ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5625 ล่อเสือออกจากถ้ำ(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5625 ล่อเสือออกจากถ้ำ(2)
และเย่เฉินก็รู้ดี ว่าต่อให้ตัวเองจะไปทัน ตัวเองก็ไม่มีทางจะสู้จนตัวตายกับอีกฝ่ายแน่ เพราะเมื่อหากต่อสู้กันภายในวิลล่า คนของตระกูลอานกับหลี่ญ่าหลินก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นเขาจำเป็นต้องใช้แหวนวงนั้น เพื่อมาดึงดูดความสนใจของอีกฝ่าย และใช้โอกาสนี้ให้ตระกูลอานกับหลี่ญ่าหลินได้ถอนตัวออกไปจากเขตอันตราย
ส่วนภารกิจของหงห้า ก็คือหลังจากที่เย่เฉินได้บินไปแล้วสามนาที ไม่ต้องรอการแจ้งหรือรายงานใดๆ ให้บินตรงไปยังโฮมสเตย์ว่านหลิ่วเพื่อรับคนของตระกูลอานทันที
มาดูในตอนนี้ การเป็นไปในทุกขั้นตอน ก็ได้ดำเนินการไปตามที่เย่เฉินได้จัดวางเอาไว้ !
ในตอนนี้ คนของตระกูลอานภายใต้เสียงใบพัดขนาดใหญ่ที่ดังสนั่น ก็แทบไม่ได้ยินเลยว่าหงห้ากำลังพูดอะไร แต่พวกเขาเข้าใจในมือที่กวักเรียกของหงห้า ให้พวกเขารีบขึ้นเฮลิคอปเตอร์โดยเร็ว
ในขณะที่คนของตระกูลอานยังคงมีความลังเลอยู่เล็กน้อย หลี่ญ่าหลินก็พูดเสียงดังไปที่ข้างใบหูของทุกคนอย่างไม่ต้องคิด“นี่คงเป็นการจัดการของคุณเย่ รีบไปกันเร็ว!”
จากนั้น เขาก็ดึงอานโฉงชิว กับอานข่ายเฟิง และช่วยพยุงผู้สูงอายุทั้งสองคนของตระกูลอานขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ทุกคนก็ขึ้นเครื่อง เฮลิคอปเตอร์ก็นำเครื่องขึ้นอย่างรวดเร็วในทันที ด้วยการบินโฉบ แล้วหายวับไปอย่างรวดเร็วในค่ำคืน
ส่วนท่านเอิร์ลฉางเซิ่งในเวลานี้ ได้ยินเสียงที่ดังกระหึ่มจากไกลสู่ใกล้ที่ด้านหลัง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นใกล้สู่ไกล ก็พอจะเดาได้ว่าด้านหลังนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่เขาในตอนนี้แทบไม่ได้สนใจมันเลย
ตั้งแต่วินาทีที่เขาตัดสินใจจะไล่ตามเย่เฉินมา เขาก็ไม่ได้สนใจในความเป็นความตายของคนตระกูลอานอีก
สำหรับเขาแล้ว ต่อให้คนของตระกูลอานจะหนีไปก็ไม่ได้สำคัญอะไร ที่เขาสนใจในตอนนี้มีเพียงแหวนของเย่เฉินเท่านั้น ขอแค่ได้มันมา จะยังไปสนใจตระกูลเย่หรือตระกูลอานอีกทำไม ตัวเองก็คือผู้นำคนที่สองขององค์กรพั่วชิง!
แต่ทว่า เขาไม่นึกไม่ฝัน ว่าเย่เฉินนั้นจะวิ่งได้ไวขนาดนี้!ตัวเองไล่ตามอย่างสุดกำลังความสามารถ แต่ก็ยังไม่อาจจะย่นระยะห่างกับเขาได้ อีกทั้งก็ยังมีแนวโน้มว่าจะถูกเย่เฉินทิ้งห่างออกไปมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งที่ร้อนรนเป็นกังวล ก็ตะโกนด่าไล่หลังเย่เฉิน“ไอ้หนู หากเจ้ายังจะหนีแบบนี้อีก ข้าไม่เกรงใจแล้วนะ!”
เมื่อได้ยินท่านเอิร์ลฉางเซิ่งด่าไล่ตามหลัง เย่เฉินก็พูดด้วยรอยยิ้ม“ก็ตามมาสิ ฉันก็อยากจะดูเหมือนกันว่าหมาแก่อย่างท่านนอกจากเห่าหอนเป็นแล้ว ยังทำอะไรได้อีก!”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพูดเสียงเย็นเยือก“ไอ้หนู วันนี้แกตายแน่ !”
หยุนหรูเกอแอบถอนหายใจเงียบๆ“ดูท่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งคงตกหลุมพรางล่อเสือออกจากถ้ำของชายชุดดำเข้าให้แล้ว ไม่แน่ว่าชายชุดดำคนนี้ไม่เพียงต้องการจะช่วยตระกูลอานเท่านั้น แต่ยังหมายจะเอาชีวิตของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งด้วย!”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เธอที่ร้อนรนและเป็นกังวล ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นคำว่าไม่มีสัญญาณปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ชั่วขณะหนึ่งก็ร้อนรนเป็นกังวล
……
ย้อนเวลากลับไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว
ก่อนที่เย่เฉินจะมาถึงโฮมสเตย์ว่านหลิ่ว หยุนหรูเกอก็อยู่ที่กลางเขานี้ และเห็นท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเดินเข้าไปภายในวิลล่ากับตา
หยุนหรูเกอเห็นท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเข้าไปราวกับเป็นดินแดนที่ไร้ผู้คน ในตอนนั้นยังคิดว่า คืนนี้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจะต้องสังหารคนของตระกูลอานได้อย่างง่ายดายแน่ๆ และมีความดีความชอบ ส่วนตัวเอง ก็เพียงแค่คอยเฝ้าสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ จากนั้นก็ค่อยรายงานผลงานให้ผู้มีพระคุณได้ทราบในภายหลัง
แต่เธอไม่คาดคิดว่า ในตอนที่ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเข้าไปภายในวิลล่านั้น ด้วยความเร็วของเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง บินตรงจากเขาอีกลูกหนึ่ง มุ่งไปยังพื้นที่ว่างใจกลางโฮมสเตย์ว่านหลิ่วหลังนั้น
ในขณะที่เธอยังคงมึนงงสงสัย ว่าใครกันที่จะนั่งเฮลิคอปเตอร์มาที่โฮมสเตย์ว่านหลิ่วในเวลานี้ได้ ก็ได้มีเงาดำหนึ่งกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ที่ส่งเสียงดังสนั่นลำนั้น
ที่สำคัญคือ เฮลิคอปเตอร์ในตอนนั้นยังอยู่ในสภาพที่บินโฉบลงมาอย่างรวดเร็ว เครื่องนั้นมีความเร็วแรงอยู่แล้ว บวกกับความสูงจากพื้นดินที่มีอีกกว่าหลายสิบเมตร แต่ไม่คาดคิดว่า หลังจากที่คนคนนั้นกระโดดลงมา ร่างของเขาก็ยังทรงตัวได้อย่างมั่นคงในขณะที่แตะถึงพื้น!
ทันทีที่คนคนนั้นแตะถึงพื้น เฮลิคอปเตอร์ก็นำเครื่องขึ้นบินอีกครั้งในทันที เงาดำนั้นไม่ได้รับแรงกระแทกใดๆเลยสักนิด แล้วเดินมุ่งหน้าตรงเข้าไปภายในวิลล่า !
เห็นเพียงการกระโดดของคนผู้นั้น กับท่าทีของเขาที่แตะถึงพื้นอย่างไม่ได้รับแรงกระแทกใดๆ หยุนหรูเกอก็พอจะสรุปได้ว่า คนผู้นี้จะต้องเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งแน่ๆ และยังเป็นยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญปราณทิพย์ด้วย!
ในวินาทีนั้น หัวใจของเธอก็หยุดนิ่ง ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวสมอง ก็คือเมืองจินหลิงยังมีศัตรูที่แข็งแกร่ง ตัวเองจะต้องรีบเตือนท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง
แต่เพียงไม่นานเธอก็นึกขึ้นได้ ว่าตัวเองได้รับคำสั่งจากผู้มีพระคุณ ว่าให้คอยแอบสอดส่องท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง หากไปเตือนท่านเอิร์ลฉางเซิ่งในตอนนี้ ก็เท่ากับทรยศผู้มีพระคุณ
ดังนั้น เธอในตอนนั้น ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโดยไม่รู้ตัว ตั้งใจจะโทรรายงานผู้มีพระคุณในทันที
แต่เมื่อเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก็พบว่า มือถือของตัวเองที่ตรงบริเวณกลางเขานี้ กลับไม่มีสัญญาณใดๆเลย!
ที่เธอไม่รู้ก็คือ ในเวลานี้ เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นที่ขึ้นบินไปด้วยระดับความสูงกว่าหลายพันฟุต และกำลังบินลอยตัวอยู่เหนือโฮมสเตย์ว่านหลิ่วหลังนี้ ได้เปิดใช้งานอุปกรณ์การตัดสัญญาณรบกวนที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว