ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5623 ทิ้งศีรษะไว้(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5623 ทิ้งศีรษะไว้(2)
เย่เฉินไม่ได้สนใจเขา ยกยิ้มบางเบาแล้วพูดว่า“ฉันอาศัยอยู่ใต้ชายคาคนอื่นที่เมืองจินหลิงมายี่สิบปี ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ฉันไม่เคยไปหาตระกูลเย่ และไม่เคยไปหาตระกูลอาน ท่านรู้ไหมว่าเพราะอะไร ?”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งขมวดคิ้วและถามว่า“เพราะอะไร?”
เย่เฉินพูดเสียงเรียบ“ก็ต้องเป็นเพราะฉันเกลียดพวกเขา!จนในตอนนี้ ฉันก็ไม่สามารถจะให้อภัยพวกเขากับการทรยศและทอดทิ้งพ่อแม่ของฉันได้ ”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งถาม“ในเมื่อเกลียดพวกเขา เหตุใดเจ้าจึงช่วยพวกเขาอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า?”
เย่เฉินยิ้มและพูดว่า“ที่ช่วยเหลือพวกเขามันเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น เมื่อครั้งที่นครนิวยอร์ก ท่านเองก็น่าจะรู้ว่าเป็นงานคอนเสิร์ตของกู้ชิวอี๋ ตระกูลอานก็ไปดูคอนเสิร์ตนั้นเช่นกัน ดังนั้นพวกท่านก็จึงสบโอกาส”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเหล่ตามองเย่เฉิน เรื่องนี้ถึงเขาจะไม่มีส่วนร่วมด้วย แต่ก็รู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี
เป็นสายขององค์กรพั่วชิงที่แฝงตัวอยู่ในตระกูลอาน จู่ๆก็แจ้งข่าวว่าตระกูลอานจะรวมตัวกัน ผู้มีพระคุณก็จึงส่งทหารหน่วยกล้าตายไปสังหารที่งานคอนเสิร์ตในทันที ผลปรากฏว่าทหารหน่วยกล้าตายที่ส่งไปก็เงียบหายไม่มีข่าวคราว
เย่เฉินพูดต่อ“กู้ชิวอี๋เป็นคนเย่นจิง พ่อของเธอกู้เย้นจง เป็นพี่น้องร่วมสาบานของพ่อฉัน ดังนั้นเมื่อตอนยังเด็กฉันกับเธอก็ได้หมั้นหมายกัน พูดตามจริงเลยก็คือ เธอคือคู่หมั้นที่พ่อกับแม่ของฉันได้หาไว้ให้ก่อนที่จะเกิด ”
“วันนั้นที่ฉันไปโผล่ที่นั่นได้ ก็เป็นเพราะฉันจะไปให้กำลังใจกู้ชิวอี๋ และบังเอิญได้นั่งใกล้ๆกับตระกูลอาน หากจะว่าฉันยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา ไม่สู้บอกว่าฉันอยากจะจับตัวทหารหน่วยกล้าตายเพื่อเค้นความจริงจะดีกว่า หากไม่ใช่เพราะทหารหน่วยกล้าตายเหล่านั้น ฉันจะรู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรพั่วชิงได้ยังไง ?”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดต่อ“ส่วนวันนี้ พูดตามตรง จุดประสงค์หลักในการมาที่นี่ของฉันไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือใคร แต่มาเพื่อฆ่าท่าน !”
ดวงตาของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งแข็งทื่อ“ฆ่าข้า?อย่างเจ้านี่นะเหรอ?!”
เย่เฉินยิ้มและพูดว่า“ฉันไม่เพียงจะฆ่าท่านเท่านั้น ยังจะฆ่าท่านเอิร์ลสองคนที่เหลือขององค์กรพั่วชิงด้วย จากนั้นก็จะสับผู้มีพระคุณบ้าบออะไรนั่นให้เป็นชิ้นๆ!ส่วนท่าน ก็เป็นแค่ดอกไม้ใบหญ้าที่ไร้ความสามารถตามรายทางของการแก้แค้นของฉันเท่านั้น !”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งยิ้มเยาะแล้วพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน“ถ้าเป็นเช่นนั้น รอข้าฆ่าครอบครัวของตากับยายเจ้าแล้ว ค่อยมาวัดกันตัวต่อตัวกับเจ้า!”
เย่เฉินยิ้มเยาะแล้วพูดว่า“จะวัดก็วัดกันตอนนี้เลย หากท่านไม่วัดฉันคงต้องขอตัวก่อน”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดขึ้นอีก“เอ่อนี่ วันนี้ฉันจดจำใบหน้าของท่านไว้แล้ว ในอนาคตหากอยากจะตามหาฉัน เกรงว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว!หรือไม่ก็อาจจะเป็นฉันเองที่ไปหาท่าน!จะตามมาหรือไม่ ท่านตัดสินใจเอาเอง!”
พูดจบ เย่เฉินก็หันหลังให้ในทันที แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วแบบไม่หันกลับมามอง
เขาไม่ได้อยากจะลองเสี่ยงว่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจะตามมาอย่างไม่ลังเลหรือไม่ แต่เขารู้และมั่นใจอย่างมากว่า ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจะต้องไล่ตามมาในทันทีอย่างไม่ลังเลใจแน่นอน!
เหตุผลที่มั่นใจมากแบบนี้ ก็เพราะเมื่อครู่ในตอนที่เย่เฉินหลบหลีกคมมีดของเขา ก็ได้จงใจให้เขาเห็นว่าตัวเองนั้นมีทักษะที่ว่องไวแค่ไหน
และเย่เฉินก็เชื่อว่า ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งผู้นี้ก็น่าจะเข้าใจเป็นแน่ ว่าด้วยความสามารถของเขา อยากจะไล่ตามตัวเองให้ทันนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
หากไม่ปล่อยเวลาทิ้งเปล่าไปเลยแม้แต่เสี้ยววินาที ไล่ตามอย่างสุดกำลังความสามารถก็อาจจะมีโอกาสเกินครึ่ง แต่หากเสียสมาธิเพียงเล็กน้อย หรือชักช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ก็ไม่มีทางที่จะตามทันได้อย่างแน่นอน
และหากเขาต้องการที่จะฆ่าคนจำนวนมากเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย!
ต่อให้คนของตระกูลอานจะอ่อนแอแค่ไหน เขาที่เปิดใช้เครื่องรางพาสซีฟ ก็ต้องใช้เวลาอยู่แล้ว และยังต้องฆ่าคนอีก อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลากว่าสิบวินาที ดังนั้นเขาย่อมต้องรู้มันดี ว่าจะฆ่าคนหรือวิ่งไล่ตามไป เลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น !
และแล้วก็เป็นไปตามที่เย่เฉินได้คาดคิดไว้ !
ในตอนที่เขาวิ่งออกพ้นประตูไป ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไม่ได้ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย ไล่ตามหลังมาในทันที!
สำหรับเขาแล้ว ชีวิตและความตายของคนตระกูลอาน เมื่อเทียบกับแหวนที่อยู่ตรงหน้า ก็ไม่ได้สลักสำคัญเลย!
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกว่าตระกูลอานนั้นไม่มีความสามารถอะไรอีกแล้ว ตัวเองไล่ตามล่าฆ่าเย่เฉินได้ แล้วช่วงชิงแหวนมา พวกเขาก็หนีไปไหนได้ไม่ไกล!
นอกจากนี้ คนของตระกูลอานไม่มีใครปกป้องดูแล ตัวเองสามารถจะสังหารเย่เฉินก่อน แล้วค่อยวกกลับมา ฆ่าคนของตระกูลอานทั้งหมดได้
ด้วยวิธีนี้ ตัวเองไม่เพียงจะได้แหวนมาครอบครองเท่านั้น แต่ยังได้ฆ่าตระกูลอานกับเย่เฉินด้วย เท่ากับทำภารกิจทั้งสามของผู้มีพระคุณที่ให้มาสำเร็จได้ในคราเดียว!
แต่ทว่า หากตัวเองปล่อยให้เย่เฉินหนีรอดไปได้จริงๆ อย่างนั้นแล้วความสูญเสียที่มีก็จะต้องหนักหนาอย่างมาก!ไม่เพียงเปิดเผยตัวตนของตัวเองเท่านั้น แต่ยังพลาดโอกาสอันดีที่จะได้แหวนนั้นอีกด้วย!
ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมาขบคิดเลยว่าจะไล่ตามไปดีหรือไม่ และไม่จำเป็นต้องมาเป็นกังวลว่าเย่เฉินกำลังล่อเสือออกจากถ้ำหรือเปล่า เพราะเขารู้ ไล่ตามไปอย่างสุดกำลัง คือทางเลือกเดียวของตัวเอง!