ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5631 สายฟ้าของแกละ? (2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5631 สายฟ้าของแกละ? (2)
ทันทีที่พูดจบ ได้ยินเพียงเมฆดำที่กำลังก่อตัวขึ้นเป็นก้อนใหญ่ท่ามกลางท้องฟ้าด้วยความรวดเร็ว ฟ้าแลบฟ้าร้องท่ามกลางก้อนเมฆ น่าตกใจเหลือเกิน!
ฉากนี้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งคุ้นเคยมาก ถึงแม้จะพูดว่าตอนที่ใช้ไม้ฟาดสายฟ้าในวันนั้นเมฆดำนี้ไม่ได้หนักและหนาจนน่าตกใจขนาดนั้น แต่กลับรู้สึกว่าเหมือนกันยังกับแกะ!
ทันทีที่เย่เฉินเรียกสายฟ้าออกมา ทันใดนั้นเขาก็ตกใจราวกับโดนฟ้าผ่า แอบครุ่นคิดภายในใจ: “แม่งเอ๊ย ถ้าหากเป็นตามที่เจ้าเด็กนี่มันพูดจริงๆ ยันต์ฟ้าร้องของฉันเจอกับของเขาแล้วก็จะงานไม่ได้?!”
ทันทีที่คิดถึงตรงนี้ เขาก็รีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว อยากจะหลบหลีกสายฟ้าที่กำลังจะผ่าลงมา
แต่ว่า สายฟ้ามีเย่เฉินเป็นผู้ควบคุมด้วยจิตใจ จะให้เขาหลบหนีง่ายๆได้ยังไง!
ดวงตาทั้งสองข้างของเย่เฉินจดจ้องที่ร่างของท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง จากนั้น สายฟ้าสายฟนึ่งก็ผ่าลงมาทันที ผ่าลงไปที่บนศีรษะของท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง
ยันต์ฟ้าร้องอันนั้นเย่เฉินเคยวางกับดักเอาไว้ สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น อีกทั้งเพียงแค่ใช้ ก็จะต้องสิ้นเปลืองปราณทิพย์จำนวนมากถึงจะใช้งานได้ อีกทั้งอานุภาพรุนแรงมาก ถือเป็นยันต์ฟ้าร้องขนาดใหญ่
แต่ยันต์ฟ้าร้องของเย่เฉินเอง ก็คือขึ้นอยู่กับการเลือกของบุคคลนั้นๆ ยืดหยุ่นอิสระ อยากได้ใหญ่ก็ใหญ่ตามต้องการ อยากได้เล็กก็เล็กตามปรารถนา!
เขาไม่อยากได้ชีวิตของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเร็วขนาดนี้ ดังนั้นจึงจงใจควบคุมปล่อยปราณทิพย์ออกไป และสายฟ้าสายนี้ ไม่ได้นำความบาดเจ็บมาให้แก่ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งมากเกินไปนัก
แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เส้นผมของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็ถูกสายฟ้าระเบิดใส่จนเหมือนกับรังนก ใบหน้าดำปี๋ แม้แต่ชุดคลุมเต๋าบนตัวก็ขาดรุ่งริ่ง ทั้งเจ็บทั้งชาไปทั่วทั้งตัว อาการเป็นตะคริวไปทั่วทั้งตัวยืนอยู่กับที่อย่างควบคุมไม่ได้
เมื่อเห็นสารรูปที่จนตรอกนี้ของเขา เย่เฉินเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม: “เป็นยังไง ฉันไม่ได้หลอกแกใช่ไหมล่ะ?”
ในเวลานี้ หยุนหรูเกอที่แอบซ่อนไกลออกไปยี่สิบจั้ง ตกใจจนสีหน้าซีดขาว เธอคิดไม่ถึงราวกับฝันไป ชายชุดดำคนนี้สามารถควบคุมสายฟ้าได้อย่างไม่คาดคิด! และเธอยิ่งคิดไม่ถึงว่า ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งที่พละกำลังแข็งแกร่ง ต่อหน้าชายชุดดำคนนั้น คาดไม่ถึงว่าจะอ่อนแอเช่นนี้!
และนางอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดภายในใจ ต่อจากนี้ไปตนควรจะทำอย่างไรดี
ถ้าหากพุ่งออกไปช่วยท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง ตนเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายชุดดำคนนั้นเลยสักนิด อีกอย่าง ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็ทะนงตัวมาโดยตลอด ค่อนข้างดูถูกท่านเอิร์ลอีกสามท่าน เธอกับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็ไม่ได้มีความสนิทสนมอะไรกัน ในเวลาแบบนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตไปช่วยเหลือเลยสักนิด
แต่เธอก็ไม่รู้อีกว่า ถ้าหากตนเองไม่ออกหน้าช่วยเหลือ กลับไปผู้มีพระคุณเกิดซักถามขึ้นมา ตนเองควรจะอธิบายอย่างไร?
หลังจากคิดหน้าคิดหลัง เธอก็ตัดสินใจแอบเฝ้าสังเกตการณ์ต่อไป ตนมีวิชาซ่อนลมหายใจที่ผู้มีพระคุณถ่ายทอดมาให้ น่าจะสามารถซ่อนเอาไว้ไม่ถูกพบเจอ
ถ้าหากคืนนี้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งโชคไม่ดีตายอยู่ในเงื้อมมือของคนชุดดำ ตนก็จะรายงานผู้มีพระคุณตามความจริง ต่อให้ผู้มีพระคุณตำหนิ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นโทษตาย ถึงยังไงก็ดีกว่าโผล่พรวดพราดออกไปแล้วเอาชีวิตไปทิ้งเป็นไหนๆ!
ถ้าหากท่านเอิร์ลฉางเซิ่งโชคดีสามารถหนีออกมาได้ ตนเองก็จะใช้ข้ออ้างแบบขอไปทีว่า ตนออกไปตามสัญญาณที่ถูกปิดกั้น ต่อให้ผู้มีพระคุณตำหนิ อย่างมากก็ลงโทษตนที่ออกจากตำแหน่งโดยพลการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องร้ายแรง!
และท่านเอิร์ลฉางเซิ่งในเวลานี้ หลังจากที่ถูกสายฟ้าสายหนึ่งผ่า แน่นอนว่าภายในใจย่อมทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว เขารู้ว่าตนเองพยายามไปหลบแล้ว ผลสุดท้ายคือยังถูกสายฟ้าผ่าที่กลางกระหม่อม เช่นนี้จะเห็นได้ว่า การควบคุมสายฟ้าของเย่เฉินแม่นยำเป็นอย่างยิ่ง!
อีกทั้ง ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเองก็รู้ว่า ตนสามารถปล่อยอาคมระยะไกลได้ มีเพียงคมมีดของมีดคุไนไม้ด้ามนั้นของผู้มีพระคุณเท่านั้น แต่อาคมของเย่เฉินนอกจากคมมีดไร้รูปร่างที่ที่คล้ายกันกับคมมีดแล้ว ยังมีสายฟ้าที่ผ่าลงมาจากท้องฟ้าตรงๆ มีดคุไนไม้ของตนทำร้ายเขาไม่ได้ แต่สายฟ้าของเขาตนไม่สามารถหลบหลีกได้เลย ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป ตนจะต้องถูกเย่เฉินทำให้ตายแน่ หนทางเพียงอย่างเดียว ก็คือต่อสู้กับเขาในระยะประชิด!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งขบกรามแน่น ตะโกนกล่าวเสียงเย็น: “เด็กน้อย! ไม่นี้ไม่ใช่แกตาย ก็เป็นฉันที่ต้องตาย!”
พูดจบ เขาก็ถ่ายทอดปราณทิพย์ไปที่ขาทั้งสองข้าง แสดงวิชาเคลื่อนร่างเปลี่ยนเงาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้มีพระคุณ ใช้ความเร็วที่ประหลาด ราวกับกระโดดข้ามมิติเวลาพุ่งตัวไปทางเย่เฉินอย่างรวดเร็ว!
อาคมชนิดนี้มีข้อดีที่ดีที่สุด ก็คือเส้นทางการเคลื่อนที่นั้นไม่แน่นอน กฎเกณฑ์ที่หาตัวจับยาก ไม่เพียงสามารถทำให้อีกฝ่ายทำร้ายตนเองได้ยาก ยังสามารถฉวยโอกาสร่นระยะทางกับอีกฝ่ายได้ด้วย
ถึงแม้ของวิเศษจะตกเป็นรอง แต่ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเชื่อมั่น ร่างกายที่ตนฝึกฝนอย่างลำบากมานับร้อยปี จับคู่เข้ากับปราณทิพย์ที่ฝึกฝนอย่างยากลำบากมาหลายสิบปี ก็จะยิ่งบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น ทันทีที่เข้าใกล้ตัว เย่เฉินเจ้าเด็กน้อยคนนี้ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของตนโดยเด็ดขาด!
แต่ว่า ในตอนที่เขากำลังมุ่งหน้าเข้าไปโจมตีเย่เฉินด้วยความรวดเร็วนั้น ทันใดนั้นเย่เฉินก็ตะโกนขึ้นอีกครั้ง: “สายฟ้าจงมาอีกครั้ง!”
จากนั้น เสียงตูมดังขึ้นทีหนึ่ง ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งที่เพิ่งจะกระโดดออกมาได้แค่เพียงหนึ่งจั้ง ก็ถูกสายฟ้าโจมตีเข้าอีกครั้ง!
พละกำลังที่รุนแรง ทำให้ผมขาวที่เดิมทีก็ยุ่งเหยิงบนศีรษะของท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง กลายเป็นสีเทาควันบุหรี่ภายในชั่วพริบตา ชุดคลุมเต๋าที่ขาดรุ่งริ่งก็แทบจะสลายหายไป เหลือไว้แค่เพียงกางเกงในสีแดงที่ขาดรุ่งริ่งตัวหนึ่งเท่านั้น
เย่เฉินจ้องมองเข้า แสยะยิ้มเหยียดหยามกล่าว: “แกไอ่แก่โรคจิต จนอายุร้อยกว่าปีแล้ว ยังใส่กางเกงในสีแดงอยู่ดี ไม่อายบ้างหรือไง?”
ถึงแม้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจะถูกฟ้าผ่าจนเกือบตาย แต่ยังฝืนพยุงร่างกาย ก่นด่าอย่างสุดเสียง: “แก……แกไอ้ชาติ…..ไอ้ชาติชั่ว! ข้า……ข้า……ปีนี้เป็นปีชงของข้า!”
“ปีชง?”เย่เฉินอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “อายุอานามแกก็มากขนาดนี้แล้ว ยังเชื่อเรื่องนี้?”
บนใบหน้าของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งข่มอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ กัดฟันกล่าว: “ฉันจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันเกี่ยวอะไรกับแกด้วย!”
ตอนที่พูดประโยคนี้ หัวสมองของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งลอยหมุนคว้างอย่างรวดเร็ว
เขาคิดไม่ถึงว่า แม้ว่าตนเองจะใช้อาคมเคลื่อนร่างเปลี่ยนเงาแล้ว ยังคงไม่สามารถหลบสายฟ้าของเย่เฉินได้!
และความรู้สึกที่ถูกฟ้าผ่านี้ เจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งจริงๆ เจ็บและได้รับบาดเจ็บยังเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญคือพลังงานไฟฟ้าที่อยู่ในสายฟ้า ทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายชักกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ ร่างกายจะสูญเสียการควบคุมทั้งหมดไปในระยะเวลาสั้นๆ