที่คุณช่วยชีวิตเอาไว้ คุณรับเอาไว้ด้วยกันเถอะ!”
หลินหว่านเอ๋อร์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี:“คุณชาย……คุณต่างพูดแล้วว่าฉันคงไม่ได้ใช้ ยังจะมอบให้ดิฉันนี่ไม่ใช่ว่าสิ้นเปลืองเสียเปล่า……”
เย่เฉินพูดออกมาอย่างจริงจัง:“ไม่!ไม่สิ้นเหลือง!คุณต้องรู้ด้วย คุณช่วยชีวิตผม นี่เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากผม!”
หยุดไปสักครู่ เย่เฉินก็พูดออกมาอีกว่า:“คุณมีชีวิตอยู่มาสามร้อยปีแล้ว อะไรต่างก็เคยเห็นเคยทาน เงินกับสิ่งของคุณคงไม่ขาด สิ่งที่ผมสามารถมอบให้คุณเป็นการตอบแทนได้ นั่นก็คือโอสถสิ่งนี้แล้ว”
“ในตอนนแรกที่อยู่ยุโรปเหนือ แหวนวงนั้นที่คุณมอบให้ผม ผมรับเอาไว้แล้ว ดังนั้นวันนี้ยาสี่เม็ดนี้ที่ผมมอบให้คุณ คุณจำเป็นต้องรับเอาไว้ทั้งหมด จะพูดอะไรต่างก็ไม่สามารถปฏิเสธได้!”
หลินหว่านเอ๋อร์มองเห็นว่าเย่เฉินด้วยความจริงใจ บวกกับในตอนที่เย่เฉินยัดโอสถให้กับเธอ จับมือของเธอเอาไว้ตามสัญชาตญาณ นอกจากความเขินอายแล้ว ก็ยังมีความซาบซึ้งใจอย่างมาก
จากนั้น เธอพูดออกมาตามสัญชาตญาณ:“งั้นดิฉันจะรับยาเหล่านี้เอาไว้ก่อน เก็บเอาไว้เผื่อว่าครั้งหน้าคุณชายเกิดเหตุไม่คาดคิด……”
พูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง รีบส่ายหน้าพูดว่า:“ไม่ใช่ๆ ดิฉันพูดผิดแล้ว คุณชายอย่าได้เก็บไปใส่ใจ”
เย่เฉินประหลาดใจขึ้นมาในทันใด รีบร้อนพูดออกมา:“ไม่ไม่ไม่ ผมไม่ได้ใส่ใจอะไร กลับกันเป็นคุณที่เตือนสติผม”
พูดไป เขาก็หันหลังกลับไปหยิบโอสถสี่เม็ดนี้มาอย่างละเม็ดมาหนึ่งชุด ยัดเข้าไปในมืออีกข้างหนึ่งของหลินหว่านเอ๋อร์ สองคนสี่มือประสานแน่น เย่เฉินเหมือนดั่งชายที่ดื่มเหล้าเมาแล้วสั่งความกับเพื่อนรักของตัวเอง บอกกล่าวกับหลินหว่านเอ๋อร์อย่างจริงจัง:“ชุดนี้คุณก็เก็บเอาไว้ ถือว่าผมฝากเก็บเอาไว้ที่คุณ เพราะว่าผมยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้แหวนวงนั้นของคุณรับผมเป็นนาย ก่อนหน้าที่มันยังไม่รับผมเป็นนาย ถ้าเกิดว่าวันไหนโชคไม่ดีพบเจออันตรายเข้า ไม่แน่ยังจะถูกเจ้าแหวนวงนี้ส่งไปรบกวนคุณ โอสถเหล่านี้อยู่กับคุณที่นั่น ก็ถือว่าเตรียมเอาไว้ให้ตัวเองใช้ในยามฉุกเฉิน……”
หลินหว่านเอ๋อร์เมื่อนึกถึงตอนที่เย่เฉินถูกแหวนส่งตัวมาที่บ่อน้ำพุร้อน ก็อดที่จะหน้าแดงลามไปถึงหูไม่ได้ ภายในใจถึงแม้จะเขินอายจะแย่ แต่ว่าเธอก็ทราบดี สิ่งที่เย่เฉินเป็นกังวลความจริงแล้วมีเหตุผล เพียงแค่เขายังสวมแหวนวงนั้นเอาไว้ งั้นเมื่อเขาได้รับอันตรายอีกครั้ง งั้นเขาก็จะถูกแหวนส่งมาที่เบื้องหน้าของตัวเองอย่างแน่นอน
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เธอจึงพยักหน้าอย่างแรงแล้ว เอ่ยปากออกมา:“คุณชายวางใจได้ ดิฉันจะดูแลรักษาโอสถเหล่านี้อย่างดี!”
พูดไป เธอรีบร้อนพูดกับเย่เฉินว่า:“กระนั้นคุณชายมียาที่ล้ำเลิศขนาดนี้ งั้นก็รีบทานรักษาบาดแผลก่อนเถอะ!”
เย่เฉินพูด:“อยู่ที่นี่ทานยาคงไม่ทันแล้ว ยาก่อใหม่กว่าจะออกฤทธิ์นั้นต้องใช้เวลาสิบกว่านาที ผมเป็นไปได้ว่าอะไรก็ทำไม่ได้แล้ว ท่านเอิร์ลติ้งหยวนคนนั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าไม่รีบหาตัวเธอออกมา ผมไม่วางใจอย่างมากจริงๆ”
พูดไป เย่เฉินก็พูดออกมาว่า:“เอาอย่างนี้ ผมเอาโอสถไปด้วย คุณหลินรบกวนพยุงผมขึ้นเฮลิคอปเตอร์อีกครั้ง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วผมจะทานยา ในขณะเดียวกันคุณหลินก็บินไปที่สถานที่เกิดเหตุ กว่าให้ถึงที่นั่น ผมก็น่าจะฟื้นฟูกลับมาพอสมควรแล้ว”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดออกมาอย่างไม่ต้องพิจารณา:“ค่ะ ดิฉันจะพยุงคุณชายออกไป!”