ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5627 ประลองฝีมือ(1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5627 ประลองฝีมือ(1)
ในเวลานี้ เย่เฉินวิ่งอย่างรวดเร็วมาตลอดทาง ล่อท่านเอิร์ลฉางเซิ่งวิ่งห้อมุ่งหน้าไปทางภูเขา
ความเร็วของทั้งสองคนรวดเร็วมาก ถึงแม้จะเป็นบนเนินเขาที่มีต้นไม้รก ลักษณะพื้นภูมิเป็นเนินขึ้นลง ก็สามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็ว ราวกับวิ่งอยู่บนพื้นเรียบ
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งในเวลานี้ได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งตัว กัดเย่เฉินแน่นไม่ปล่อย ในขณะเดียวกันก็วิ่งห้อยังต้องเบิกตากว้าง รวบรวมจิตใจและกำลังเพื่อหลบหลีกต้นไม้และก้อนหินภูเขาใต้ฝ่าเท้าบริเวณรอบๆ ตอนที่สิ่งออกไปหนึ่งถึงสองกิโลเมตร ทั่วทั้งตัวคนอยู่ในสภาพจนตรอกแสนสาหัส
แต่ว่า แม้เขาจะใช้กำลังอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เย่เฉินรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยและมั่นคงกับเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ระยะห่างนี้ทำให้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งกลัดกลุ้มเป็นพิเศษ เขาทำได้แค่ไล่ตามเย่เฉินไม่ปล่อยเท่านั้น แต่กลับไม่สามารถฉวยโอกาสเริ่มต้นการโจมตีเย่เฉินได้เลย
เนื่องจาก ไม่ว่าเขาจะใช้มีดคุไนไม้ที่ผู้มีพระคุณให้ หรือว่าใช้ไม้ฟาดสายฟ้าที่ตนเองซื้อมาจากจางเอ้อเหมาทางด้านนั้นโจมตี ต่างก็ต้องสงบจิตใจเพื่อเคลื่อนย้ายปราณทิพย์ เปิดใช้งานค่ายกล การเสียสมาธิเพียงเล็กน้อยมีความเป็นไปได้ที่ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้เปล่าประโยชน์
ดังนั้น พลางเดินพลางโจมตีก็อาจจะเป็นไปได้ พลางวิ่งพลางโจมตีถึงแม้ว่าความยากจะมากขึ้นหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้
แต่ถ้าหากนึกภาพที่ตัวเองกำลังทำแบบนี้อยู่ตอนนี้ พลางวิ่งกระโดดราวกับลิง ออกแรงกินนมแม่อยู่บนภูเขา พลางยังต้องรวบรวมสมาธิเพื่อหยิบของวิเศษออกมาร่ายอาคม นี่สำหรับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งแล้ว ก็ยากลำบากราวกับขึ้นสวรรค์
เมื่อเห็นว่าเย่เฉินเอาแต่วิ่งห้อขึ้นไปกลางภูเขา ถึงแม้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจะรู้ว่าเย่เฉินอยากจะล่อตนเองให้มาในที่ที่ไร้ผู้คน ต่อสู้กันให้ตายไปข้างกับตนเองอีกครั้ง แต่ในเวลานี้เขาเองก็มาได้มีตัวเลือกอื่นใดๆทั้งสิ้น ทำได้แค่เพียงไล่ตามไปจนถึงที่สุด
เย่เฉินนำท่านเอิร์ลฉางเซิ่งล่อมาถึงหุบเขาที่ไร้คนห่างออกมากว่าสามสี่กิโลเมตร นี่คือสถานที่ที่เขาเลือกเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะต่อสู้กันให้เด็ดขาด ที่นี่เดิมทีก็ห่างจากเขตตัวมากแล้ว บริเวณรอบๆยังไร้ที่อยู่อาศัยของผู้คน ต่อให้เกิดความเคลื่อนไหวที่รุนแรง ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้โลกภายนอกสังเกตได้
เมื่อตอนที่เย่เฉินวิ่งห้อมาจนถึงใจกลางหุบเขา เขารีบหยุดชะงักฝีเท้า หันตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาทั้งสองข้างจ้องท่านเอิร์ลฉางเซิ่งที่ค่อยๆเข้ามาใกล้เขม็ง กล่าวเสียงเย็นชา: “กำลังกายของแกเจ้าไอ้หมาแก่ไม่เลวเลยนี่!”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งยืนนิ่งในขณะที่อยู่ห่างจากเย่เฉินระยะประมาณยี่สิบเมตร อาศัยแสงจันทร์อที่ด่างพร้อย จ้องมองใบหน้าของเย่เฉิน แสยะยิ้มกล่าว: “คิดไม่ถึงจริงๆว่า ลูกชายของเย่ฉางอิง ภายในเวลาสั้นๆยี่สิบปีก็สามารถควบคุมปราณทิพย์ได้อย่างคาดไม่ถึง! ดูเหมือนว่า การคาดเดาของผู้มีพระคุณไม่ผิด พ่อแม่ผู้อายุสั้นของแก ตอนนั้นค้นหาความลับอายุยืนเจออย่างที่คิดไว้จริงๆ!”
หว่างคิ้วของเย่เฉินขมวดเข้าหากันเล็กน้อย กล่าวถาม: “แกบอกว่าพ่อแม่ของฉันก็เข้าใจเรื่องปราณทิพย์?”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะฮ่าๆกล่าว: “ดูเหมือนว่าพ่อแม่แกจะตายแล้วเกินไปหน่อย มีเรื่องราวมากมายที่ยังไม่ทันได้บอกแก ตอนนั้นพวกมันเข้าไปดินแดนนิรันด์ เอาความลับอายุยืนไป เดิมทีคิดว่าจะสามารถเตรียมการเอาไว้เสร็จสรรพ แต่ก็ยังถูกผู้มีพระคุณรู้ตัวจนได้ โชคดีที่ฉันฆ่ามันสองคนไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่อย่างนั้นละก็ ถ้าหากให้เวลาพวกมันอีกหลายสิบปี ไม่แน่ว่าแม้แต่ผู้มีพระคุณก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่ฉางอิง”
ภายในใจของเย่เฉินตกใจขึ้นมาทันที!
ทำไมเขาถึงคิดไม่ได้ พ่อแม่ของตัวเอง คาดไม่ถึงว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับปราณทิพย์ด้วยเหมือนกัน!
ในเวลานี้ มุมปากของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันขึ้นมา เอ่ยปากกล่าว: “วันนี้เรื่องมงคลคู่มาพร้อมกันจริงๆ ในเมื่อแกควบคุมปราณทิพย์เอาไว้ ต้องได้รับความลับอายุยืนที่พ่อแม่ของแกทิ้งเอาไว้ให้อย่างแน่นอน ถ้าหากแกไม่อยากตายอยากทุกข์ทรมานจนเกินไปละก็ ก็ส่งแหวนของหลินหว่านเอ๋อร์ รวมทั้งความลับอายุยืนออกมาพร้อมกัน!”
เย่เฉินจ้องท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเขม็งเอ่ยถาม: “ไอ้หมาแก่ ทำไมถึงต้องความลับอายุยืน?”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งแสยะยิ้มกล่าว: “เด็กน้อย ความตายอยู่ตรงหน้ายังจะแกล้งทำเป็นโง่อยู่ที่นี่ แกคิดว่าฉันจะตกหลุมพรางแกหรือไง?”
ดวงตาของเย่เฉินแหลมคมราวกับกระบี่ สายตาราวกับคบเพลิง กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ: “วันนี้แกต้องตายด้วยน้ำมือของฉัน! ฉันมีความจำเป็นอะไรจะต้องแกล้งโง่ใส่คนที่ต้องตายแน่? แต่บอกแกก็ได้ไม่เป็นไร วิธีการฆ่าคนของฉัน ไม่จิตใจเมตตาเท่าแก! วันนี้ถ้าหากนำเรื่องทั้งหมดและทุกอย่างที่แกรู้พูดออกมา บางทีฉันอาจจะให้แกไปอย่างสบายๆ!”